Marchwood ไวน์บาร์ในย่านเอกมัย ย้ายสู่สาขาใหม่บนชั้น 3 ของ The Strand Thonglor คอนโดหรูติดปากซอยทองหล่อ ที่แค่ลงบันได BTS แล้วข้ามถนนมาไม่กี่อึดใจก็ถึงแล้ว
ด้วยความที่พาร์ตเนอร์ร้านทำธุรกิจนำเข้าไวน์ ทำให้ Marchwood ยึดมั่นในหลักการเลือกสินค้าที่ดี ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ที่นี่มีให้เลือกหลายประเภทและหลายช่วงราคา แถมใครที่เป็นสายเนเชอรัลไวน์หรือไบโอไดนามิกไวน์ ก็ยังเอ็นจอยกับการชิลที่ Marchwood ได้
และไม่เพียงแค่การเป็นร้านไวน์ที่มีฉลากให้เลือกหลากหลาย แต่เรื่องอาหารก็จริงจังไม่แพ้กัน จะเป็นไวน์ดินเนอร์ ของกินเล็กน้อยแกล้มไวน์ หรือหอยนางรมกับแชมเปญ ก็เป็นได้ทั้งสามแบบ หรือใครที่อยากลองชิมอาหารนอกเมนู ในแต่ละสัปดาห์ก็จะมีวัตถุดิบพิเศษหมุนเวียนนำเสนอเช่นกัน
ดูเหมือนทองหล่อจะมีพื้นที่สำหรับคอไวน์เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งไม่ใช่ร้านเปิดใหม่ที่ไหนแต่เป็น Marchwood ร้านอาหารและไวน์บาร์ย่านเอกมัย ย้ายทำเลมายังบ้านหลังใหม่บนชั้น 3 ของ The Strand Thonglor คอนโดหรูติดปากซอยทองหล่อ ที่แค่ลงบันได BTS แล้วข้ามถนนมาไม่กี่อึดใจก็ถึงแล้ว
จากล็อบบี้กดลิฟต์แก้วขึ้นมาที่ชั้น 3 หลังประตูกระจกคือจุดหมายปลายทางของคอไวน์ทั้งหลาย เพราะหนึ่งในพาร์ตเนอร์ร้านเป็นผู้นำเข้าไวน์ จึงมั่นใจได้เลยว่ามาที่นี่ไม่มีทางคอแห้งแน่นอน
ใครที่คิดว่าไวน์บาร์ต้องมาในโทนเข้มขรึมคงต้องยกเว้นที่นี่ไว้หนึ่งแห่ง เพราะตัวร้านออกแบบให้ผสมผสานระหว่างลอฟต์แบบยุโรป กับการใช้ลูกเล่นพื้นผิวและรายละเอียดยิบย่อยที่มักพบเห็นได้ในฝั่งเอเชียโดยเฉพาะเกาหลี ดังจะเห็นได้จากการเลือกใช้พื้นผิวโต๊ะและเก้าอี้หลายแบบ รวมถึงการเจาะผนังเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับร้าน
หากมาฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษ หรือจองเป็นกลุ่มใหญ่ก็มีห้องส่วนตัวรองรับ และถ้าวันไหนอากาศดี เราแนะนำให้นั่งริมระเบียงจิบไวน์เคล้าลมเย็นก็สบายตัวเหมือนกัน
และที่ขาดไม่ได้สำหรับสายไวน์นั่นคือห้องเก็บไวน์ ซึ่งได้รับการออกแบบพิเศษโดยบุผนังห้องให้เหมือนอยู่ในถ้ำบ่มไวน์จริงๆ แม้จะไม่ได้มาดินเนอร์ก็สามารถแวะมาซื้อไวน์กลับบ้าน และในอนาคต Marchwood ก็จะเป็น Wine Cellar ให้กับลูกบ้านของ The Strand อีกด้วย
แม้จะอยู่ใจกลางทองหล่อ แต่ Marchwood ยังคงยึดมั่นในหลักของดี ราคาสมเหตุสมผล เพราะพาร์ตเนอร์ร้านทำธุรกิจนำเข้าไวน์ ที่นี่จึงมีทั้งฉลากฮิตติดลมบนหลายประเภทและหลายช่วงราคา มีแชมเปญให้เลือกหลากหลายฉลาก การเฟ้นหาแชมเปญสักขวดในราคาไม่ถึงสองพันบาทจึงไม่ได้เป็นเรื่องยาก ส่วนใครที่เป็นสายเนเชอรัลไวน์หรือไบโอไดนามิกไวน์ ก็ยังเอ็นจอยกับการชิลที่ Marchwood ได้เช่นกัน
ไม่เพียงแค่การเป็นร้านไวน์ที่มีฉลากให้เลือกหลากหลาย แต่เรื่องอาหารก็จริงจังไม่แพ้กัน จะเป็นไวน์ดินเนอร์ ของกินเล็กน้อยแกล้มไวน์ หรือหอยนางรมกับแชมเปญ ก็เป็นได้ทั้งสามแบบ หรือใครที่อยากลองชิมอาหารนอกเมนู ในแต่ละสัปดาห์ก็จะมีวัตถุดิบพิเศษหมุนเวียนนำเสนอเช่นกัน
เรียกน้ำย่อยก่อนเข้าสู่จานเส้นกับจานหลัก แนะนำให้ลอง Beef Tartare (450 บาท) เนื้อวากิวอีโบนีแองกัสสันในสับชิ้นเต๋าเล็กกำลังดี พร้อมไข่แดงซูวีที่ให้ความนุ่มเมื่อคลุกเคล้ากับเนื้อ ชีสรมควันกับถั่วพิสตาชิโอที่โรยด้านบนช่วยเพิ่มรสสัมผัส รับประทานคู่กับแผ่นข้าวเกรียบทำเองของร้าน
Grilled Corn (250 บาท) จานนี้เป็นสลัดข้าวโพดสองชนิด เชฟเลือกข้าวโพดหวานไทยกับข้าวโพดนมสดฮอกไกโด นำไปย่างจนหวานหอมและได้รสชาติข้าวโพดที่เข้มข้นกว่าเดิม ราดซอสมะกรูดอิมัลชันกลางชาม คลุกให้เข้ากันกับข้าวโพดเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น
พาสต้าสักจานก่อนไปเมนคอร์สก็ดีเหมือนกัน Aglio e Olio Pasta (490 บาท) เรียบง่ายที่สุดแต่ความอร่อยไม่แพ้จานอื่น พาสต้าผัดเบคอน พริกแห้ง กระเทียม และน้ำมันมะกอก เหยาะน้ำมันพริกโฮมเมดให้รสจัดจ้านขึ้น และใส่พาร์มาแฮมกับผักร็อกเก็ตมาด้วย เรียกได้ว่าครบทั้งเครื่องและเส้น แถมยังรสชาติดีกว่า AOP แบบทั่วไปอีกด้วย
เข้าสู่ช่วงของจานหลัก Roasted Chicken (690 บาท) ไก่อบซูวีเนื้อฉ่ำนุ่ม ทาน้ำมันสมุนไพรเคลือบชั้นบางๆ ที่หนังไก่ เสิร์ฟพร้อมผักย่าง แครอตพิวเร และซอสเขียวผักชี
ถ้าให้เข้ากับไวน์แดงที่สุดคงหนีไม่พ้นสเต๊ก Australian Tenderloin (890 บาท) วากิวอีโบนีแองกัสจากออสเตรเลียน้ำหนัก 150 กรัม สุกระดับมีเดียมแรร์ ราดซอสพริกไทยกัมปอตกับบีฟจูส์ รับประทานคู่กับวาซาบิดอง และมันฝรั่งพิวเร
Marchwood
Open: อังคาร-อาทิตย์ เวลา 14.00-23.00 น.
Address: ชั้น 3 The Strand Thonglor ซอยสุขุมวิท 55
Budget: 1,000-2,000 บาท
Website: www.instagram.com/marchwoodbkk
Map: https://goo.gl/maps/HBznj6tCJ3L5yXyy9