นี่จะต้องกลายเป็นร้านสุดฮอตแห่งใหม่ประจำสยามพารากอนอย่างแน่นอน กับ ‘Bura Marie (บุรามารี)’ แบรนด์ใหม่จากเครือ iBerry ที่มาในคอนเซ็ปต์ร้านอาหารไทยในโรงน้ำชา โดยร้านนี้คุณปลาแห่ง iBerry Group จับมือกับเชฟรสมือดีอย่าง เชฟป๊อป-พิชชากร รามบุตร จากร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิง ADHOC ให้มาช่วยรังสรรค์เมนูอาหารไทยที่เหมาะจับคู่กินพร้อมน้ำชาหอมๆ ที่เป็นอีกไฮไลต์พิเศษประจำร้าน
Bura Marie เปิดอยู่บนชั้น G ในสยามพารากอน ร้านหาเจอไม่ยากเพราะอยู่ตรงทางเดินเชื่อมไปสยามเซ็นเตอร์ หรือถ้าใครมาทางสถานีรถไฟฟ้าก็สามารถลงบันไดเลื่อนหน้าศูนย์การค้าลงมาได้เลย แล้วจะพบกับร้านแห่งนี้ที่มาในบรรยากาศอบอุ่น น่านั่งพักจิบชา สั่งอาหารรสชาติถูกปากมาชิม
เมนูของร้านเป็นอาหารไทยที่ตั้งใจให้เราสั่งมากินด้วยกันเป็นสำรับ และถึงแม้บางเมนูดูเป็นของว่างก็สั่งมาแล้วกินอิ่มได้เช่นกัน โดยเมนูที่เราอยากแนะนำ ได้แก่ ‘พล่าเนื้อพิคานย่าย่าง (550 บาท)’ เนื้อย่างชิ้นโตฉ่ำๆ นุ่มสู้ฟัน คลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดแต่กลมกล่อม เมนูนี้พวกเราชอบมากๆ
เช่นเดียวกับเมนู ‘แกงเขียวหวานเนื้อซี่โครง โรตีตบ (650 บาท)’ แกงไทยรสเข้มข้น เครื่องแกงหอมมัน ส่วนเนื้อก็นุ่มละมุนเข้ากับเนื้อแกงและโรตี ยิ่งกินคู่กันยิ่งฟินจนหยุดไม่อยู่ และที่พลาดไม่ได้สุดๆ ก็คือ ‘ไข่เจียวปูอู้ฟู่ (900 บาท)’ ไข่เจียวที่ทอดจนกรอบฟู เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมเนื้อปูแน่นๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านใน รับรองเลยว่ากินแล้วติดใจจนอยากกลับมาซ้ำแน่นอน แล้วหากอยากกินเมนูตัดรสสักหน่อย เราว่าต้องสั่ง ‘น้ำพริกปลาทู (280 บาท)’ น้ำพริกรสเด็ดแก้เลี่ยนแถมยังมาพร้อมผักสดสมุนไพรไทย
‘ข้าวตังหน้าตั้ง (320 บาท)’ ที่มาพร้อมหลนกุ้งก็ควรสั่ง เป็นของว่างที่กินแล้วสดชื่นชวนกินต่อไม่หยุด หรือใครอยากลอง ‘หอยทอดขนมครก (250 บาท)’ เราก็แนะนำ ยิ่งกินตอนร้อนๆ กรอบๆ จะยิ่งดี
ถ้าใครไม่อยากกินข้าวธรรมดาๆ ลองสั่งเมนู ‘ข้าวผัดมันเนื้อพริกขี้หนู (360 บาท)’ ข้าวเม็ดนุ่มหอมกลิ่นมันเนื้อและเนื้อแดดเดียว เวลากินให้คลุกข้าวกับผักสมุนไพรและเนื้อ ก่อนบีบมะนาวให้หอมๆ รับรองเป็นอีกเมนูโปรดแน่ๆ แล้วหากสั่งเมนูผัดผักอย่าง ‘ถั่วหวานผัดปลาหมึก (280 บาท)’ มากินคู่กันอีก รับรองมื้อนี้ครบทุกรสทุกอารมณ์
อย่างที่บอกว่าที่ Bura Marie เป็นโรงน้ำชาที่ทุกคนสามารถมานั่งกินของว่างจิบชาสบายๆ ได้เช่นกัน ร้านจึงมีเบลนด์ชาจากดอกไม้และผลไม้เป็นของตัวเองกว่า 10 รสชาติ อาทิ Lotus de Marie (เย็น 175 บาท/ร้อน 195 บาท) ชาดำหอมกลิ่นดอกบัว หรือ Lychee & Jasmine Oolong (เย็น 175 บาท/ร้อน 195 บาท) ชาอู่หลงหอมหวานจากลิ้นจี่และมะลิ
ส่วนเซ็ตของว่าง ‘High Tea Set (850 บาท)’ เสิร์ฟเครื่องคาวหวานแบบไทยๆ พร้อมชา 1 เบลนด์ เมนูของว่างอาทิ กุ้งสามเกลอพันหมี่ กรานิต้าส้มฉุน หลนกระทงทอง ขนมถ้วย ทองพับและสังขยาใบเตย หรือถ้าใครแค่อยากกินขนมหวานตบท้ายอาหารคาว เราอยากให้สั่ง ‘ทองม้วนสดกรอบ (135 บาท)’ โดยมีให้เลือกทั้งไส้ครีมมะพร้าวและคัสตาร์ดถั่วกวน เราชอบที่รสชาติไม่หวานจนเกินไป แป้งก็บางกรอบกำลังดี กินคู่กับชาแล้วเข้ากันสุดๆ
Good for
Bura Marie เป็นร้านอาหารไทยที่เราเชื่อว่าถ้าใครได้ลองก็น่าจะประทับใจกันทุกคน เราชอบที่ร้านมีหลายมุมให้เลือกนั่ง และแต่ละโต๊ะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวพอสมควรด้วย รสชาติอาหารก็ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแน่นอน เพราะฉะนั้นใครอยากชวนครอบครัว เพื่อน หรือคนสนิทมานั่งจิบชากินขนมเราว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีเลย
🍛 Bura Marie
⏰ Open: เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
💬 Contact: BuraMarie
📍 Address: Siam Paragon, G Floor
💰 Budget: 1,000-3,000 บาท