ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ออกบทประเมินที่ระบุว่า ธุรกิจร้านอาหารที่มีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท คาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตราว 11% ในปีนี้ เนื่องจากการขยายตัวต่อเนื่องของการบริโภคภาคเอกชน การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
หนึ่งในนโยบายของภาครัฐที่กำลังเป็นที่สนใจคือ มาตรการ ‘Easy e-Receipt’ มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2567 และสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี สำหรับผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล)
สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น
กระทรวงการคลังยังคาดการณ์ว่า มาตรการ Easy e-Receipt จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 7 หมื่นล้านบาท และกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นประมาณ 0.18%
จุดนี้เองทำให้ทุกธุรกิจต่างออกมาขานรับมาตรการกันอย่างถ้วนหน้า รวมไปถึง เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) ที่ออกบริการ e-Tax Invoice เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และเพิ่มการลดหย่อนภาษีได้อีก (โดยจะส่งให้ทางอีเมลที่ลงทะเบียน) เมื่อใช้บริการที่ร้านอาหารชั้นนำในเครือซีอาร์จี 19 แบรนด์ที่ร่วมแคมเปญ
ได้แก่ มิสเตอร์ โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์, ชาบูตง ราเมน, โคล สโตน ครีมเมอรี่, เทอเรสซ์ เดอ บางกอก, โยชิโนยะ, โอโตยะ, เทนยะ, คัตสึยะ, อร่อยดี, เกาลูน, สลัดแฟคทอรี่, บราวน์, ส้มตำนัว, อาริกาโตะ, ราเมน คาเกทสึ อาราชิ และ คีอานิ รวมถึงบริการสั่งอาหารผ่าน 1312 FOODHUNT DELIVERY ด้วย
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/66 ซีอาร์จีรายได้อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 128 ล้านบาท
โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/66 ซีอาร์จีมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,602 สาขา เพิ่มขึ้น 59 สาขา เติบโต 4% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 3/65 โดยเน้นการขยายสาขากับแบรนด์หลัก ได้แก่ เคเอฟซี 22 สาขา, อานตี้ แอนส์ 12 สาขา, สลัดแฟคทอรี่ 7 สาขา, ชินคันเซ็น ซูชิ 8 สาขา สำหรับอาริกาโตะเพิ่มขึ้น 34 สาขา เป็นการเพิ่มจำนวนสาขาที่อยู่กับร้านมิสเตอร์ โดนัท (Shop-in-Shop) เป็นหลัก
