เรารู้สึกทั้งแปลกใจระคนกับดีใจไปพร้อมๆ กัน เมื่อจู่ๆ ก็เห็นวงการอาหารไฟน์ไดนิ่งมีร้านอาหารไทยเปิดใหม่เยอะขึ้น ซึ่งไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราตื่นเต้นที่จะได้เห็นเชฟรุ่นใหม่มาช่วยกันยกระดับอาหารไทยให้ไม่หยุดอยู่กับที่ และใส่ความสร้างสรรค์ในฉบับของตัวเองลงไปเพื่อรังสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆ น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ชิม
วันนี้เราเลยรวม ‘6 ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งเปิดใหม่’ มาแนะนำให้ทุกคนตามไปลองกันดู รับรองว่าแต่ละร้านน่าสนใจและจะทำให้คุณรักอาหารไทยมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
1. TAAHRA
TAAHRA (ธารา) ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่มีความพิเศษอยู่ตรงจะใช้เทคนิค ‘การย่างด้วยถ่าน’ หรือ Charcoal Grill มาเป็นพระเอกในการปรุงอาหารแทบทุกจาน ที่นี่นำทีมโดย เชฟน็อค-พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ ที่ทำงานอยู่ในวงการนี้มากว่า 10 ปี และเคยร่วมงานกับเชฟร้านอาหารมิชลินจากทั่วโลก
เมื่อได้มาทำอาหารไทยเชฟจึงไม่ลืมที่จะหยิบเอาเทคนิคการทำอาหารของครัวยุโรปมาประยุกต์ใช้ พร้อมหยิบเฉพาะวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วมุมโลกมาใส่ในแต่ละจานด้วย เช่น เป็ดชาลลอง (Challans), นกพิราบจากเมือง Bresse ประเทศฝรั่งเศส หรือเนื้อออสเตรเลียวากิว ควบคู่กับการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น
เมนูในซีซันแรกของ TAAHRA เป็นอาหารไทย 13 คอร์ส ราคา 3,800++ บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ TASTE: TAAHRA ไฟน์ไดนิ่งที่ชูรสชาติอาหารไทยด้วยเตาถ่าน (Thai Charcoal Grill)
2. Vilas
วิลาศ (VILAS) ร้านไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ล่าสุดของ เชฟปริญญ์ ผลสุข แห่งสำรับสำหรับไทย ซึ่งร้านนี้เชฟมาในท่าทีใหม่ ไม่ใช่อาหารไทยๆ เหมือนเคย เพราะเชฟปริญญ์อยากยกพื้นที่อาหารไทยไว้ที่สำรับสำหรับไทย
เมื่อมาเปิดร้านใหม่เชฟจึงอยากขยายขอบเขตอาหารและวัตถุดิบไปสู่ชาติอื่นๆ ดูบ้าง ดังนั้นเมนูอาหารที่วิลาศจึงไม่ได้เป็นอาหารไทยหรืออาหารชาติใดชาติหนึ่ง แต่เป็นการผสมผสานวัตถุดิบนานาชาติ เทคนิค และวัฒนธรรมอาหารของชาติต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยเสิร์ฟผ่านเสิร์ฟเมนู 12 คอร์ส (4,500++ บาท) ที่ออกแบบโดยเชฟปริญญ์เอง ซึ่งหนักไปทางการใช้วัตถุดิบญี่ปุ่น เช่น ปลาไหล อูนิ มิโซะ ข้าวญี่ปุ่น ฯลฯ มาทำเป็นคอร์สเมนูไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์อัดแน่นอยู่ในทุกคำ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ TASTE: เมื่อวัตถุดิบต่างชาติแปลงร่างเป็นเมนูไทยที่ วิลาศ (VILAS) โดยเชฟปริญญ์
3. Namo
ใครที่เป็นแฟนอาหารของ เชฟแบล็ก-ภานุภน แห่ง Blackitch Artisan Kitchen และ เชฟแวน-เฉลิมพล แห่งร้าน DAG ตอนนี้พวกเขาสองคนมาจับมือกันเปิดร้านอาหารป๊อปอัพเฉพาะกิจที่เปิดเพียง 3 เดือนเท่านั้น ในชื่อว่า นะโม (Namo)
ไอเดียของร้านนี้เกิดขึ้นเพราะเชฟอยากนำเสนออาหารที่ใช้วัตถุดิบไทยมาทำเป็นเมนูต่างๆ ที่ไม่จำกัดว่าต้องเป็นอาหารไทยเท่านั้น แต่เป็นอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชาติต่างๆ ที่เคยได้ลิ้มลองมา บวกกับการใช้เทคนิคการทำอาหารจากทั่วโลกที่นำมาประยุกต์ ดัดแปลง และนำเสนอในแบบที่ถูกจริตของตน
อาหารที่นี่จึงมีกลิ่นอายของอาหารชาติต่างๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่สามารถอยู่รวมกันในจานเดียวหรือคำคำเดียวได้สนุกและน่าสนใจตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเสิร์ฟทั้งหมด 12 คอร์ส ราคา 3,600++ บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Namo ร้านอาหารไร้สัญชาติวัตถุดิบไทยของเชฟแบล็กและเชฟแวน เปิดเพียง 3 เดือนเท่านั้น
4. Baan Phraya
บ้านพระยา เป็นห้องอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่พร้อมฟื้นคืนชีพครัวบ้านพระยาให้กลับมาคึกคัก เพราะเดิมทีบ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัยของ พระยามไหสวรรย์ และ คุณหญิงเลื่อน มไหสวรรย์ ซึ่งหากย้อนกลับไปสัก 50 ปี ที่นี่นับว่าเป็นเรือนต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่เลื่องชื่อด้วยอาหารไทยรสมือคุณหญิงเลื่อนที่ใครชิมก็ถูกใจ
ตอนนี้โรงแรมได้ปรับปรุงและเปลี่ยนบ้านหลังนี้ให้กลายเป็นห้องอาหารไทยที่นำเมนูโบราณมาปรุงใหม่อย่างโมเดิร์น ผ่านฝีมือของ เชฟป้อม-พัชรา พิระภาค ซึ่งเชฟตั้งใจใช้เครื่องปรุงหลักๆ เพียงแค่ ‘น้ำปลาและเกลือ’ อย่างคนสมัยก่อนเป็นหลัก
สำหรับราคาอาหารไทย 8 คอร์ส 3,500++ บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Baan Phraya ห้องอาหารไทยริมน้ำที่คืนชีพครัวเก่าสมัยพระยามไหสวรรย์ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
5. North Restaurant
ร้านอาหารเหนือไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ที่รีโนเวตบ้านเก่าอายุกว่า 80 ปีในซอยสุขุมวิท 33 ให้กลายเป็นพื้นที่นำเสนอวัฒนธรรมอาหารถิ่นล้านนา (Gastronomy of Lanna) ผ่านฝีมือทำอาหารของ เชฟนุ-ภานุพงษ์ ส่องแสง ชาวเหนือแท้ๆ กับทีมครัวที่ช่วยกันทำหน้าที่ดูแลเรื่องอาหาร โดยมีเชฟใหญ่อย่าง เชฟชุมพล แจ้งไพร เป็นผู้คอยให้คำปรึกษา
North จะยกระดับอาหารเหนือมานำเสนอใหม่ผ่านเมนู 8 คอร์สที่มีความโมเดิร์น พร้อมสอดแทรกวัฒนธรรมการกินของชาวล้านนาให้ทุกคนได้สัมผัสไปเรื่อยๆ ระหว่างมื้อ ส่วนวัตถุดิบส่วนใหญ่จะส่งตรงมาจากภาคเหนือโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการยกระดับและนำเสนอวัตถุดิบดีๆ ของท้องถิ่น
โดยตอนนี้ร้านกำลังนำเสนอเมนู ‘ข้าวแลง’ เป็นอาหารเหนือ 8 คอร์ส ราคา 2,888++ บาท
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ TASTE: North สำนึกรักภาคเหนือ รสล้านนาร่วมสมัยที่ ‘ลำขนาด’
6. Saawaan
ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งรางวัล 1 ดาวมิชลินที่ตอนนี้ร้านเปลี่ยนเฮดเชฟใหม่ เช่นเดียวกับสไตล์รสชาติทั้งหมด ให้อยู่ภายใต้การนำทีมของ เชฟเอิร์ธ-ศริตวรรธน์ วันวิชิตกูร ผู้มาจากภาคใต้และเคยทำงานที่ร้าน Nitan (นิธาน) จังหวัดภูเก็ต
Saawaan ในเวอร์ชันใหม่จึงมีทั้งความหนักแน่น จัดจ้าน และเต็มไปด้วยกลิ่นอายอาหารไทยที่กินแล้วสนุก รวมถึงยังคงเน้นคอนเซปต์การนำเสนอเทคนิคการทำอาหารไทยอยู่เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น แกง เมี่ยง ผัด ทอด โดยปัจจุบันร้านนำเสนออาหาร 8 คอร์ส ในราคา 2,490++ บาท