TASTE: ‘Son of Saigon’ ร้านอาหารเวียดนามแท้ๆ กลางถนนสุขุมวิท ที่ตั้งใจอุทิศแด่รสมือแม่

เวลาที่ได้ยินว่าเชฟคนไหนเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่ทำอาหาร เรามักจะสนใจถามถึงอาหารในวัยเด็กของเขา และนึกอยู่เสมอว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นประสบการณ์ที่ได้เปรียบ เพราะมันเหมือนคุณได้เรียนทำอาหารและเรียนรู้รสชาติของโฮมคุกกิ้งไปแล้วตั้งแต่คุณยังไม่รู้ตัวว่าชอบทำอาหารเสียด้วยซ้ำ และการมาที่ ‘Son of Saigon’ ทำให้นึกถึงพลังของอาหารรสมือแม่อีกครั้ง

Son of Saigon คือร้านอาหารเวียดนามออเทนติกที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานในย่านสุขุมวิท โดย Shaun Pham (ฌอน แฟม) เชฟและเจ้าของร้านชาวไซ่ง่อน ที่มีแพสชันในการทำอาหารมาตลอด จนกระทั่งได้เปิดร้านอาหารแห่งนี้ ที่ทั้งเป็นการสานฝันและอุทิศแด่แม่ของเขาเอง

ฌอนเกิดที่เวียดนาม แต่โตที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เขาเล่าให้เราฟังว่าถึงจะทั้งโตและทำงานในหลายๆ ประเทศ แต่ในความรู้สึกของเขา ไซ่ง่อนก็ยังคือบ้านสำหรับเขาเสมอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาหารเวียดนามรสดั้งเดิมที่แม่ทำให้ทานตลอดมาตั้งแต่ยังเด็กนั่นเอง

Son of Saigon ถ่ายทอดความเป็นเวียดนามในแบบที่เขาเติบโตขึ้นมา ทั้งในเรื่องการออกแบบ ฌอนเลือกออกแบบพร้อมทั้งสั่งทำเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจไซ่ง่อน ทั้งประตูหน้าต่างทรงโค้ง งานสานโคมไฟ และพื้นกระเบื้องที่คุณสามารถพบเห็นได้เมื่อเดินเข้าไปในบ้านหรือคาเฟ่ที่ไซ่ง่อน รวมถึงภาพวาด 3 ภาพบนกำแพงของร้าน ที่เล่าถึง 3 ฉากในความทรงจำแต่ละช่วงชีวิตของเขาที่เวียดนาม

การต้องทำงานในต่างประเทศทำให้เขานึกถึงอาหารรสมือแม่อยู่บ่อยๆ และอาหารเวียดนามรสดั้งเดิมก็ไม่ได้หากินง่ายๆ อย่างในกรุงเทพฯ เองก็ยังไม่เจอที่ที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน นั่นทำให้เขาเริ่มทำอาหารกินเองและทำให้เพื่อน จนเมื่อได้ทำร้าน Son of Saigon จึงเลือก 2 เมนูหลักอย่าง บั๋นหมี่ (Bánh Mì) และยำเส้นขนมจีน (Rice Noodle Bowl) เป็น 2 เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน เพราะเขาบอกว่า 2 จานนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำไซ่ง่อนที่คุณหาทานได้แทบทุกหัวมุมถนน และมันก็แสนจะคอมฟอร์ตเสียจนสามารถทานได้ทุกวัน

บั๋นหมี่หมูย่าง (260 บาท) ชิ้นนี้เริ่มจากที่เขาคัสตอมตัวแป้งบาแกตต์ให้เป็นแบบเวียดนามแท้ๆ ที่มีความนุ่มด้านในเล็กน้อย ปาดด้วยตับบดสูตรเวียดนาม ที่แตกต่างจากฝรั่งเศสตรงเครื่องเทศสูตรเฉพาะให้กลิ่นและรสชาติที่จัดจ้านกว่า เราเลือกไส้เป็นหมูย่างเพราะเป็นสูตรแม่ของเขา หมักเครื่องเทศนานถึง 24 ชั่วโมงก่อนนำมาย่างถ่าน ได้ความหอมควันกำลังดี

หากใครไม่อยากกินขนมปัง จะกินหมูย่างในแบบยำเส้นขนมจีน (260 บาท) ก็ได้เช่นกัน จานนี้ให้ความรู้สึกเบา เพราะน้ำจิ้มที่ราดไม่หวานจนเกินไป ยิ่งเสริมด้วยผักสดมื้อนี้เฮลตี้ทีเดียว

กาแฟเวียดนามเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่เราอยากแนะนำให้ลอง ที่นี่มีให้เลือกเมล็ดกาแฟ 2 แบบคือ Premium Weasel Coffee (230 บาท) หรือกาแฟขี้ชะมด ที่นำมาดริปแบบเวียดนาม กาแฟขี้ชะมดที่เขาเลือกใช้มีความนัตตี้และให้กลิ่นมะพร้าวบางๆ เลือกได้ทั้งดริปร้อน/เย็น หรือจะใส่นมข้นหวานด้วยก็ได้ กับแบบที่ 2 คือ Traditional Vietnamese Drip (แบบใส่นมข้น 140 บาท) ตัวนี้เป็นโรบัสต้าคั่วเข้มๆ ที่หอมมัน แนะนำว่าตัวนี้กินกับนมข้นหวานได้ดีมาก

ร้านอาหารเวียดนามในแบบ Son of Saigon ไม่จำเป็นต้องมีไปหมดทุกเมนู เพราะเลือกที่จะนำเสนอสูตรที่เป็นซิกเนเจอร์ของตัวเองจริงๆ แต่แน่นอนว่าโฮมคุกกิ้งรสมือแม่เมนูอื่นๆ จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปมาให้ได้เห็นกันแน่นอน