×

25 ปี นิตยาไก่ย่าง! ปั้นรายได้แตะพันล้านด้วย Data ทายาทรุ่น 2 เผยเคล็ดลับ ‘สาขา Standalone’ ทำเงินสูงสุด

25.11.2025
  • LOADING...
25 ปี นิตยาไก่ย่าง

ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารไทย-อีสานที่มีมูลค่าตลาดมหาศาลยังคงเป็นสมรภูมิที่มีการแข่งขันสูง ท่ามกลางผู้เล่นที่เข้ามาและออกไป มีหนึ่งแบรนด์ที่ดำเนินธุรกิจมานานถึง 25 ปีนั้นคือ ‘นิตยาไก่ย่าง’

 

แม้เศรษฐกิจจะผันผวนแต่ นิตยาไก่ย่างระบุว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 628 ล้านบาทในปี 2564 สู่ระดับ 986 ล้านบาทในปี 2567 คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 56.9% ภายในระยะเวลา 4 ปี และตั้งเป้าหมายรายได้แตะ 1,000 ล้านบาทภายในปี 2568 ภายใต้การบริหารงานของทายาทรุ่นที่ 2 ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการจากธุรกิจครอบครัวสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยการใช้ข้อมูล (Data-Driven) เป็นแกนหลัก

 

ภเดช กันตจินดา กรรมการบริหาร ร้านนิตยาไก่ย่าง ระบุว่า ความท้าทายของการเข้ามารับช่วงต่อคือการเปลี่ยนการตัดสินใจที่เคยใช้สัญชาตญาณมาเป็นการใช้ข้อมูลจริงจากระบบ POS และ CRM โดยปัจจุบันฐานสมาชิกของนิตยาไก่ย่างอยู่ที่ประมาณ 200,000 ราย และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 250,000 รายภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อวางกลยุทธ์ธุรกิจ

 

จากการวิเคราะห์ข้อมูลการขายพบอินไซต์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายในแต่ละทำเล โดยค่าเฉลี่ยยอดใช้จ่ายต่อบิลของภาพรวมอยู่ที่ 800-900 บาท แต่หากเจาะลึกรายรูปแบบสาขาจะพบว่าสาขาประเภท ‘Standalone’ มียอดใช้จ่ายต่อบิลสูงที่สุดเฉลี่ย 1,000-1,100 บาท เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวใหญ่ รองลงมาคือสาขาในห้างสรรพสินค้า และสาขาในสถานีบริการน้ำมันตามลำดับ

 

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนไปยังสาขาที่มียอดขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สาขาประชานุกูล, สาขาพระนั่งเกล้า และสาขาประชาชื่น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสาขา Standalone ที่มีพื้นที่ขายขนาดใหญ่ ทำให้เห็นว่าโมเดลร้านขนาดใหญ่ที่รองรับกลุ่มครอบครัวยังคงเป็นจุดแข็งสำคัญของแบรนด์ในการสร้างรายได้

 

ปัจจุบันนิตยาไก่ย่างมีสาขาให้บริการทั้งสิ้น 31 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยความสำเร็จของสาขาเหล่านี้มาจากการวางกลยุทธ์การเลือกทำเล (Location Strategy) ที่ชัดเจนและเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า โดยการเลือกทำเลที่มีที่จอดรถกว้างขวางและเส้นทางเข้า-ออกชัดเจน เพื่อรองรับลูกค้าที่ส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่มและใช้เวลารับประทานอาหารนาน

 

อีกทั้งการเน้นตั้งอยู่บนถนนเส้น ‘ขาออกเมือง’ เป็นหลัก เนื่องจากผู้คนในฝั่งขาออกมักไม่เร่งรีบเท่ากับฝั่งขาเข้าเมือง จึงมีโอกาสแวะทานอาหารได้ตลอดทั้งวันและใช้เวลาที่มีคุณภาพได้มากกว่า

 

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเลือกเปิดสาขาใน ‘แหล่งชุมชน’ ที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น แทนการเปิดในย่านออฟฟิศ เพราะย่านออฟฟิศมักขายดีเฉพาะช่วงพักเที่ยงและเป็นมื้อเร่งด่วนที่ทานคนเดียว แต่ในย่านชุมชน ลูกค้ามีเวลายืดหยุ่นกว่าและมักมาเป็นครอบครัว

 

จุดนี้เองทำให้มูลค่าต่อโต๊ะสูงกว่าและมีการหมุนเวียนโต๊ะ (Table Turnover) เฉลี่ยสูงถึง 4 รอบต่อวัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาช่องทางออนไลน์และเดลิเวอรีให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมสั่งอาหารไปทานที่บ้าน

 

สำหรับทิศทางการขยายธุรกิจในปี 2569 ภเดชเปิดเผยว่า วางแผนเปิดสาขาใหม่ประมาณ 1-2 สาขา โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ยต่อสาขาอยู่ที่ 10 ล้านบาท ทำเลเป้าหมายที่อาจเป็นไปได้คือโซนภาคตะวันออก เช่น จังหวัดชลบุรีและระยอง หลังจากเพิ่งไปเปิดสาขาต่างจังหวัดสาขาแรก ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีการตอบรับที่ดี

 

อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ยังต้องพิจารณาตามความชัดเจนของสภาวะเศรษฐกิจ หากเป็นช่วงเศรษฐกิจปกติ บริษัทจะมีศักยภาพในการเปิดสาขาใหม่ได้ถึง 3-4 สาขาต่อปี แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงปรับกลยุทธ์เน้นการคัดเลือกทำเลอย่างระมัดระวังที่สุด

 

“ในเรื่องการลงทุน ต้องยอมรับว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจในช่วงปีที่แล้วจนถึงปีนี้ เราอาจจะไม่ได้ขยายสาขาเยอะเหมือนช่วงที่ผ่านมา ความท้าทายปัจจุบันคือการ Maintain ยอดขายของสาขาเดิมให้ได้” ภเดชกล่าว

 

นอกจากการเปิดสาขาใหม่ นิตยาไก่จึงให้ความสำคัญกับการรีโนเวทสาขาเดิมควบคู่กัน โดยใช้งบประมาณเทียบเท่ากับการเปิดสาขาใหม่ เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วในหลายสาขา เช่น รังสิต และซอยสายลม

 

ในส่วนของแผนการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ นิตยาไก่อยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้และเปิดกว้างสำหรับการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยยอมรับว่าที่ผ่านมายังไม่มีความพร้อม แต่ปัจจุบันเริ่มมีการศึกษาข้อมูลจริงจังว่าจะเริ่มต้นที่ประเทศใด เนื่องจากมีความต้องการจากฐานลูกค้าชาวต่างชาติที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคผู้ก่อตั้ง

 

นอกจากธุรกิจร้านอาหาร (Dine-in) แล้ว นิตยาไก่ย่างยังได้เริ่มรุกตลาด ‘Catering’ หรือธุรกิจจัดเลี้ยงในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างช่องทางรายได้ใหม่ (New Revenue Stream) นอกเหนือจากการพึ่งพายอดขายหน้าร้านและเดลิเวอรี โดยบริการนี้ครอบคลุมตั้งแต่งานทำบุญ งานศพ ไปจนถึงงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งแม้สัดส่วนรายได้จะยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับพอร์ตโฟลิโอรวม แต่มีอัตราการเติบโตที่ชัดเจนและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน

 

ด้านการพัฒนาโปรดักต์ แบรนด์ได้จัดตั้งแผนก R&D เพื่อพัฒนาเมนูใหม่ทุก 4-5 เดือน โดยใช้กลยุทธ์แก้ ‘Pain Point’ ของลูกค้า ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จคือเมนูสะโพกไก่ย่างเกลือ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่มีเด็กและผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดทานไก่ติดกระดูก จนปัจจุบันกลายเป็นเมนูขายดีอันดับ 2 ของร้าน รองจากไก่ย่างสูตรต้นตำรับ

 

รวีรัตน์ ลักษณวิสิษฐ์ ผู้ก่อตั้ง ย้ำจุดยืนทางธุรกิจว่า นิตยาไก่ย่างยังคงมุ่งเน้นความเป็น ‘Winning Zone’ หรืออาหารรสชาติมหาชนที่ทานได้ทุกวัน (Comfort Food) โดยไม่ได้เน้นความจัดจ้านจนเกินไปเหมือนร้านอาหารอีสานสมัยใหม่ แต่เน้นความกลมกล่อมและคุณภาพวัตถุดิบ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แบรนด์สามารถรักษาฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนตลอด 25 ปี

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising