ร้าน SUNTOOB ซันตุ๊บ ร้านบะหมี่ทำมือชื่อแปลกในบ้านริมแม่น้ำแห่งนี้ จะมอบประสบการณ์น่ารักที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ด้วยบรรยากาศบ้านไม้ริมน้ำในฝันของใครหลายคน รสชาติของเส้นบะหมี่ทำเองที่ไม่เหมือนใคร และภาพพระอาทิตย์ตกแม่น้ำยามเย็น (หรือที่นี่จะเรียกกันว่า ซันตุ๊บ ตามชื่อร้าน) และถ้าใครอยากสัมผัสชีวิตริมน้ำให้สุด ก็สามารถนั่งเรือโดยสารมาได้ด้วยนะ
“เราคิดชื่อกันมาเยอะมาก ภาษาฝรั่งเศสก็มา แต่ไม่ถูกใจสักที อยากได้อะไรที่มันมีความหมายว่าพระอาทิตย์ตก แต่ว่าแต่ละคำมันธรรมดาไป ตอนนั้นเลยประชดไปว่า ซันตุ๊บเลยมั้ยล่ะ ไม่ได้ชอบมากสุด แต่มันติดหูสุดเลย”
อิงเอย-อิงฟ้า นิมิบุตร เจ้าของร้าน SUNTOOB เล่าเรื่องชื่อร้านที่ฟังดูแปลกแต่ก็ติดหูอย่างน่าประหลาด ชนิดที่ว่าได้ยินเพียงครั้งเดียวก็จำได้เลย และถ้าคุณจองรอบเย็นมา คุณก็จะได้นั่งมองซันตุ๊บลงไปในแม่น้ำจริงๆ ด้วย
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
ซันตุ๊บเป็นร้านบะหมี่โฮมเมดที่ทำเส้นเอง บนไอเดียว่า ‘เส้นบะหมี่กินกับอะไรได้บ้าง’ จึงออกมาเป็นเมนูบะหมี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะบะหมี่หมูตุ๋น บะหมี่จัมปง บะหมี่เนื้อสับ เส้นของที่ร้านเป็นเส้นที่ทำจากแป้งกับน้ำ ถึงวัตถุดิบจะดูง่าย แต่วิธีการทำนั้นยากมาก อิงเอยเล่าว่าการทำเส้นบะหมี่จะต้องดูลมฟ้าอากาศในวันนั้นด้วย ถ้าวันไหนอากาศชื้นหน่อยก็ต้องลดน้ำลง แต่ถ้าวันไหนลมแรงก็จะต้องใส่ตู้อบ เส้นบะหมี่ของร้านซันตุ๊บนั้นทำสดใหม่วันต่อวัน ทำได้น้อย และไม่อยากให้มีเหลือทิ้ง นี่แหละเหตุผลที่ต้องจองเข้ามาก่อน เพราะอิงเอยจะได้รู้จำนวนเส้นบะหมี่ที่ต้องทำให้ออกมาพอดีกับที่ลูกค้าจองไว้ ทั้งสดใหม่และไม่เหลือทิ้ง
ซันตุ๊บอยู่ในบ้านไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในวัดเขมาภิรตารามอีกทีหนึ่ง การเดินทางเข้ามาอาจจะดูลึกลับสักนิด แต่ก็คุ้มค่าที่จะเดินทางมา ไม่ว่าจะขับรถมาเองหรือว่านั่งเรือโดยสารมาลงที่ท่าเรือวัดเขมาฯ แล้วเดินต่อ คุณก็จะได้ช่วงเวลาดีกลับบ้านไปอย่างแน่นอน
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
เมื่อถามถึงทำเลของบ้านหลังนี้ที่อาจจะเป็นบ้านในฝันของใครหลายคน เราก็ได้รู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของปู่ทวดที่อิงเอยอยู่มาตั้งแต่เกิด พอเริ่มโตก็พาเพื่อนโดดเรียนมานั่งเล่นที่บ้านหลังนี้บ้าง เมื่อเกิดไอเดียที่จะทำอะไรสักอย่างกับบ้านหลังนี้ ก็อยากให้ความรู้สึกของการโดดเรียนมานั่งเล่นที่บ้านหลังนี้ยังคงอยู่และไม่จากไปไหน ตอนแรกอิงเอยคิดไว้ว่าจะทำเกสต์เฮาส์ดีไหม แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่ร้านอาหาร แม้ว่าอิงเอยจะทำอาหารไม่เป็นเลยก็ตาม
บรรยากาศร้าน
“หลายคนถามว่าบ้านหลังนี้สร้างใหม่หรือเปล่า จริงๆ บ้านหลังนี้ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยย่าทวดเลย สีเขียวนี่ก็สีเดิมเลย เราทาสีเองด้วยนะ”
อิงเอยเล่าเรื่องบ้านหลังนี้ว่าเป็นบ้านตั้งแต่สมัยปู่ทวดและย่าทวด อายุของบ้านนี้ก็ 70 ปีเข้าไปแล้ว เป็นบ้านแบบสมัยก่อนเลย ทั้งรูปทรง วัสดุ ผนัง สะพาน แต่ก่อนพ่อของอิงเอยใช้บ้านหลังนี้เป็นบ้านเล่นเรือ ก็จะมีสะพาน มีโป๊ะเรือ มีอู่เรือ บนสะพานก็เป็นรางรถไฟเก่าที่เอาไว้ขึ้นเรือ พอมาถึงรุ่นอิงเอยเอาบ้านมาทำร้านก็ไม่ได้ทำอะไรเยอะมาก ทำแค่รากฐานบ้านที่ใช้เสากว่า 70 ต้น ทาสีเอง แล้วก็ตกแต่งเท่านั้นเอง
“ทุกคนบอกว่าอยากมีบ้านริมน้ำแบบนี้ ถ้ามีบ้านแบบนี้นะ จะไม่ไปไหนเลย”
ในขณะที่เรากำลังจะพยักหน้าเห็นด้วย อิงเอยก็เล่าขึ้นมาก่อนว่า การอยู่ในบ้านริมน้ำไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องซ่อมบ้านทุกวันด้วยวัสดุที่เป็นไม้ โดนคลื่น โดนแดด โดนลม เวลาหน้าร้อนก็ร้อนกว่าใครเขา ทั้งแดดที่สะท้อนน้ำมาโดน ทั้งไอน้ำร้อนที่ระเหยขึ้นมา วัสดุไม้ก็อุ้มความร้อนอีก อิงเอยพูดติดตลกว่าเหมือนแช่อยู่ในน้ำร้อนตลอดเวลา จะไม่ไปไหนก็คงไม่ได้ ขอไปดีกว่า บางทีก็มีควันเรือ โรงไฟฟ้า โรงปูนก็อยู่แถวนี้อีก ส่วนหน้าหนาวก็หนาวกว่าใครเขาเพราะน้ำเย็น (แต่อิงเอยยืนยันว่าเธอชอบอยู่บ้านอยู่ดี)
ลุมเปี๊ยะ (80 บาท)
แม้ว่าข้างต้นเราจะเล่าไปว่าก่อนหน้านี้อิงเอยทำอาหารไม่เป็นเลย แต่ชีวิตคนเราคือการลอง ล้ม และลุก อิงเอยกับแม่ซื้อเครื่องทำเส้นมาลองทำกันเลย ในตอนแรกทั้งสองคนลองทำเส้นพาสต้ากัน แต่เส้นพาสต้าดูจะไม่ถูกกับอากาศที่เปลี่ยนแทบทุกวันของบ้านหลังนี้ จึงมาจบที่เส้นบะหมี่ ทั้งสองปรับสูตรจนเจอสูตรที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเส้นอร่อยจัง น่าจะขายได้ เลยตัดสินใจว่าเป็นร้านบะหมี่นี่แหละ นอกจากนี้อิงเอยยังได้ความช่วยเหลือของแฟนชาวฟิลิปปินส์ Steven Guardiano ที่มาเป็นตำแหน่งพ่อครัวของร้าน ทำให้ที่ร้านมีเมนูของทอดสไตล์ฟิลิปปินส์ให้ลองชิมกันด้วย
เริ่มกันที่เมนูเด็ดของพ่อครัวที่เราแนะนำว่าถ้ามาถึงแล้วต้องสั่ง ลุมเปี๊ยะ (80 บาท) ของกินเล่นแบบฟิลิปปินส์ หน้าตาคล้ายปอเปี๊ยะ แป้งบางกรอบ ด้านในยัดไส้ด้วยหมูสับ หอมแดง และแครอทสับ ทอดมาแบบกรอบกำลังดี จิ้มกับซอสซาวครีมรสชาติเบาบางก็เพลิน แต่ถ้าชอบจิ้มกับซอสมะเขือเทศก็สามารถบอกกับทางร้านได้เลย เมื่อกินหมดตะกร้าแรกแล้วเราเชื่อว่าคุณจะต้องอยากสั่งตะกร้าที่สองตามมาแน่นอน
ไก่ทอด (80 บาท)
เมนูนี้เหมือนจะธรรมดา แต่ก็ไม่ธรรมดา และควรค่าแก่การสั่งถ้าคุณเป็นคนรักของทอด ไก่ทอด (80 บาท) ตะกร้านี้เป็นไก่ทอดสูตรพิเศษของพ่อครัว อิงเอยเล่าว่าที่ฟิลิปปินส์นั้นเขากินไก่ทอดกับเกรวี่ ตามร้านฟาสต์ฟู้ดปกติในบ้านเราจะมีที่กดซอส ซึ่งก็จะมีซอสมะเขือเทศกับซอสพริกให้เลือก แต่ที่ฟิลิปปินส์นั้นมีเกรวี่ให้เลือกด้วย และเกรวี่นี่แหละที่ได้รับความนิยมสุดๆ จึงอยากให้ทุกคนได้ลองกินไก่ทอดจิ้มเกรวี่แบบฟิลิปปินส์กันดู ตัวซอสเกรวี่นั้นรสชาติเข้มข้นและหอมมาก มีกลิ่นโรสแมรีที่สดชื่นอยู่จางๆ ทำให้กินได้เรื่อยๆ เลย
บะหมี่หมูตุ๋น (110 บาท)
มาถึงเมนูจานหลักอย่างบะหมี่กันบ้าง เมนูนี้มาจากความชอบในก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมูอ่อนของบ้านอิงเอย บะหมี่หมูตุ๋น (110 บาท) บะหมี่น้ำขลุกขลิกหอมกลิ่นขิงจางๆ มาพร้อมหมูตุ๋นที่ทางร้านตุ๋นนานจนเปื่อยนุ่มทั้งชิ้น เพียงแค่คีบก็หลุดจากกันแล้ว ส่วนกระดูกอ่อนก็กินได้เลย คีบเข้าปากพร้อมกันในคำเดียว ทั้งเส้น หมูตุ๋น และผักฮ่องเต้น้อย จะได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัว ส่วนใครที่ชอบเผ็ดก็สามารถใส่พริกคั่วน้ำมันที่ทางร้านใส่ถ้วยแยกมาให้ได้ ก็จะมีมิติของรสชาติที่เพิ่มขึ้น
บะหมี่จัมปง (140 บาท)
เมนูจากความชอบของอิงเอยที่ดูซีรีส์แล้วอยากลองทำขึ้นมา บะหมี่จัมปง (140 บาท) อิงเอยทดลองทดสูตรในแบบที่ชอบที่สุด จนมาลงเอยที่จัมปงซุปหมู ปกติแล้วจัมปงจะใช้เป็นซุปปลา แต่อิงเอยพบว่าถ้ามันไม่ร้อนแล้วจะมีกลิ่น เลยเปลี่ยนมาเป็นซุปหมูที่รสชาติเข้มข้นขึ้นมาหน่อย และคนไทยก็คุ้นเคยมากกว่าด้วย ชามนี้รสชาติจัดจ้านและอัดแน่นไปด้วยเครื่องทะเล ทั้งหมึกสาย หอยแมลงภู่ กุ้ง เสิร์ฟพร้อมกิมจิถ้วยเล็ก
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
“ลูกค้าเคยถามว่าโต๊ะเหลือ ทำไมบอกว่าเต็ม เพราะเราอยากให้บรรยากาศเหมือนเพื่อนมาบ้านจริงๆ ไม่ใช่แบบว่า โอ๊ย มีแต่หัวคน เดินถ่ายรูปไม่ได้ รออาหารนาน เพื่อนเคยมาที่บ้านแล้วเป็นแบบไหน เราก็อยากให้ลูกค้ามาแล้วเป็นแบบนั้น”
ร้านซันตุ๊บนั้นไม่รับลูกค้าแบบวอล์กอิน ด้วยเหตุผลที่เราเล่าไปข้างต้นว่าทางร้านจะทำเส้นบะหมี่ออกมาให้พอดี ไม่มีเหลือทิ้ง และอีกหนึ่งเหตุผลคืออิงเอยอยากให้ลูกค้าได้บรรยากาศของการมานั่งเล่นบ้านเพื่อนจริงๆ จะถ่ายรูปมุมไหนก็สบาย ไม่ต้องรอคิวถ่ายรูปหรือยืนกดดันกัน รออาหารไม่นาน อยากให้ทุกคนได้ยิ้ม ถ้าทุกคนได้ยิ้ม อิงเอยก็จะยิ้มตามไปด้วย อิงเอยบอกกับเราว่าไม่อยากเครียดกับการทำร้านเหมือนตอนที่เครียดกับงานประจำ
และข่าวดีก็คือ ซันตุ๊บกำลังจะเปิดจองโต๊ะสำหรับเดือนพฤศจิกายนในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ โดยจะเพิ่มเป็น 3 รอบ คือ รอบกลางวัน 11.00-13.00 น. รอบบ่าย 14.00-16.00 น. และรอบเย็น 17.00-19.00 น. ใครที่สนใจอยากไปนั่งเล่นในบ้านอิงเอย ดูซันตุ๊บลงน้ำ ก็สามารถเข้าไปจองผ่านเพจของร้านได้
SUNTOOB
Open: วันพุธ-อาทิตย์ เวลา รอบกลางวัน 11.00-13.00 น. รอบบ่าย 14.00-16.00 น. และรอบเย็น 17.00-19.00 น. (ต้องจองก่อนเท่านั้น)
Address: บริเวณริมน้ำในวัดเขมาภิรตาราม นนทบุรี
Budget: 100-200 บาท
Contact: 06 2897 4459
Website: https://www.facebook.com/suntoob
