อะโวคาโด (Avocado) น่าจะเป็นหนึ่งในวัตถุดิบยอดฮิตที่หลายๆ คนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นเมนูขนมปังซาวโดวจ์ปิ้งจนหอมกรุ่น ท็อปด้วยอะโวคาโดบดเนื้อละมุน วางไข่ดาวน้ำ (Poached Egg) ไข่แดงเยิ้มๆ โรยพริกไทยดำ เกลือชมพู และตกแต่งด้วยผักร็อกเก็ตหรือไมโครกรีนเล็กน้อย ได้รสชาติอร่อยลงตัว หรือ Avocado Smoothie Bowl ปั่นอะโวคาโดกับกล้วยและนมอัลมอนด์ โรยหน้าด้วยกราโนลา ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เมล็ดเจีย และถั่วอบต่างๆ ก็เริ่ด
จริงๆ แล้วอะโวคาโดนิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายในทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กลางวัน หรือเย็น แล้วถ้าหากคุณกินอะโวคาโดเป็นประจำทุกวัน ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง? LIFE จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจเหล่านี้กันแบบเจาะลึกถึงประโยชน์ที่น่าทึ่งของผลไม้ชนิดนี้
รู้จักอะโวคาโด (Avocado)
อะโวคาโดมีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโกและอเมริกากลาง ซึ่งถือเป็นพืชพื้นเมืองของภูมิภาคเหล่านี้มาเป็นเวลานานนับพันปี ก่อนที่จะถูกนำไปขยายพันธุ์แพร่หลายในส่วนอื่นๆ ของโลก อะโวคาโดประกอบด้วยเมล็ดใหญ่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเนื้อสีเขียวที่เนียนนุ่ม ในทางพฤกษศาสตร์จัดเป็นเบอร์รี แต่มีไขมัน แคลอรี และโปรตีนสูงกว่าผลไม้ทั่วไป ใน 1 ลูกมีใยอาหารถึง 14 กรัม พร้อมวิตามินและแร่ธาตุมากมาย
ประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อกินอะโวคาโดทุกวัน
ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง
อะโวคาโดอุดมด้วยใยอาหารที่ช่วยเลี้ยงแบคทีเรียดีในลำไส้ การศึกษาพบว่าการบริโภคอะโวคาโดทุกวันช่วยเพิ่มแบคทีเรียที่หมักใยอาหาร เพิ่มการผลิตกรดไขมันสายสั้น และลดความเข้มข้นของกรดน้ำดีในอุจจาระ ช่วยลดการอักเสบในลำไส้
ควบคุมน้ำหนักได้ดี
แม้จะมีแคลอรีสูง แต่การวิจัยพบว่าคนที่กินอะโวคาโดวันละ 1 ลูกเป็นเวลา 6 เดือน น้ำหนักยังคงที่ ไม่เพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยลดไขมันในช่องท้องของผู้หญิงได้ด้วย เพราะใยอาหารช่วยให้อิ่มนาน และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวช่วยลดการสะสมไขมัน
หัวใจแข็งแรง
การศึกษาพบว่าการกินอะโวคาโดช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดลง 16-22% หากเปลี่ยนเนย ไข่ เนื้อแปรรูป หรือผลิตภัณฑ์นมบางส่วนเป็นอะโวคาโด จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเหล่านี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
สมองทำงานดีขึ้น
อะโวคาโดมีสารลูทีนที่ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง การศึกษาพบว่าผู้สูงอายุที่กินอะโวคาโดมีคะแนนความสามารถทางสมองสูงกว่า โดยเฉพาะด้านความจำ ซึ่งเป็นส่วนแรกที่มักเสื่อมถอยในผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
มารู้จักคุณค่าทางโภชนาการของอะโวคาโด 1 ลูกกันเถอะ
- พลังงาน: 322 แคลอรี
- ใยอาหาร: 14 กรัม
- โปรตีน: 4 กรัม
- ไขมันทั้งหมด: 30 กรัม (ส่วนใหญ่เป็นไขมันดี)
- น้ำตาล: ไม่เกิน 1 กรัม
วิธีเลือกและใช้อะโวคาโด
เลือกอะโวคาโดที่มีผิวสีเข้มและนุ่มเล็กน้อยเมื่อสัมผัส หรือลองดึงก้านด้านบนออก ถ้าเป็นสีเขียวแสดงว่าพร้อมกิน หากยังไม่สุกให้เก็บในถุงกระดาษพร้อมกับแอปเปิ้ลเพื่อเร่งการสุก (แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ผลิตก๊าซเอทิลีนออกมาในปริมาณมาก ซึ่งก๊าซเอทิลีนเป็นฮอร์โมนพืชที่กระตุ้นกระบวนการสุกของผลไม้)
ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าอะโวคาโดไม่ได้มีดีแค่รสชาติอร่อย แต่ยังอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และไขมันดีที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพลำไส้ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ควบคุมน้ำหนัก และเสริมประสิทธิภาพสมอง การเพิ่มอะโวคาโดในมื้ออาหารประจำวันจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนรักสุขภาพ