หลังจากที่ Sizzler เข้ามาอยู่ภายใต้พอร์ตของ ‘ไมเนอร์ ฟู้ด’ อย่างเต็มตัว ก็ไม่รอช้าที่จะขยายเพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจต่อไป โดยประเทศแรกที่ถูกเลือกคือ ‘เวียดนาม’
“ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 Sizzler จับมือร่วมกับพันธมิตรอย่างบริษัท โกลด์ซัน กรุ๊ป จำกัด ในการเปิดสาขาแรกที่ประเทศเวียดนาม พร้อมวางแผนผลักดันสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคต่อไป” อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากช่วงกลางปีที่แล้วซึ่งบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ผู้เป็นบริษัทแม่ ได้ดำเนินกลยุทธ์เพื่อเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดทั่วโลกในแฟรนไชส์แบรนด์ Sizzler นอกเหนือจากในสหรัฐอเมริกา เปอร์โตริโก และกัวเตมาลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Exclusive: จากแฟรนไชส์สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก! ‘ไมเนอร์’ ใช้เงิน 546 ล้านบาท เข้าซื้อเครื่องหมายการค้า Sizzler เล็งขยายตัวในอาเซียนและตะวันออกกลาง
- คนไทยนิยมทานสเต๊กพรีเมียมมากขึ้น รีเสิร์ชของ ‘Sizzler’ จุดชนวนให้พลิกโฉมแบรนด์ในรอบ 30 ปี เน้นเสิร์ฟเมนูสเต๊กพรีเมียมราคาเข้าถึงง่าย ชิงยอดขาย
- Sizzler รับโอกาสขายช่วงไฮซีซันเทศกาลการจับจ่าย ด้วยการลอนซ์สเต๊กพรีเมียม 3 เมนู พร้อมตกแต่งร้านธีมคริสต์มาส ดึงลูกค้าเข้าร้าน
ในครั้งนั้น ดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า หลังจากนี้จะสำรวจตลาดใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ภูมิภาค CLMV (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) รวมทั้งตะวันออกกลาง
โดยตลาดเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก เนื่องจาก MINT ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ได้รับสิทธิ์ที่มีอยู่ โดยการขยายกิจการสามารถทำได้โดยการร่วมทุนหรือแฟรนไชส์
ไม่แปลกที่ Sizzler จะสนใจเวียดนาม เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนธุรกิจร้านอาหารด้วยเหตุผลหลายประการไม่ว่าจะเป็น
– ประชากรจำนวนมาก: เวียดนามมีประชากรมากกว่า 97 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มที่จะรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น
– การเติบโตของชนชั้นกลาง: ชนชั้นกลางในเวียดนามกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงร้านอาหารประเภทต่างๆ
– ความนิยมอาหารต่างชาติ: ชาวเวียดนามเปิดรับอาหารจากต่างชาติและมีความสนใจที่จะลองรสชาติใหม่ๆ ทำให้มีโอกาสสำหรับร้านอาหารนานาชาติที่จะประสบความสำเร็จในตลาดนี้
– เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง: เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสร้างโอกาสสำหรับธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร
– วัฒนธรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน: การรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเวียดนาม ทำให้ร้านอาหารมีโอกาสที่จะดึงดูดลูกค้าได้ง่าย
– ต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่ค่อนข้างต่ำ: เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ค่าเช่าพื้นที่ ค่าแรง และวัตถุดิบ ในเวียดนามยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก
จริงๆ แล้วสำหรับไมเนอร์ ฟู้ด ตลาดเวียดนามเองไม่ได้ถือเป็นตลาดที่บุกเบิกใหม่ เพราะ กรีฑากร ศิริอัฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ขยายความกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ในเวียดนามนั้นได้มีการเปิดร้านอื่นๆ อยู่แล้วทั้ง The Pizza Company ที่มีกว่า 70 สาขา, Swensen’s 10 สาขา และอื่นๆ อีก 1-2 แบรนด์ด้วยกัน
“การเปิดครั้งนี้เป็นการลองตลาดก่อนว่าเวียดนามเหมาะสมสำหรับ Sizzler หรือไม่ ทำให้ตอนนี้เรายังไม่ได้วางแผนที่ชัดเจนสำหรับขยายธุรกิจ” กรีฑากรกล่าวกับ THE STANDARD WEALTH “แต่การที่ตลาดนี้มีประชากรจำนวนมาก แถมคนรุ่นใหม่ยังเยอะ ทำให้เป็นโอกาสสำหรับ Sizzler อยู่ไม่น้อย”
หลังจากนั้น Sizzler จะมีการศึกษาตลาดใน CLMV ก่อน รวมถึงตลาดในกลุ่มอาเซียน ที่หากมีโอกาสก็พร้อมที่จะขยายเข้าไปเปิด
สำหรับ Sizzler ในช่วงไตรมาสแรกของปีนั้น อนิรุทร์ระบุว่า ภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2566 ของ Sizzler ที่ผ่านมาที่มีการเติบโตจากฐานลูกค้าไดน์อินที่เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบจากปี 2565 การพัฒนาลอยัลตี้โปรแกรมส่งผลให้เพิ่มจำนวนสมาชิกมากขึ้นเป็น 2 เท่า เป็น 5 แสนราย
“ลูกค้าไตรมาส 1 เติบโต 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วยอดขายเพิ่ม 10% การปรับเมนูและราคาที่เหมาะสมอย่างการเริ่มต้นที่ 299 บาท ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อเรามากขึ้น” อนิรุทร์กล่าว “นอกจากนี้เรายังเพิ่มเมนูบรันช์ตอบโจทย์ระหว่างช่วงเช้าหรือบ่ายได้ ทำให้ยอดขายเติบโตด้วย”
ที่ผ่านมายอดขายของ Sizzler กว่า 50% อยู่ในช่วงเย็น และ 25% เป็นช่วงเที่ยง ในขณะที่ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. และช่วงเวลา 10.00-12.00 น. หลังจากมีเมนูบรันช์เข้ามาทำให้ยอดขายโต 5-10% ด้วยกัน
โดยทิศทางของปี 2567 การพัฒนาเมนูพรีเมียมสเต็กใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น การนำเมนูสุดคุ้มกลับมาให้บริการเพื่อเพิ่มยอดผู้บริโภคแบบไดน์อิน เช่น เมนูซี่โครงหมูบาร์บีคิวและเมนูสเต็กเนื้อนิวยอร์กที่มีการเพิ่มปริมาณในราคาปกติ, การปรับเมนูสเต็ก Sizzling ซีรีส์ในราคาสุดคุ้มค่า, การพัฒนาเมนูสลัดบาร์ในคอนเซปต์ใหม่ตามฤดูกาล ด้วยการนำเอาผลไม้ยอดนิยมตามฤดูกาลมาทำเป็นเมนูสลัดบาร์, การเพิ่มเติมเมนูของหวานและเมนูบรันช์ในเล่ม ตลอดจนการพัฒนาลอยัลตี้โปรแกรมหรือระบบสมาชิก และมอบสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่และเน้นกระตุ้นการมาใช้บริการ ฯลฯ
ทั้งนี้ มีการขยายสาขาเพิ่ม 5 สาขา ประกอบด้วย สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา, สาขาพาร์ค สีลม, สาขาเซ็นทรัล เวสต์วิลล์, สาขาเซ็นทรัล สมุย และเซ็นทรัล นครปฐม ที่เป็นสาขาเปิดใหม่ล่าสุดเมื่อต้นปี 2567 ทำให้ปัจจุบัน Sizzler มีสาขารวม 64 สาขาทั่วประเทศ โดยภาพรวมต้องการให้ยอดขายปีนี้โต 10% ด้วยกัน