ไม่เคยคิดจะจัดบ้านมาก่อน แต่อยู่ดีๆ วันนี้ก็อยากลุกขึ้นมาจัดตู้เสื้อผ้าเรียงตามสีเพื่อให้หยิบใช้ได้ง่ายๆ เวลาที่ต้องดูตารางสีมงคลประจำวัน
ไม่เคยชอบทำความสะอาดบ้านเลย แต่อยู่ดีๆ ก็หยิบกุญแจรถมาสตาร์ทรถขับออกไปซื้อน้ำยาทำความสะอาดตามที่อ่านมาจากในกรุ๊ปงานบ้านเพื่อทำความสะอาดบ้านครั้งยิ่งใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทำอะไรคนเดียวแปลกตรงไหน? ‘โอฮิโตริซามะ’ เมื่อการใช้ชีวิตคนเดียวเขย่าตลาดญี่ปุ่น
- ฉันนี่แหละ เก่งที่สุดในจักรวาลแล้ว! ทำไมคนไม่เก่งถึงชอบคิดว่าตัวเองเก่ง
- นอกจากงานก็ไม่เหลือใครอีกแล้ว! ทำไมคนเรายิ่งเติบโตถึงยิ่ง ‘เหงา’
ทำไมทุกอย่างถึงน่าทำไปหมดเมื่อเรามีงานต้องส่งพรุ่งนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเคยเป็นกันบ้างแหละ ไม่ว่าจะเสียสมาธิเพราะข้อความใหม่จากกรุ๊ปเพื่อน ข่าวร้อนที่ต้องรีบตามอ่านเพราะเดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ไปจนถึงเสียสมาธิอย่างรุนแรงจากการดูคลิปทำอาหารแล้วอยากลุกไปเข้าครัวเดี๋ยวนี้
Rich Fernandez ผู้เชี่ยวชาญด้านอารมณ์และความสงบของจิตใจกล่าวเอาไว้ว่า พวกเราทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันหมดคือระบบประสาทที่บางครั้งก็ไม่ยอมทำงาน เหมือนกับตัวเรานี่แหละ การก้าวข้ามผ่านสิ่งดึงดูดความสนใจและกลับมามีสมาธิอีกครั้งก็ไม่ยาก
Fernandez อธิบาย (อย่างเข้าใจง่าย) ว่าเรามีระบบเครือข่ายประสาทในสมองที่ช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งต่างๆ ซึ่งระบบนี้จะมีโหมดปกติ (Default Mode Network) ที่จะทำให้สมองของเราวิเคราะห์ทบทวนเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาเพื่อพยากรณ์และวางแผนสิ่งที่ต้องทำในอนาคต ซึ่งเวลาในชีวิตส่วนใหญ่ของเราจะอยู่ในโหมดนี้ แต่เมื่อเราต้องการโฟกัสกับอะไรบางอย่าง เราจะเปลี่ยนโหมดของสมองไปเป็นโหมดโฟกัสโดยตรง (Direct Attention Network) ซึ่งจะช่วยให้เราละทิ้งความฟุ้งซ่านและทำงานได้โดยไม่ได้คิดอะไรล่องลอย
แต่เมื่อมีสิ่งมากวนใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม สิ่งนั้นจะดึงเรากลับเข้าสู่โหมดปกติที่สมองจะกลับมาคิดมาก คิดเก่งอีกครั้ง และการจะพาสมองกลับไปยังโหมดโฟกัสโดยตรงอีกครั้งเป็นเรื่องยากพอตัว
ซึ่งช่วยให้คุณละทิ้งความคิดฟุ้งซ่านและทำงานต่อไปได้ สิ่งรบกวนสมาธิไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม ดึงคุณกลับเข้าสู่โหมดเริ่มต้น และค่าใช้จ่ายด้านการรับรู้ในการกลับมามีสมาธิก็สูง มีงานวิจัยที่กล่าวว่าต้องใช้เวลาถึง 10-18 นาทีเพื่อทำให้เรากลับมามีสมาธิในระดับเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องจัดพื้นที่ทำงานให้มีสิ่งรบกวนน้อยที่สุด
เมื่อเราพบว่าตัวเราเสียสมาธิไปแล้ว แนะนำให้หยุดทำสิ่งที่กำลังจะทำ เตือนตัวเองว่าเรากำลังเสียสมาธิอยู่นะ และสลับให้ตัวเองไปทำอย่างอื่น สิ่งสำคัญคือการเตือนตัวเองให้รู้ว่เราเสียสมาธิ สมองจะรับรู้ได้ว่าต้องทำงานแล้วนะ จะเถลไถลไม่ได้ เมื่อฝึกจนเป็นนิสัยเราจะรู้ความเป็นไปของตัวเองมากขึ้น และรับมือกับมันได้ดีขึ้น
เมื่อเราเตือนตัวเองแล้ว การทำอย่างอื่นเพื่อช่วยให้สมองกลับมาโฟกัสอีกครั้งก็สามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการฝึกลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆ หรือนั่งสมาธิสักพักหนึ่งเพื่อเบี่ยงตัวเองจากเรื่องที่ทำให้รู้สึกเครียด เราไม่จำเป็นต้องซ่อนหรือกดความเครียดของเราเอาไว้ พยายามรับรู้และหาวิธีจัดการกับมันจะส่งผลดีกว่าในระยะยาว
ดังนั้นถ้าครั้งนี้รู้สึกอยากลุกขึ้นมาปลูกกะเพราแม้ว่าจะมีงานส่งพรุ่งนี้ก็ต้องบอกตัวเองหน่อยแล้วว่าใบกะเพราเป็นเรื่องรอได้ แต่เดดไลน์มันรอไม่ได้นะ
อ้างอิง: