หลายคนน่าจะรู้จักกันดีกับร้านอาหารญี่ปุ่นในตำนานอย่าง โฮว ยู (Hou Yuu) ซึ่งสาขาแรกนั้นอยู่ที่ตึก GMM Grammy Place ด้วยความที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นรสชาติและคุณภาพเยี่ยม จึงมีแฟนๆ ประจำอยู่ไม่น้อย จนทำให้ โฮว ยู เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานถึงกว่า 20 ปี แต่รู้กันไหมว่าล่าสุดร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับสุดพิถีพิถันแบรนด์นี้เขาเพิ่งเปิดสาขาใหม่ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นสาขาที่ 4 และสาขานี้ก็มีความพิเศษทั้งเมนูใหม่และบรรยากาศที่แตกต่างจากสาขาก่อนๆ
บรรยากาศของ โฮว ยู สาขาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นั้นสว่างไสวโปร่งโล่งสบาย โดยตกแต่งมาในสไตล์ร่วมสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสวนหินสไตล์ญี่ปุ่น มีการนำองค์ประกอบอย่างกระเบื้องทางเดินและหินตกแต่งสวนมาใช้ รวมถึงโคมไฟด้านบนก็เก๋ เพราะทำให้เรานึกถึงลายเส้นเมฆในภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่นด้วย
ก่อนอื่นมาเริ่มต้นมื้อนี้กันด้วยอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ เราได้ชิมซาซิมิรวมอย่างดี (1,250 บาท) จานนี้ประกอบไปด้วยปลาดิบซาซิมิ ทั้งอะคามิ ฮามาจิ แซลมอน ปลากะพงขาวญี่ปุ่น ปลาหมึก ซึ่งต้องบอกว่าเนื้อปลาทุกอย่างนั้นสดมาก สมกับที่ส่งตรงมาจากตลาดปลาในญี่ปุ่น แถมยังแล่มาชิ้นหน้าได้ใจ ตามมาด้วยมากิปลาแซลมอน (420 บาท) ย่างไฟมาแบบสุกกำลังดี ท็อปด้านบนด้วยอิคุระ และยังมีเกล็ดแป้งเทมปุระทอดที่เพิ่มสัมผัสกรุบกินได้สนุกขึ้น
ส่วนข้าวหน้าเนื้อ (390 บาท) ของที่นี่มีความพรีเมียม เพราะในขณะที่หลายๆ ร้านมักเลือกใช้เนื้อติดมัน แต่ที่ โฮว ยู กลับเลือกใช้เนื้อสันในที่เนื้อเป็นเนื้อ มีความนุ่ม กับอีกจานเด็ดที่เราชอบมากคือหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดในน้ำซุปไข่ (260 บาท) จานนี้ใช้หมูคุโรบูตะมาทำเป็นหมูชุบเกล็ดขนมปัง เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปรสกลมกล่อมอูมามิ ทั้งยังสามารถสั่งมาแบบจานเดี่ยว (260 บาท) หรือจะสั่งแบบเป็นเซ็ตเพิ่มข้าว ซุป สลัด และของหวาน (เพิ่ม 90 บาท) ก็ได้ด้วย
นอกจากอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับที่มีเมนูให้เลือกอย่างหลากหลายละลานตาแล้ว ที่ โฮว ยู ยังมีเมนูชุดโกเซ็น (Gozen) เซ็ตอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม จัดเสิร์ฟมาเป็นชุดในรูปแบบกล่องไม้สวยงาม ประกอบไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก กับเครื่องเคียงจานรองอีก 3-4 อย่าง เช่น ปลาหมักมิโซะ ไข่ตุ๋น ของหมักหรือของต้ม และน้ำซุป เป็นต้น รวมถึงผลไม้และของหวาน
สำหรับเซ็ตอาหารชุดโกเซ็นที่เราได้ลองชิมคือ โกเซ็น นิกิริ (1,150 บาท) ไฮไลต์คือนิกิริซูชิ ข้าวหน้าปลาดิบชุดรวม ซึ่งมีทั้งชูโทโร่ เอ็นกาวะ ฮามาจิ แซลมอน ปลากะพงขาวญี่ปุ่น เอบิ ไข่หวานญี่ปุ่น และมากิโมโน (ข้าวห่อสาหร่ายหัวไชเท้าดองญี่ปุ่น) แน่นอนว่าปลาดิบนั้นสดมาก แต่ที่ยิ่งทำให้เราเจริญอาหารคือเครื่องเคียงจานรอง ซึ่งมีทั้งซาบะต้มซีอิ๊ว คินพิระรากบัว สลัดแตงกวา ไข่ตุ๋นเอบิและอิคุระ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีสลัดรวมน้ำสลัดงาและซุปอาคาดาชิ (ซุปมิโซะแดง) ส่วนของหวานก็เสิร์ฟเป็นเมลอนญี่ปุ่นกับเยลลี่ยูซุน้ำผึ้งรสสดชื่น
ไม่เพียงแต่อาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ และเมนูชุดโกเซ็นเท่านั้น หากคุณอยากลิ้มรสและสัมผัสประสบการณ์ที่ละเมียดขึ้น ขอแนะนำว่าสาขาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นี้เขายังเสิร์ฟเมนูชุดไคเซกิ (Kaiseki) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอาหารชั้นสูงของญี่ปุ่น โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่การคัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ประกอบกับการปรุงแต่งและจัดเสิร์ฟอย่างประณีต เป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งอาหารญี่ปุ่นไคเซกินั้นยึดหลัก ‘ข้าว 3 น้ำ 1’ ตามธรรมเนียมอาหารการกินของญี่ปุ่น ประกอบด้วย ข้าว กับข้าวหลัก (มักเป็นเนื้อสัตว์ต่างๆ) กับข้าวรอง (มักเป็นผัก) และน้ำซุป รวมถึงผักดอง อ้อ…ลืมบอกไปว่าเพราะด้วยความพิเศษเช่นนี้เอง สำหรับลูกค้าที่สั่งอาหารชุดไคเซกิ จะได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าไปนั่งในห้องพิเศษ ที่มองเห็นวิวทะเลสาบของสวนเบญจกิติ
ส่วนเมนูไคเซกิที่เราได้ชิมในวันนี้ก็คือเนื้อวากิว A4 ย่างใบโฮบะ (3,800 บาท) ความพิเศษเริ่มต้นกันตั้งแต่เซ็ตติ้งบนโต๊ะที่มีทั้งแผ่นรองและเซ็ตตะเกียบที่หรูหรามากกว่าปกติ ทั้งยังมีโน้ตแจ้งรายการอาหารที่จะได้รับการเสิร์ฟมาอย่างเป็นลำดับ เริ่มต้นด้วยจานเรียกน้ำย่อย ซึ่งมีทั้งหอยนางรมญี่ปุ่นสด กินกับซอสพอนสึสดชื่นดีเหลือเกิน ซาซิมิ 3 อย่าง ประกอบด้วยชูโทโร่ ฮามาจิ และแซลมอน ด้านไข่ตุ๋นของเซ็ตไคเซกิ นอกจากจะท็อปด้วยเอบิและอิคุระแล้ว ยังยกระดับให้หรูและพรีเมียมขึ้นด้วยหอยเชลล์
ส่วนเมนคอร์สที่เป็นไฮไลต์ของอาหารชุดไคเซกิคือเนื้อวากิว A4 ย่างใบโฮบะ ต้องบอกว่าคนรักเนื้อต้องฟินเพราะเนื้อนุ่มละลายในปาก และการย่างใบโฮบะก็ยิ่งทำให้หอมชวนกิน นอกจากนั้นยังสนุกกับการสลับชิมเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาพร้อมกันอย่างเอบิเทมปุระ ใบโอบะเทมปุระ ปลาห่อใบโอบะเทมปุระ ส่วนน้ำซุปปลาแห้งที่เสิร์ฟมาในกานั้นก็รสดี (ตุ๋นใส่ทั้งเนื้อปลากะพง กิงโกะ เอบิ คามาโบโกะ ชิเมจิ) นำมาราดกินกับข้าวหน้าแซลมอนและอิคุระอร่อยอย่าบอกใคร และยังมีปลาบุรีต้มหัวไชเท้าญี่ปุ่น นิชิเมะ (ผักต้มญี่ปุ่น) และสึเกะโมโน (ผักดองญี่ปุ่น)
ตบท้ายด้วยของหวานและผลไม้อย่างเมลอนญี่ปุ่นเยลลี่ยูซุน้ำผึ้ง เสิร์ฟมาพร้อมกับซอร์เบตมะนาว ซึ่งต้องบอกว่าอาหารของเมนูชุดไคเซกินี้ช่างพิเศษจริงๆ สำหรับใครที่สนใจอยากจะลิ้มรสและสัมผัสสุนทรียะในแบบไคเซกิ เราแนะนำให้จองกันก่อนล่วงหน้า เพราะด้วยกรรมวิธีที่พิถีพิถันทำให้หลายๆ อย่างต้องใช้เวลาในการเตรียมล่วงหน้า
โดยสรุปแล้วเราชอบ โฮว ยู สาขาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มาก ด้วยทั้งบรรยากาศการตกแต่ง คุณภาพจากความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น และกรรมวิธีการปรุงอย่างพิถีพิถัน แถมเมนูยังมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ อาหารเซ็ตราคากลางๆ แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพอย่างเมนูโกเซ็น ไปจนถึงอาหารชุดแบบไคเซกิที่พิเศษหรูหรา ยอดเยี่ยมด้วยรสชาติและพิถีพิถันขั้นสุด
Hou Yuu
Address: Hou Yuu สาขาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งอยู่ที่ชั้น G
Open: เปิดบริการเวลา 10.00-21.00 น.
Contact: 09 7212 6119
Budget: เริ่มต้น 300-4,000 บาท
Map: https://goo.gl/maps/LaBp64nayZd8qsFi6
- ‘โฮว ยู (Hou Yuu)’ ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ‘เพื่อนสนิท’ ชื่อของร้าน โฮว ยู จึงหมายความว่าร้านของเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ว่าจะเสิร์ฟอาหารที่ไม่ทำให้เพื่อนผิดหวัง
- โฮว ยู สาขาที่ 1 อยู่ที่ตึก GMM Grammy Place, สาขาที่ 2 อยู่ที่อาคาร Park Venture Ecoplex, สาขาที่ 3 อยู่ที่ The PARQ Life และสาขาที่ 4 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเตรียมพบกับสาขาใหม่ที่ Terminal21 พระราม 3 ในเร็วๆ นี้