“ตัวช็อกโกแลตบาร์อาจจะสื่อสารได้ยากกว่าขนมหรือเครื่องดื่ม หลังจากพัฒนาช็อกโกแลตของเรามาจนได้รสชาติที่ลงตัว เราก็อยากทำให้คนเข้าถึงช็อกโกแลตของเราได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านเครื่องดื่ม ที่สำคัญคนที่กินวีแกนก็สามารถดื่มช็อกโกแลตเย็นของเราได้”
เชฟไมเคิล โฮแกน (Michael Hogan) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ช็อกโกแลตไทย Pridi Cacaofevier (อ่านว่า ปรีดีคาเคาเฟเวียร์) เล่าให้เราฟังถึงที่มาของเมนูเครื่องดื่มล่าสุดที่ทางแบรนด์วางขายผ่าน LINE MAN เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ก่อนจะพาทัวร์โรงงานช็อกโกแลตเล็กๆ ในซอยปรีดี พนมยงค์ 13 ฐานการผลิตหลักของแบรนด์ เพื่อเล่าให้เราฟังว่าความตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์ช็อกโกแลตไทยที่ดีเทียบเท่าการนำเข้าจากต่างประเทศ และดำเนินการภายใต้ความยั่งยืนนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
“หากเราอยากให้อุตสาหกรรมอาหารยั่งยืนจริงๆ วัตถุดิบที่เราควรเลิกใช้คือเนื้อวัว กาแฟ และช็อกโกแลต” นี่คือคำพูดหนึ่งในงานสัมมนาเกี่ยวกับความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารงานหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ที่เชฟแดเนียล บุชเชอร์ (Daniel Bucher) และเชฟไมเคิลเข้าร่วมฟัง สองเชฟเล่าให้เราฟังว่ามันค่อนข้างติดอยู่ในใจในฐานะเชฟและคนที่รักทั้งสามวัตถุดิบ ทั้งสองจึงชวน เชฟอ่ำ-อิทธิ นิตยาพร มาร่วมอุดมการณ์และเริ่มพัฒนาแบรนด์ Pridi Cacaofevier ภายใต้นโนบายความยั่งยืน และเดินทางมาจนเราหาซื้อกันได้ง่ายๆ อย่างทุกวันนี้
ในโรงงานช็อกโกแลตแห่งนี้ได้ แมค-ศรัณย์ ปรีดานรวุฒิ ดูแลเรื่องการผลิต แมคเล่าว่า เราเดินทางไปหาเกษตรกรที่ปลูกช็อกโกแลตในประเทศไทยที่ทำไร่แบบยั่งยืน ปัจจุบันเลือกใช้เมล็ดโกโก้ยืนพื้นจาก 3 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง จันทบุรี และเชียงราย ก่อนนำมาเบลนด์ด้วยสัดส่วนลองผิดถูกจนเกิดเป็นซิกเนเจอร์ดาร์กช็อกโกแลตที่ใช้เป็นเบสหลักในสินค้าต่างๆ รวมถึง บาร์ที่เป็นซิงเกิลออริจินประจำจังหวัดก็มีให้เลือกเช่นกัน
ด้วยความเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตที่ก่อตั้งโดยเชฟ ภารกิจหนึ่งของ Pridi คือการทำช็อกโกแลตสัญชาติไทยที่คนเป็นเชฟสามารถเลือกไปใช้ในครัวทดแทนการนำเข้าได้ ก่อนหน้านี้เราได้เห็นเขาร่วมงานกับร้านอาหารอย่าง The Londoner Brew Pub ที่นำช็อกโกแลตไปเป็นส่วนผสมในเมนูต่างๆ รวมถึงเบียร์ดำที่ผลิตจากการใช้เปลือกโกโก้
“เปลือกโกโก้ หรือ Husk คือส่วนที่จะกลายเป็นของเสียจำนวนมากที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม วิธีการทำงานของเราที่นี่คือการหาพาร์ตเนอร์ที่สามารถใช้ประโยชน์จากเปลือกของโกโก้ได้ ซึ่งหลังจากที่ได้เจอกับหลายพาร์ตเนอร์ เราได้เห็นว่าเปลือกของโกโก้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากอย่างน่ามหัศจรรย์ มันเลยยิ่งทำให้เรามั่นใจว่า Zero Waste เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในอุตสาหกรรมอาหาร หากเราวางแผนจัดการกับวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ” ไมเคิลเล่าต่อ
จาก Signature Noir 64% เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันช็อกโกแลตบาร์จาก Pridi Cacaofevier มีให้เลือกเพิ่มเป็น 9 รส ได้แก่ Peanut Butter, Crunch Time (ดาร์กช็อกโกแลตผสมคุกกี้ชอร์ตเบรด), Salty Nuts (ผสมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ออร์แกนิกและเกลือทะเล), Fruits & Flowers (จันทบุรี ซิงเกิลออริจิน 80%), Lady Lanna (ลำปาง ซิงเกิลออริจิน 80%), Hall of Flame (80% ดาร์กช็อกผสมพริกแห้ง), Black Magic (75% ดาร์กช็อกโกแลตผสมเมล็ดกาแฟจาก Karo Coffee Roaster) และสุดท้าย Kinky Coconut ที่ไฮไลต์เป็นพิเศษ เพราะเป็นช็อกโกแลตนมแท่งเดียวที่ทำขึ้นร่วมกับร้านอาหารโบ.ลาน เนื่องจาก โบ.ลาน มีใช้มะพร้าวขูดเพื่อคั้นกะทิจำนวนมาก มะพร้าวขูดเหล่านั้นจึงนำมาทำประโยชน์ต่อกลายเป็นไส้มะพร้าวหอมๆ ในช็อกโกแลตแท่งนี้
เมนูดริงก์ของร้านมีให้เลือก 4 แบบ เริ่มจาก Signature Noir 64% Drinking Chocolate (110 บาท) แก้วนี้ใช้ตัวซิกเนเจอร์ช็อกโกแลต 64% ของทางร้านผสมกับน้ำ แมคเล่าว่า “เราอยากทำเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่ยังได้ความเป็นช็อกโกแลตดริงก์ มีบอดี้เหมือนใส่นมแต่เป็นวีแกน” จึงเกิดเป็นแก้วนี้ขึ้นมา ที่ถ้าไม่บอกก็แทบไม่รู้เพราะบอดี้ครบและมีคาแรกเตอร์ผลไม้จากลำปางดาร์กชัดเจน
ทางเลือกสำหรับวีแกนดริงก์มีอีกแก้วคือ Bean Brothers (135 บาท) แก้วนี้ใช้ซิกเนเจอร์ 64% เช่นเคย เพิ่มเติมคือกาแฟสกัดเย็นจาก Nitro Lab ให้รสม็อกค่าเข้มๆ แบบที่ไม่มีส่วนประกอบของนม
สำหรับสายช็อกโกแลตนมมีเมนู 64% Chocolate Milk 64% (120 บาท) และ Peanut Butter Mocha (140 บาท) แก้วนี้เป็นลูกผสมที่เบสด้วย Signature Noir 64% ผสมกาแฟจากไนโตรแลป และ Peanut Paste ถั่วลิสงออร์แกนิกที่ทางร้านทำเอง
Pridi Cacaofevier ยังไม่ได้มีหน้าร้าน แต่คุณสามารถสั่งช็อกโกแลตบาร์ สแน็ก บราวนี และเครื่องดื่มเย็นๆ จากพวกเขาได้ผ่าน LINE MAN และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง https://www.facebook.com/pridicacaofevier และ https://www.instagram.com/pridi_cacao/
อ่านต่อ ‘เราอยากทำช็อกโกแลตที่เชฟเลือกไปใช้ทำอาหารได้ จากไอเดียตั้งต้นสู่มื้อค่ำรสช็อกโกแลตโดย Pridi Cacaofevier และ The Londoner Brew Pub’ ได้ที่ https://thestandard.co/pridi-cacaofevier-x-the-londoner-brew-pub/