“ทำอาหารอะไรมาขายเราก็ทำเหมือนทำกินเองที่บ้านเลย ลูกชายเรากินเยอะ เราก็ให้ปริมาณเยอะเหมือนตอนทำให้ลูกชายกินนั่นแหละ” ความตั้งใจของร้าน Koffie House ที่อยากจะส่งต่อความใส่ใจในการทำอาหารให้กับลูกค้าทุกคนที่มาเยือน

บรรยากาศร้าน

The Vibes

Koffie House เป็นร้านกาแฟในบ้านรูปทรงแปลกตา เจ้าของร้านทั้งสองเล่าว่าขับรถผ่านบ้านหลังนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้วชอบบ้านหลังนี้ แม้ว่าสองข้างทางจะเป็นสวน ยังไม่มีความพลุกพล่านระดับที่ตอนกลางคืนยังมีหิ่งห้อยให้ดู ไม่รู้ว่าถ้าทำร้านอาหารแล้วจะไปได้ด้วยดีไหม แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจเช่าบ้านหลังนี้และทำร้านขึ้นใหม่โดยใช้โครงสร้างเดิม

ปัจจุบันร้าน Koffie House ขยับขยายออกไปเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งที่มีความโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังคงคอนเซปต์ความอบอุ่นเหมือนเดิม เฟอร์นิเจอร์ไม้ ม่านโปร่งที่มีแสงลอดเข้ามานวลๆ ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านจริงๆ

บรรยากาศร้าน

ส่วนบ้านหลังเดิมตอนนี้ยังอยู่ในช่วงการปิดปรับปรุง รอการกลับมาใหม่อีกครั้งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แต่คุณยังสามารถเดินมาชมความสวยงามแปลกตาของบ้านหลังนี้ได้อยู่

ข้าวโหระพาเนื้ออาร์เจนตินาและไข่ดาว (290 บาท)

คาเปลลินีผัดพริกแห้ง หอยเชลล์ฮอกไกโด ไข่ปลาแซลมอน (490 บาท)

The Dishes

อาหารในร้านเป็นอาหารที่เจ้าของร้านทั้งสองคิดสูตรขึ้นมาเอง โดยหยิบจับเอาสิ่งที่ชอบทำกินเองในบ้าน หรือวัตถุดิบที่คนในบ้านชอบเอามาทำเป็นเมนูในร้าน แต่ละจานที่เสิร์ฟนั้นอัดแน่นทั้งปริมาณและคุณภาพ และจะทำอาหารจานต่อจานเท่านั้น ถ้าคุณมาในช่วงเวลาที่คนเยอะอาจจะต้องรออาหารสักหน่อย แต่คุณจะไม่ผิดหวังกับสิ่งที่ได้แน่นอน

วัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้นั้นถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี ทั้งกุ้งที่มาจากทะเลจริงๆ ไม่ใช่กุ้งเลี้ยงหรือกุ้งตัดแต่งพันธุกรรม แม้แต่ไส้กรอกก็คัดเลือกมาจากแหล่งผลิตที่ใช้สารเคมีปรุงแต่งน้อยที่สุด เรียกได้ว่าทางร้านตั้งใจคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพมาใช้เท่านั้น

เริ่มที่เมนูอาหารจานเดียวกินง่ายๆ รวดเร็วอย่าง ข้าวโหระพาเนื้ออาร์เจนตินาและไข่ดาว (290 บาท) เนื้อเทนเดอร์ลอยน์และริบอายที่ทางร้านใช้ในการทำสเต๊กนั้นจำเป็นจะต้องตัดส่วนหัวกับปลายของชิ้นเนื้อออก แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเป็นส่วนที่ไม่ดี เพียงแต่มันไม่เหมาะกับการเสิร์ฟเป็นสเต๊ก ทางร้านจึงนำเนื้อเหล่านั้นมาผัดกับใบโหระพา เสิร์ฟพร้อมข้าวและไข่ดาว หรือจะเป็นเมนูฟิวชันอย่าง คาเปลลินีผัดพริกแห้ง หอยเชลล์ฮอกไกโด ไข่ปลาแซลมอน (490 บาท) พาสต้าผัดพริกแห้ง เมนูฟิวชันที่ใครๆ ก็ต้องเคยกิน แต่ถ้าคุณได้ลองคาเปลลินีผัดพริกแห้งของทางร้านแล้วจะลืมไม่ลงเลยทีเดียว เส้นคาเปลลินีที่เล็กกว่าสปาเกตตินีทำให้รสชาติต่างๆ นั้นซึมเข้าเส้นได้ดีขึ้น บวกกับหอยเชลล์ฮอกไกโดตัวใหญ่ ชีส และไข่ปลาแซลมอน เป็นการรวมกันระหว่างอาหารสามสัญชาติ อิตาเลียน ไทย ญี่ปุ่น ที่ลงตัว

สเต๊กไก่หมักเบียร์ (290-350 บาท)

สเต๊กเนื้อริบอายอาร์เจนตินา (850 บาท)

ซี่โครงแกะ (850-950 บาท)

ไฮไลต์ของร้านที่ใครได้มากินเป็นต้องกลับมาอีกครั้งคือเมนูสเต๊กทั้งหลาย ทางร้านมีให้เลือกทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ไปจนถึงเนื้อแกะ เริ่มที่สเต๊กขายดีอย่าง สเต๊กไก่หมักเบียร์ (290-350 บาท) ที่นำเอาสะโพกไก่มาเลาะกระดูกออกให้หมดแล้วนำไปหมักกับเบียร์ที่ทางร้านขายอยู่แล้ว การหมักเบียร์จะทำให้เนื้อไก่นุ่มมากขึ้น ส่วนใครที่กังวลว่าเด็กๆ สามารถกินได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถกินได้แน่นอน

สเต๊กเนื้อริบอายอาร์เจนตินา (850 บาท) ทางร้านเลือกใช้เนื้อวัวอาร์เจนตินาจากฟาร์มที่เลี้ยงวัวแบบธรรมชาติ ปล่อยให้ได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ และได้กินหญ้าแพมพัสที่มีคุณค่าทางสารอาหาร เนื้อวัวที่ได้จึงเป็นเนื้อวัวที่นุ่มโดยธรรมชาติ ไม่ต้องอาศัยเคมีช่วยในเรื่องของความนุ่มเลย

ปิดท้ายด้วย ซี่โครงแกะ (850-950 บาท) เมนูที่ทางครอบครัวเจ้าของร้านชอบกินกันอยู่แล้ว เพราะได้ไปเจอกับเนื้อแกะจากผู้ค้าเจ้าหนึ่งโดยบังเอิญ เนื้อแกะเจ้านี้แทบไม่มีกลิ่นสาบแกะอยู่เลย จึงเลือกเอามาใช้ในร้าน ย่างสุกระดับเวลดันเพราะอยากให้กินมันแกะได้ด้วย

ซิกเนเจอร์ชาเดียร้อน (65 บาท) และสโนว์บอล (105 บาท)

ครัวซองต์ (60 บาท)

The Drinks & The Desserts

จบมื้อด้วยขนมและชาร้อนที่ไม่เหมือนที่ไหน สโนว์บอล (105 บาท) ขนมที่เกิดจากการทำคุกกี้กินเองในบ้านช่วงที่กำลังเปิดร้านใหม่ๆ แล้วต่อยอดสูตรมาเป็นขนมก้อนกลมไส้ถั่วแมคาเดเมียแบบเต็มเม็ดเหล่านี้ ในหนึ่งวันทางร้านจะทำได้ไม่เยอะ และในระหว่างที่อยู่ในร้าน เราก็ได้เห็นลูกค้าเข้ามาถามถึงสโนว์บอลไม่ต่ำกว่า 3 คน สิ่งนี้ยิ่งทำให้เราได้รู้ว่าร้าน Koffie House เป็นตัวจริงเรื่องขนมสโนว์บอลจริงๆ

แม้จะเป็นขนม ทางร้านก็ยังคัดเลือกสิ่งดีๆ ไม่ต่างจากอาหารที่เสิร์ฟในร้าน ครัวซองต์ (60 บาท) เมนูที่อาจดูธรรมดา แต่เบื้องหลังคือการคัดเลือกครัวซองต์ฝรั่งเศสอย่างดีที่ล่องเรือมาจากฝรั่งเศสในรูปแบบของแป้งโดว์ที่ใช้เนยฝรั่งเศสถึง 28% ในการทำ ก่อนจะนำมาพรูฟ อบ และเสิร์ฟทุกเช้า

ถ้ารู้สึกเหมือนขาดอะไรไป ลองสั่ง ซิกเนเจอร์ชาเดีย (65-85 บาท) มาดื่มคู่กับขนมก็ได้ ชาชื่อแปลกนี้คือชาอินเดียที่ทางร้านนำใบชาไปต้มในนม ทำให้ได้ชารสชาติกลมกล่อมหอมนม และนอกจากนี้ยังมีทางเลือกที่หลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกชาเดีย หรือไวต์ช็อกชาเดีย

การมาเยือนบ้านหลังนี้ทำให้เราได้รู้ว่าครอบครัวนี้รักการทำอาหารและใส่ใจลงไปในแต่ละจานมากแค่ไหน ถ้าคุณกำลังมองหาร้านอาหารครอบครัว Koffie House ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพจริงๆ

Koffie House

Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 07.30-20.00 น.

Address: ซอยพระรามสอง 33 ถนนพระรามสอง กรุงเทพฯ

Budget: 500-1,000 บาท

Contact: 08 1842 9092

Website: https://www.facebook.com/koffiehousefoodsanddrinks

Map:

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า