ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะประเภทใดก็ตาม แน่นอนว่าถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน ‘ของแสลง’ ของคนที่รักสุขภาพ ไหนจะปริมาณแอลกอฮอล์ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย หรือปริมาณความหวานที่มองไม่เห็นภายใต้ฟองพร่านั้น เพราะฉะนั้นหนุ่มสาวที่ดูแลสุขภาพตัวเองหนักๆ คงหลีกเลี่ยงที่จะไม่แตะต้องของแสลงนี้บ่อยนัก
แต่ตอนนี้เราขอแสดงความยินดีกับคุณๆ ที่มักจะพูดติดปากว่า ‘ขอไม่ดื่มดีกว่า มันอ้วน’ เพราะตอนนี้เทรนด์ยอดฮิตของโลกกินดื่มคือ ‘ไวน์แคลอรีต่ำ’ ที่กำลังจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าจับตามองในอนาคตอันใกล้ และหลังจากนี้เราอาจให้รางวัลตัวเองเป็นชาร์ดอนเนย์สักแก้วหลังจากการออกกำลังกายอันหนักหน่วงได้โดยไม่รู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียวกันได้แล้ว!
เวลาดื่มไวน์สักแก้ว แน่นอนว่าวัตถุดิบหลักของการผลิตไวน์นั้นคือองุ่น ดังนั้นนอกเหนือจากรสชาติเข้มข้นที่ได้จากการหมักบ่มแทนนินและอะซิดิตี้แล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับเพิ่มเข้าไปด้วยก็คือปริมาณแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ ซึ่งเกิดขึ้นจากที่ยีสต์ทำปฏิกิริยาแปลงสภาพน้ำตาลในถังบ่มเป็นแอลกอฮอล์ และรู้หรือไม่ว่าในไวน์หนึ่งแก้ว คุณได้รับแคลอรีมาจากแอลกอฮอล์ในไวน์นั่นแหละ ยิ่งหากคนที่ดูแลสุขภาพและอาหารการกินของตัวเองเป็นอย่างดี เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของ ‘น้ำตาล’ จะยิ่งชวนร้องยี้
แต่การปรากฏตัวของเจ้าไวน์แคลอรีต่ำนี้จะมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดื่มปกติๆ ไป เนื่องจากไวน์แคลอรีต่ำ 1 แก้วในความจุ 5 ออนซ์ จะให้ปริมาณน้ำตาลเพียง 0.2 ออนซ์เท่านั้น! ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่าไวน์บางชนิดนั้นมีแคลอรีต่ำมาตั้งแต่ในกระบวนการผลิตแล้ว เช่น ไวน์ที่ผลิตแถบมาร์ลโบโรห์ในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ที่มีภูมิอากาศหนาวเย็น พอองุ่นถูกปลูกในพื้นที่อากาศเย็น เจ้าองุ่นก็จะผลิตน้ำตาลออกมาได้น้อย และเมื่อน้ำตาลน้อย ยีสต์ก็จะย่อยน้ำตาลได้น้อย ย่อมหมายถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่น้อยลงตามไปด้วย และนั่นคือจำนวนแคลอรีที่คุณได้รับเข้าไปเพียงน้อยนิด
อย่างไรก็ตาม ในท้องตลาดเองก็ยังมีไวน์ที่มีแคลอรีต่ำและไม่หวานมากวางขายอยู่ เช่น ไวน์ขาวรีสลิง ที่นอกจากจะไม่หวานมาก รีสลิงยังมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และยังมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่สูงมากอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วไวน์แดงจะให้ปริมาณน้ำตาลเฉลี่ยเพียง 1 กรัมต่อ 1 แก้วไวน์ขนาดปกติ ส่วนไวน์ขาวที่หวานกว่าก็มีน้ำตาลเพิ่มอีกนิดที่ 1.4 กรัมเท่านั้น
ในกรณีของไวน์โลแคล (Low-Calorie Wine) ภายในขวดมีปริมาณแคลอรีที่ต่ำลงราว 15-30% โดยในตลาดมีไวน์ตั้งแต่โซวิญง บลองก์ที่มาทั้งรูปแบบมีฟอง (Sparkling) และไม่มีฟอง (Still) คล้ายๆ กับการเลือกประเภทน้ำแร่ ซึ่งใช้เทคโนโลยีกำจัดแอลกอฮอล์ออกไป โดยคงไว้ซึ่งกลิ่นและรสชาติของไวน์ดั้งเดิมอย่างครบถ้วน
“ถ้าดื่มไวน์แคลอรีต่ำ 2 แก้วต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับไวน์ปกติทั่วไป ร่างกายจะได้รับแคลอรีเพียง 3% เมื่อเทียบกับปริมาณแคลอรีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน” ดเวย์น เบอร์ชอว์ (Dwayne Bershaw) อาจารย์สอนวิชาการทำไวน์ในคณะวิทยาศาสตร์การอาหาร มหาวิทยาลัยคอร์เนลในสหรัฐอเมริกากล่าวไว้ ซึ่งนอกจากนี้เขายังได้แสดงความคิดเห็นกับ BBC Health ไว้อีกว่าไวน์แคลอรีต่ำเป็นมิตรกับมื้ออาหาร โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะหาวปากหวอก่อนจบคอร์สด้วยความง่วงจากระดับแคลอรีและแอลกอฮอล์
ถึงแม้ตอนนี้ไวน์แคลอรีต่ำจะยังไม่แพร่หลายอย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มของผลิตภัณฑ์ชนิดดังกล่าวก็ดูเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างมาก เฉกเช่นตลาดของไวน์แคลอรีต่ำในประเทศอังกฤษที่เติบโตอย่างน่าสนใจในปีที่ผ่านมาราว 8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2015 ซึ่งนักการตลาดเล็งเห็นว่าสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการในเวลานี้คือการได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มไวน์ที่มีแอลกอฮอล์น้อยลงหรือกระทั่งไม่มีเลย ส่วนเหตุผลนั้นเดาได้ง่ายมาก เพราะพวกเขาต้องการรักษาสุขภาพไปพร้อมๆ กับการได้ดื่มเครื่องดื่มที่สังสรรค์ได้ และไม่ตื่นมาแฮงตาปรือในตอนเช้าก็เท่านั้นเอง
เมืองไทยเรายังไม่มีไวน์แคลต่ำ แต่ได้ยินแว่วๆ ว่าเร็วๆ นี้มาให้ได้ชิมแน่นอน โปรดติดตาม…
เชียร์ส!
อ่านเรื่อง เปลี่ยนบรรยากาศไวน์แพริ่ง! จะกัมมี่แบร์หรือช็อกโกแลตก็จับคู่ไวน์ได้น่าทึ่งทั้งนั้น ได้ที่นี่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- edition-m.cnn.com/2017/12/21/health/reduced-calorie-wine-food-drayer/index.html
- www.theguardian.com/society/2018/jan/26/cheers-no-thanks-low–and-no-alcohol-lifestyle-booms
- www.health.com/food/low-calorie-wines
- www.thedrinksbusiness.com/2017/11/rising-healthification-driving-low-alcohol-wine-trend
- หากไม่อยากลุกออกจากบ้านให้วุ่นวาย สามารถช้อปปิ้งไวน์ออนไลน์ได้แล้วที่นี่
- ผู้บรรลุนิติภาวะควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหากบริโภคแอลกอฮอล์
- หมายเหตุ: สุราเป็นเหตุก่อมะเร็ง เซ็กซ์เสื่อม ก่อให้พิการและเสียชีวิต เป็นเหตุทะเลาะวิวาทและอาชญากรรม สามารถทำร้ายครอบครัวและทำลายสังคมได้