×

เพราะโลกเปลี่ยน ไวน์จึงต้องเปลี่ยนตาม มาอัปเดตเทรนด์ไวน์ 2020 กันเถอะ!

17.01.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS. READ

 

  • Bloomberg ได้คาดคะเนไว้ว่าสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปของโลกมีความเป็นไปได้ว่าจะส่งผลให้ไร่ไวน์ต่างๆ อาจมีการคัดสรรหรือค้นหาพันธุ์องุ่นที่เหมาะกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปมากขึ้น และนั่นคือกำไรของนักดื่มอย่างเราๆ แน่นอน
  • เรื่องที่น่าจะน่าตื่นเต้นที่สุดในปีนี้คือการที่โครงการอวกาศของประเทศลักเซมเบิร์กเพิ่งจะส่งขวดไวน์แดงขึ้นไปในอวกาศเพื่อทำการบ่มไว้ 12 เดือน ทั้งนี้ก็เพื่อทำการศึกษามวลของไวน์ที่อยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง

 

ตลอดปีที่ผ่านมาเราได้เห็นเรื่องราวและปรากฏการณ์ทางสังคมมากมาย โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นที่พูดถึงกันในวงกว้างอย่างภาวะโลกร้อนและสิ่งแวดล้อมที่กำลังเสื่อมโทรมลง เราจึงได้เห็นการออกมาเรียกร้องให้ประชากรโลกตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว เช่น เกรตา ธันเบิร์ก เด็กหญิงวัย 17 ปี ได้ออกมาพูดถึงปัญหาดังกล่าวจนทำให้คนทั้งโลกหันไปสนใจเสียงของเธอและอนาคตของตัวเองมากขึ้น

 

แล้วประเด็นเหล่านั้นจะส่งผลกระทบอะไรกับวงการเครื่องดื่มสีสวยอย่างไวน์บ้างล่ะ เราได้รวบรวมการพยากรณ์ทิศทางของเทรนด์ไวน์ในปี 2020 ที่น่าสนใจมาให้คุณได้ลองอ่านและเตรียมตัวเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวและการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับไวน์ได้อีก 

 

 

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปคือเรื่องสำคัญ

แน่นอนว่าองุ่นทำไวน์ที่ได้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่มีเรื่องของสภาพอากาศเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน เพราะการเพาะปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์ในสภาพอากาศที่แตกต่างกันก็ย่อมให้รสชาติที่แตกต่างกัน แต่ถ้าภูมิอากาศในท้องถิ่นนั้นๆ เปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลกระทบต่อรสชาติของไวน์หรือไม่ คำตอบก็คือ ‘ใช่’ แต่สิ่งที่อุตสาหกรรมไวน์จำเป็นจะต้องปรับตัวในที่นี้คือการ ‘ทดลอง’ อะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับการเพาะปลูก ซึ่งนั่นหมายถึงการที่ผู้บริโภคจะได้ลิ้มชิมรสชาติไวน์ที่แปลกใหม่ขึ้น ตามที่ Bloomberg ได้คาดคะเนไว้ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าไร่ไวน์ต่างๆ อาจมีการคัดสรร ดัดแปลง หรือค้นหาพันธุ์องุ่นที่เหมาะกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปมากขึ้น และนั่นคือกำไรของนักดื่มอย่างเราๆ แน่นอน!

 

 

หรือไวน์จะถูกบรรจุลงกระป๋อง?

หนึ่งในไอเดียที่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหม่ของไวน์คือการสรรหาบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ ในการบรรจุไวน์เพื่อการค้าขาย แทนที่จะบรรจุไวน์ลงขวดแบบดั้งเดิมที่เคยเป็นมา ซึ่งการบรรจุลงกระป๋องนั้นเป็นการผลิตที่คิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะขนาดของมันที่จะทำให้การขนส่งง่ายขึ้น ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากอะลูมิเนียมอย่างกระป๋องยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้สมบูรณ์กว่าขวดแก้ว รวมถึงการผลิตจุกขวดไวน์ที่เป็น Zero Carbon กล่าวคือผลิตโดยไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ค่อนข้างสำคัญและน่าสนใจในปีนี้

 

ไวน์ที่บ่มในอวกาศ

เรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดในปีนี้คือการที่โครงการอวกาศของประเทศลักเซมเบิร์กเพิ่งจะส่งขวดไวน์แดงขึ้นไปในอวกาศเพื่อทำการบ่มไว้ 12 เดือน ทั้งนี้ก็เพื่อทำการศึกษามวลของไวน์ที่อยู่ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงว่าจะมีรสชาติและมวลที่แตกต่างกับไวน์ที่บ่มบนโลกมากแค่ไหน โดยมีมหาวิทยาลัยจากทั้งในบอร์โดซ์ของฝรั่งเศส บาวาเรีย และเยอรมนี เป็นผู้ร่วมทำการศึกษา

 

 

ไวน์ไร้น้ำตาล ไวน์แอลกอฮอล์ต่ำยังฮิต

จากการสำรวจของ International Wines and Spirits Record เผยว่ากลุ่มผู้ดื่มกว่า 52% ในสหรัฐอเมริกาได้พยายามลองหรือต้องการที่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่น้อยลง ซึ่งก็เป็นตลาดสำคัญของกลุ่มผู้ผลิตไวน์เช่นกันที่จะพาไวน์แอลกอฮอล์ต่ำออกมาให้ผู้ดื่มได้ชิมกัน และคาดว่าตลาดนี้จะเติบโตขึ้นอย่างมากในปีนี้ ซึ่งต่อเนื่องมาจากไอเดียของการรักษาสุขภาพที่ยังคงเป็นเรื่องสำคัญในสังคม ก่อให้เกิดกระแสเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำที่ทุกสำนักมองตรงกันว่ามาแรงแซงโค้งในปี 2020 นี้แน่นอน

 

#ทีมไวน์ออร์แกนิก กำลังมา!

เทรนด์ไวน์ที่คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในปีนี้ก็คือ ไวน์ออร์แกนิก (Organic Wine) ความหมายเบื้องต้นของมันก็เหมือนกับอาหารออร์แกนิกนั่นแหละ คือเป็นไวน์ที่จะต้องผลิตจากองุ่นออร์แกนิก ปลูกด้วยดินและปุ๋ยธรรมชาติเท่านั้น ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงในกระบวนการเพาะพันธุ์ จึงได้มาซึ่งไวน์ที่รสชาติเยี่ยม อีกทั้งยังไร้สารเคมีตกค้าง นอกจากนี้ยังมี Natural Wine ที่เป็นอีกประเภทของไวน์ออร์แกนิกด้วย ซึ่งไวน์ชนิดนี้คือการให้ไวน์ได้เป็นไวน์ตามธรรมชาติของมัน หมักด้วยยีสต์ธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง ไม่กรอง เราจึงจะได้รสชาติไวน์ธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุด

 

และอีกประเภทหนึ่งคือไวน์ไบโอไดนามิก (Biodynamic Wine) คือการทำเกษตรกรรมไวน์แบบหนึ่งที่จะเน้นย้ำเรื่องการไม่ใช้สารเคมี แต่ที่พิเศษกว่าไวน์อื่นๆ คือการควบรวมศาสตร์ของการเกษตรแบบดั้งเดิมที่จะต้องเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล มีปฏิทินสำหรับการปลูก การเก็บ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ ข้างขึ้นข้างแรม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เหมาะสมที่สุดในการนำมาทำไวน์ 

 

อันนี้น่าชิมมากนะ!

 

การท่องเที่ยวไปกับไวน์จะเป็นเรื่องน่าสนุก

Enotourism คำเรียกของการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไวน์ คือการไปเที่ยวไร่ไวน์ ร่วมเทสต์ไวน์กับผู้ผลิต หรือลงมือเก็บเกี่ยวเอง ซี่งเราเคยพาคุณไปสนุกกับการท่องเที่ยวแบบนี้มาแล้วที่บารอสซาแวลลีย์ในประเทศออสเตรเลีย บ้านเกิดของ Jacob’s Creek และคุณรู้หรือไม่ว่าตามข้อมูลของ UN World Tourism Organization ได้ทำการสำรวจมาแล้วว่ามีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปยังไร่ไวน์เช่นนี้กว่า 6 แสนครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ เพราะนอกจากการท่องเที่ยวเช่นนี้จะได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศของไร่ไวน์แล้ว การได้ชิม ดื่มด่ำกับรสชาติ และเพิ่มความรู้ในเรื่องไวน์ ก็เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะ

 

Advertorial Jacob's Creek

 

ภาพ: Shutterstock

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising