ถ้าเรายึดติดอยู่กับความดั้งเดิม ไม่ยอมก้าวออกนอกกรอบ บางทีสิ่งที่เราพยายามรักษาไว้อาจไม่มีวันพัฒนาไปไหน หรือวันหนึ่งมันอาจสูญหายไปเลยก็ได้ เราเองก็มีความเชื่อแบบนั้น วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปนั่งชิมอาหารไทยแบบใหม่ที่ร้าน SOMA (โส-มะ) เพราะทีมเชฟผู้อยู่เบื้องหลังต้องการนำเสนอสำรับอาหารไทยแบบใหม่ที่ยังคงมีความดั้งเดิม หน้าตาสวยงามแต่รสชาติไม่ธรรมดา และมาในบรรยากาศที่ดูคลาสสิก ทว่ารายล้อมไปด้วยงานศิลปะราคาแพง
The vibe
SOMA เปิดอยู่ใจกลางสยามด้านในตึกสยาม ปทุมวัน เฮาส์ (ติดกับสยามดิสคัฟเวอรี่) เราชอบบรรยากาศด้านในที่ตั้งใจตกแต่งคล้ายแกลเลอรี่ โต๊ะที่นั่งทุกมุมมองเห็นชิ้นงานศิลปะที่เจ้าของยกจากกล่องสะสมมาตั้งไว้ในร้านได้ทั้งหมด อีกทั้งที่นี่ยังมาพร้อมครัวแบบเปิดและความสบายๆ เป็นกันเอง ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเพื่อนหรือคนวัยทำงานที่อยากหาร้านนั่งกินมื้อพิเศษพร้อมจิบไวน์ด้วยกันแบบไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดไปย่านอื่นไกลๆ
The Taste
SOMA นำโดย เชฟชาลี กาเดอร์ จากร้าน Wana Yook และ เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ จากร้าน Samuay & Sons สองเชฟผู้นำเสนออาหารไทยร่วมสมัยได้อย่างน่าสนใจและไม่ทิ้งเสน่ห์ดั้งเดิม พร้อมมีเชฟภาคย์ ยะมู เป็นเฮดเชฟประจำครัว SOMA จึงไม่ใช่อาหารไทยแบบที่พวกเราคุ้นตาทว่ารสชาติคุ้นลิ้น เนื่องจากทุกเมนูถูกหยิบมาเล่าใหม่โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและตั้งใจเสิร์ฟให้ทุกคนชิมแบบสำรับกับข้าวที่อยากให้แบ่งกินด้วยกัน
เมนูมีครบทั้งต้ม ผัด แกง ยำ ทอด ไปจนถึงของกินเล่นและของหวาน จานแนะนำอยากให้เริ่มจากอะไรเบาๆ อย่างเช่น สาคูไส้หมู (180 บาท) ที่มีทั้งความกรอบและความนุ่ม เชฟใส่กุ้งให้เคี้ยวแล้วมีเนื้อสัมผัสเพิ่มขึ้นด้วย เมี่ยงคำหมี่กรอบ (150 บาท) ใช้ปลาข้าวสารแทนมะพร้าวคั่ว ทำให้กินแล้วสนุกไปอีกแบบ
เราชอบ ทองม้วนปูผัดผงกะหรี่ (210 บาท) ที่โรลกรอบหอม กัดไปแล้วเจอเนื้อปูผัดผงกะหรี่ด้านใน และ พล่าหอยนางรม (260 บาท) เชฟตั้งใจใช้หอยจากฝรั่งเศสที่มีความครีมมี่ ก่อนใส่แคบหมูซ่อนไว้ด้านล่าง มาพร้อมเครื่องยำกับน้ำพริกเผา
ทุกคนอย่าลืมสั่ง ข้าวผัดซอส XO ปู (750 บาท) เพราะเชฟผัดข้าวกับซอสสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมคล้ายกังป๋วย เป็นอาหารทะเลอบแห้งที่ร้านทำเอง จานนี้มาพร้อมเนื้อปูก้อนแบบเอาใจคนรักปูด้วย แล้วยิ่งกินคู่กับ ยำเนื้อรีเจนซี่ (390 บาท) จะยิ่งติดใจ เพราะจานนี้รสเปรี้ยวจัดจ้านตัดกับความทะเลของข้าวผัดได้ดี โดยเชฟนำเนื้อไปหมักกับน้ำปลาที่ทำจากเนื้อวัว ก่อนนำมาผสมกับน้ำยำ
แต่ถ้าใครอยากซดน้ำซุปร้อนๆ เราแนะนำให้สั่ง ต้มโคล้งปลาย่าง (450 บาท) ที่มาพร้อมปลาชิ้นใหญ่ หนังกรอบหอมกลิ่นย่าง หรือจะเป็น แกงแหนมคอหมูย่าง (360 บาท) ที่เนื้อหมูนุ่มเข้ากับแกงเข้มข้น แกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่ (770 บาท) ก็ทำให้เราติดใจเป็นพิเศษเหมือนกัน เพราะวัตถุดิบสด เครื่องแกงก็เข้ากับหอยจนไม่มีรสคาว
แล้วยังมี XO ผัก 3 สหาย (260 บาท) ด้วยสำหรับใครที่อยากได้เมนูเบาๆ ตัดรสชาติเข้มข้นของจานอื่นๆ หรือ หมึกหอมย่าง (590 บาท) ที่มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานตามสูตร ได้แก่ โมจิลำไยและไอศกรีมกะทิ (300 บาท) ที่คล้ายกับไดฟุกุ และ บ้าบิ่นแซนด์วิชไอศกรีมเก๊กฮวย (300 บาท) เมนูนี้ค่อนข้างแปลกใหม่แต่หลายคนน่าจะชอบแน่นอน
Good for
SOMA เป็นร้านสไตล์แคชวลไดนิ่งที่เราเชื่อว่าหลายคนต้องชอบ เพราะเชฟตั้งใจเสิร์ฟทุกเมนูให้กินพร้อมกันได้ ไม่ต้องนึกว่าอันไหนควรมาก่อนหลัง เราชอบรสชาติที่ยังมีความไทยๆ ใช้วัตถุดิบอย่างเต็มปากเต็มคำ และเมนูทั้งหมดเข้าใจง่าย สามารถชวนเพื่อนหรือครอบครัวมานั่งกินด้วยกันได้แบบทุกคนเอ็นจอยแน่นอน
SOMA Bangkok
Open: ทุกวัน เวลา 11.00-15.00 น. และ 17.00-23.00 น.
Contact: SOMA Bangkok
Address: ชั้น 1 ใน Siam Patumwan House
Budget: 1,000-3,000 บาท