×

ยุคที่ความเก่งไม่ใช่ตัวชี้วัด! เปิด 3 นิสัย ‘ผู้นำ’ ที่ต้องไม่ติดกับดักความสำเร็จ-ไม่เลือกอยู่กับคนตรงใจ-ลดความเห็นแก่ตัว

15.08.2023
  • LOADING...

เมื่อ ‘ผู้นำ’ มีผลต่อทิศทางการก้าวเดินขององค์กร จะ ‘ล้ม’ หรือ ‘รอด’ หรือจะ ‘พัฒนา’ ก็มาจากวิธีคิดและการตัดสินใจของ ‘ผู้นำ’ ที่จะใช้ยึดถือเป็นแนวทางการทำงานเพื่อไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน

 

คำถามคือผู้นำแบบไหน หรือผู้นำนั้นต้องมี Mindset อย่างไร มีคุณสมบัติพิเศษด้านไหนถึงจะเพียงพอและตอบโจทย์พาทั้งองค์กรให้เท่าทันยุคเทคโนโลยีดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความผันผวนและยากจะคาดเดา ซึ่งกำลังสร้างแรงกระเพื่อมต่อทุกองค์กรและผู้คนในสังคมต่างๆ จนโซเซและหลงทางไปมากมาย นอกจากนี้ข้อมูลความรู้และทักษะความสามารถ ก็เป็นเพียงองค์ประกอบชิ้นเล็กๆ ในการสร้างตัวตนของผู้นำ

 

อริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ และผู้ก่อตั้ง SEAC (ซีแอค) อธิบายว่า เริ่มแรกเราต้องเข้าใจคำว่า Leadership Mindset อย่างชัดเจนก่อนว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติ ความเชื่อ และความคาดหวัง หมายความว่าคนที่เป็นผู้นำในองค์กรต้องมีทัศนคติอย่างไรที่จะพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ ต้องมีความเชื่อในเรื่องอะไร และต้องมีความคาดหวังอย่างไร

 

เมื่อเห็นทั้ง 3 ภาพนี้แล้ว เราจึงสามารถตอบได้ว่าเราจะนำองค์กรอย่างไร นำคนของเราอย่างไร แล้วจะนำกันและกันอย่างไร

 

ต่อมาเราต้องเข้าใจถึงแต่ละ Stage ของแต่ละองค์กร แต่ละอุตสาหกรรม และแต่ละการแข่งขัน ต้องรู้ก่อนว่าคุณอยู่ใน Stage แบบไหน ไม่ใช่ Leadership Mindset จะเหมาได้หมดว่าทุกองค์กรจะมีทัศนคติ ความเชื่อ และความคาดหวังเดียวกัน แต่ก็มีสิ่งที่เป็นคุณลักษณะที่ผู้นำทุกองค์กรควรมีร่วมกัน 3 อย่าง คือ

 

  1. Growth Mindset (กรอบความคิดแบบเติบโต) ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมากจะมีความเชื่อในสิ่งที่เคยทำมาในอดีต หรือมีความเชื่อในตัวตนของตัวเองสูง จนทำให้เกิด Fixed Mindset ที่คิดว่าเคยทำสิ่งนั้นมาแล้วสำเร็จ หรือทำแล้วได้รับคำชม ก็จะทำอย่างนั้นต่อไป เป็นการติดกับดักความสำเร็จของตัวเองในอดีต ผู้นำที่มี Fixed Mindset ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Growth Mindset นั้นจะเป็นคนที่เลือกอยู่ในพื้นที่ที่รู้สึกคุ้นเคย หรืออยู่ในพื้นที่ที่จะไม่เสียหน้า ทำให้ไม่กล้า Explore อะไรใหม่ๆ

 

ผู้นำที่ไม่มี Growth Mindset มักจะทำทุกอย่างแบบเดิม และจะไม่เป็น Explorer คือจะไม่สงสัยใคร่รู้ในเรื่องต่างๆ เช่น การลองวิธีการบริหารองค์กรแบบใหม่ หรือการให้โอกาสพนักงานลองเสนอไอเดียใหม่ๆ ถ้าองค์กรมีผู้นำที่ไม่ยอมเอาตัวเองไปพบอะไรใหม่ๆ เขาก็จะอยู่กับสิ่งที่ถูก Fixed ยกตัวอย่างเช่น การรับประทานอาหารชนิดเดิม ขับรถเส้นทางเดิม หรือพูดถึงสิ่งที่เคยทำสำเร็จซ้ำๆ สุดท้ายองค์กรนั้นก็จะเป็นองค์กรที่ไม่กล้าเสี่ยงทำสิ่งใหม่ๆ

 

ส่วนผู้นำที่มี Growth Mindset จะมีความกล้าทดลอง แม้จะไม่เคยทำในสิ่งนั้นมาก่อน หากทำแล้วไม่สำเร็จก็จะหาเหตุผลว่าไม่สำเร็จเพราะอะไร และลองใหม่เรื่อยๆ จึงเกิดกระบวนการ Test, Try, Learn และ Repeat

 

เราจึงต้องถามตัวเองว่าเราเป็นผู้นำที่มี Growth Mindset หรือไม่ ถ้าเราไม่มี Growth Mindset หมายความว่าเราไม่ได้พาคนในองค์กรไป Explore สิ่งใหม่ๆ ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

 

  1. Agile Mindset (กรอบแนวคิดที่ปราดเปรียว) ผู้นำที่มี Agile Mindset ยกตัวอย่างเช่น เมื่อทำความเข้าใจในบางเรื่องมากขึ้น ก็อาจจะทำให้ตระหนักว่าสิ่งที่เคยเชื่อไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว จึงต้องเริ่มต้นลงไปเข้าใจลูกน้อง เข้าใจตลาด และเข้าใจลูกค้ามากขึ้น โดยคนที่จะมี Agile Mindset ได้จะต้องมี
  • การเอาตัวเราเข้าไปทำความเข้าใจในสิ่งหรือวิธีที่ไม่คุ้นเคย หากผู้นำไม่มี Agile Mindset ก็จะทำงานด้วยวิธีของตัวเอง เพราะจะไม่เข้าใจว่าตัวเองจะต้องไปเข้าใจคนอื่นๆ และต้องมีการปรับเปลี่ยน ที่ผ่านมาอาจจะมีการบอกว่าเด็ก Gen Y และเด็ก Gen Z มีปัญหา ทั้งที่ความจริงบางครั้งผู้นำเองต่างหากที่เป็นปัญหา
  • การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration) เพราะหากเลือกอยู่กับตัวเอง และเลือกอยู่กับคนระดับ Senior เท่านั้น โดยไม่ยอมทำงานกับคนที่ไม่เหมือนตัวเองหรือคนละสไตล์ ก็จะเข้าใจโลกได้เท่านั้น การอยู่กับคนแบบเดิมๆ ชอบลูกน้องแบบไหนก็เอาแบบนั้น เพราะรู้สึกว่าการ Collaborate กับคนต่างสไตล์นั้นยาก ก็จะไม่อยากเข้าไปทำความเข้าใจและพาตัวเองไปทำในสิ่งที่ตัวเองไม่คุ้นเคย

 

  1. Outward Mindset (กรอบความคิดแบบมองออก) ผู้นำที่มองเห็นเป้าหมาย ปัญหาและความต้องการของคนอื่นสำคัญไม่แพ้เป้าหมายและความต้องการของตัวเอง แต่ถ้าผู้นำไม่มี Outward Mindset ก็จะขาด Empathy จนไม่เข้าไปเข้าอกเข้าใจคนอื่น ซึ่งจะไปลดทอนความน่ารักของผู้นำ แต่ถ้าผู้นำเริ่มเข้าใจความต้องการ มุมมอง และวิธีคิดของคนอื่นมากขึ้น หรือเรียกอีกอย่างว่า ผู้นำเห็นแก่ตัวและมองแต่ความต้องการของตัวเองน้อยลง ก็จะสามารถปรับตัวเองเข้าใจคนอื่นและเอาตัวเองไปอยู่ในรองเท้าของคนอื่นได้

 

ถ้ามองภาพทั้ง 3 อย่างเป็นภาพกว้าง จะพบว่า Growth Mindset จะเชื่อมโยงกับการ Explore สิ่งใหม่ๆ ที่ตัวเองไม่เคยทำ ส่วน Agile Mindset จะเชื่อมโยงกับการเปิดกว้างให้ตัวเองไปอยู่ในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบและไม่คุ้นเคย ขณะที่ Outward Mindset จะเชื่อมโยงกับความรู้สึกของคน

 

ในโลกวันนี้ แน่นอนว่ามีหลาย Mindset ที่ผู้นำองค์กรต้องมี แต่ไม่ว่าองค์กรคุณจะอยู่ Stage ไหน การเป็นผู้นำที่ดีควรจะมีทั้ง 3 อย่างนี้ หากไม่มี Growth Mindset ก็จะจมอยู่กับความสำเร็จในอดีต ที่อาจจะไม่พาคุณไปต่อยอดถึงอนาคต หากไม่มี Agile Mindset ก็จะคิดแบบเดิมๆ และอยู่กับคนเดิมๆ ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์แบบใหม่ หรือมิติใหม่ๆ ที่ไม่เคยสัมผัส และหากไม่มี Outward Mindset ก็จะเป็นผู้นำที่ไม่น่ารัก

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising