ผู้นำโลกร่วมถวายความอาลัย ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ ยกย่องเป็น ‘รัฐสตรี’ ผู้ทรงเกียรติภูมิและอุทิศพระชนม์ชีพเพื่อพสกนิกร

พระมหากษัตริย์และสมาชิกราชวงศ์ รวมทั้งผู้นำรัฐบาลและองค์การระหว่างประเทศจากทั่วโลก พร้อมใจกันส่งข้อความถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

โดยสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน ทรงส่งสาส์นแสดงความเสียพระทัยไปยังพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ โดยตรัสว่า พระองค์เสียพระทัยอย่างสุดซึ้งหลังทราบข่าวการสวรรคต พร้อมถวายความอาลัยในนามของรัฐบาลและประชาชนสเปน และทรงยกย่องบทบาทและความทุ่มเทในการอุทิศพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เพื่อรับใช้ประชาชนในสหราชอาณาจักรตลอด 7 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแบบอย่างและมรดกอันทรงคุณค่าต่อคนรุ่นต่อไป

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมด้วย จิลล์ ไบเดน สตรีหมายเลข 1 กล่าวถวายความอาลัย พร้อมยกย่องสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ว่าเป็นมากกว่าสมาชิกราชวงศ์ แต่ทรงเป็นผู้กำหนดนิยามแห่งยุคสมัย

โดยไบเดนระบุว่า “ในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พระองค์ทรงยืนหยัดอย่างหนักแน่น และเป็นที่มาของความสุขสบายและความภาคภูมิใจของชาวอังกฤษหลายชั่วอายุคน” และกล่าวว่า “พระองค์ทรงเป็น ‘รัฐสตรี’ ผู้ทรงเกียรติภูมิและความแน่วแน่อย่างไม่มีใครเสมอเหมือน โดยทรงฟันฝ่าภยันตรายของสงครามโลกเคียงข้างพสกนิกร และนำพาพวกเขาผ่านพ้นสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ทั่วโลก”

ด้าน เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โพสต์ภาพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทางทวิตเตอร์ หลังทราบข่าวการสวรรคตเพียงไม่กี่นาที และระบุข้อความว่าเขาจะ “จดจำพระองค์ในฐานะพระสหายของฝรั่งเศส ราชินีผู้ใจดีที่ทิ้งความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับประเทศและช่วงศตวรรษของพระองค์”

นอกจากนี้ยังมีผู้นำประเทศในเครือจักรภพ โดยประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา แห่งแอฟริกาใต้ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยยกย่องว่าทรงเป็นบุคคลสาธารณะที่พิเศษและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากการดำเนินพระชนม์ชีพอันโดดเด่นและมรดกของพระองค์จะเป็นที่จดจำจากทั่วโลก

เช่นเดียวกับ แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แถลงต่อประชาชนเช้าวันนี้ (9 กันยายน) โดยประกาศว่าเป็น ‘เช้าแห่งความโศกเศร้า’ สำหรับออสเตรเลีย และส่งข้อความแสดงความเสียใจไปยังประชาชนและสมาชิกราชวงศ์

“ด้วยการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 รัชสมัยแห่งประวัติศาสตร์และการอุทิศพระองค์ตลอดพระชนม์ชีพให้กับพระราชกรณียกิจ ครอบครัว ความศรัทธา และการรับใช้ประชาชนได้สิ้นสุดลงแล้ว” เขากล่าว พร้อมระบุว่า

“หัวใจของชาวออสเตรเลียส่งถึงประชาชนในสหราชอาณาจักรที่กำลังโศกเศร้าในวันนี้ โดยรับรู้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่าพวกเขาได้สูญเสียส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติของพวกเขาสมบูรณ์”

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและยกย่องสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ว่าการคงอยู่ของพระองค์ทรงสร้างความอบอุ่นใจแก่ประชาชนตลอดหลายทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงการปลดปล่อยอาณานิคมของแอฟริกาและเอเชีย และวิวัฒนาการของเครือจักรภพ”

นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้ส่งข้อความแสดงความไว้อาลัยและยกย่องสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ว่าจะทรงถูกจดจำในฐานะบุคคลผู้แข็งแกร่งแห่งยุค

ขณะที่ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ส่งจดหมายถึงพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แสดงความเสียใจอย่างจริงใจในนามของสหภาพยุโรป และยกย่องรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ว่าทรงกำหนดนิยามของประวัติศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักรและทวีปยุโรป อีกทั้งทรงเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ ประชาชน และค่านิยมของสหราชอาณาจักร และทรงมีความหมายอย่างยิ่งต่อผู้คนมากมาย

วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจไปยังพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 โดยระบุว่าเป็นการสูญเสียที่ไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับคืนได้ พร้อมแสดงความเสียใจต่อสมาชิกราชวงศ์และประชาชนอังกฤษ และกล่าวว่า “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงได้รับความรักและความเคารพโดยชอบธรรมจากพสกนิกรของพระองค์ ตลอดจนอำนาจในเวทีโลก”

เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่ร่วมแสดงความอาลัย โดยกล่าวว่าเขาเสียใจอย่างสุดซึ้งหลังทราบข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และระบุว่า สหราชอาณาจักรและเครือจักรภพได้เผชิญกับ ‘ความสูญเสียที่แก้ไขไม่ได้’

ทั้งนี้ ผู้นำธุรกิจระดับโลกหลายคนต่างก็แสดงความเสียใจต่อข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดย ทิม คุก CEO ของ Apple กล่าวว่า “ไม่มีอะไรสง่างามไปมากกว่าการอุทิศชีวิตเพื่อรับใช้ผู้อื่น”

ขณะที่ เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้ง Amazon กล่าวว่า เขานึกไม่ออกว่าจะมีใครทำหน้าที่ได้ดีกว่าพระองค์ ขณะที่ บิลล์ เกตส์ กล่าวว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติที่ครั้งหนึ่งเคยได้พบกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

แฟ้มภาพ: Photo by DON EMMERT / AFP

อ้างอิง: