Specialty Coffee อาจจะยังมีไม่มากในย่านเมืองเก่า จึงเป็นที่มาของ Varen BKK คาเฟ่เปิดใหม่สีขาวสะอาดตาที่ตั้งอยู่ริมถนนตรีเพชรในย่านเมืองเก่า ล้อมรอบด้วยศูนย์การค้าดิโอลด์สยาม ศาลาเฉลิมกรุง และห้างไนติงเกล ทางร้านมีจุดมุ่งหมายอยากเสิร์ฟกาแฟแบบพิเศษ อาหาร ขนมที่แปลกออกไปจากที่เคยมีในย่านนี้ และชื่อร้าน Varen BKK นั้นมาจากชื่อลูกชายคนเล็กของเจ้าของร้าน คำว่า Varen มีความหมายว่ายอดเยี่ยมที่สุด ดีที่สุด เข้ากันกับความตั้งใจของทางร้านที่อยากจะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้มาเยือน
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
The Vibes
ตัวร้านเน้นใช้สีขาวและสีดำ ตกแต่งแบบเรียบง่าย การที่อยู่ในโซนเมืองเก่าทำให้ร้านหยิบจับเอาส่วนผสมต่างๆ ของสถาปัตยกรรมสไตล์เมืองเก่ามาใช้ในร้าน ผสานกับการตกแต่งแบบโมเดิร์นได้อย่างลงตัว เน้นใช้กระจกใส ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง คุณสามารถเห็นสีสันในชีวิตประจำวันของชาวเมืองเก่าได้ นอกจากนี้เหล่าบาริสต้าและพนักงานในร้านยังแต่งตัวเน้นโทนสีขาวดำสุดเนี้ยบ ทำให้ภาพรวมของร้านดูสบายตามากขึ้น และด้วยความที่ทางร้านเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับทองมาก่อน ถ้าสังเกตดีๆ คุณจะเห็นบางอย่างที่ถูกแต่งแต้มด้วยทอง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน อาหาร หรือเครื่องดื่ม ล้วนมีประกายแวววับของทองอยู่ในนั้น
ชั้นล่างของร้านเป็นส่วนคาเฟ่ มีทั้งโซนโต๊ะธรรมดาและ Slow Bar ที่ให้คุณสามารถนั่งทอดอารมณ์จิบกาแฟดริปทั้งร้อนและเย็นที่คุณเป็นคนเลือกเมล็ดเองได้ ชั้นสองเป็นโซนที่นั่งเพิ่มเติม ส่วนชั้นสามนั้นทางร้านมีแผนจะทำเป็นแกลเลอรีและเปิดให้เข้าชมเร็วๆ นี้ นอกจากนี้บริเวณข้างร้านยังมีร้านทำเล็บอีกด้วย
Varen (150 บาท)
Valentine (140 บาท)
Volcano Coffee (130 บาท)
The Drinks
เมล็ดกาแฟของทางร้านจะมีทั้งหมด 3 แบบ ทั้ง House Blend ที่มีกลิ่นของคาราเมลและถั่ว เหมาะกับกาแฟนม ดังนั้นกาแฟนมในร้านจะใช้เมล็ดกาแฟประเภทนี้เป็นหลัก Seasonal Blend ที่มีกลิ่นและรสไปในทางหอมหวานผลไม้ เปรี้ยวเล็กน้อย บางเบา เหมาะกับเมนูอเมริกาโน นอกจากนี้ยังมี Special Blend ที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้ เหมาะกับคนที่ชอบความแปลกใหม่
Varen (150 บาท) กาแฟสกัดเย็นที่ใช้เมล็ด Seasonal Blend นำมาผสมกับน้ำเชื่อมเมเปิ้ล น้ำแอปเปิ้ล สร้างรสชาติใหม่ที่หอม หวาน สดชื่น และตื่นตัวในคราเดียว จะดื่มเดี่ยวๆ หรือดื่มไปเคี้ยวเลมอนแคนดี้ไปก็ได้มิติของรสชาติที่เพิ่มขึ้น รสชาติของเลมอนคลุกน้ำตาลแล้วนำไปเผาไฟนั้นเปรี้ยวหวานลงตัว Valentine (140 บาท) ลาเต้ร้อนหน้าตาสวยงามเลอค่าแก้วนี้ใช้เทคนิคการใส่ผงทอง Food Grade หลังจากสกัดกาแฟเสร็จ เมื่อเทออกมาเป็นลาเต้อาร์ตจึงมีประกายระยิบระยับของผงทอง Volcano Coffee (130 บาท) คาปูชิโนเย็นที่เกิดจากการนำกาแฟ นม และน้ำตาลมะพร้าวมาเขย่าด้วยกันจนเกิดฟอง โรยผงช็อกโกแลต และมีกิมมิกเล็กๆ เป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบด้านในของแก้ว เวลาดื่มแนะนำให้บีบแก้วเบาๆ ช็อกโกแลตที่เคลือบไว้จะแตกตัวเหมือนแผ่นดินแยกเวลาภูเขาไฟระเบิด สมกับชื่อของเมนูนี้
Lemon Honey Comb (120 บาท)
Honey Lemon Tea (120 บาท)
ส่วนเมนูที่ไม่ใช่กาแฟก็มี Honey Lemon Tea (120 บาท) ชาเอิร์ลเกรย์ใส่มินต์แห้งที่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น เติมน้ำมะนาวลงไป แน่นอนว่าน้ำมะนาวที่ใช้นั้นไม่ธรรมดา เพราะเป็นน้ำมะนาวสองสายพันธุ์อย่างมะนาวแป้นที่มีเอกลักษณ์เป็นกลิ่นหอม และมะนาวตาฮิติที่มีน้ำเยอะและรสชาติเปรี้ยวเบาบาง เขย่ารวมกับฮันนี่เลมอนไซรัป และถ้าคุณชอบรสชาติเปรี้ยวก็สามารถบีบเลมอนเติมลงไปได้อีก ส่วน Lemon Honey Comb (120 บาท) อีกหนึ่งเมนูสนุกๆ ที่นำเลมอนลงไปแช่ในน้ำผึ้ง ทำให้น้ำผึ้งมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น ผสานด้วยรสชาติของน้ำมะนาวสองสายพันธุ์และโซดา เพิ่มความหวานด้วยรังผึ้งที่วางมาด้านบน ถ้าคุณชอบรสชาติหวาน ลองดื่มสลับกับกัดรังผึ้งตามสักหนึ่งคำ ช่วยเพิ่มความหวานละมุนได้ดี
Lemon Cake (95 บาท)
Spaghetti Guanciale Spicy (250 บาท)
Spaghetti Carbonara (230 บาท)
The Dishes
นอกจากเมนูกาแฟ ทางร้านก็มีเมนูขนมเบาๆ ไปจนถึงเมนูอาหารเป็นมื้อเลย เริ่มที่เมนูขนมน่ารักๆ อย่าง Lemon Cake (95 บาท) เค้กเลมอนแปะหน้าด้วยทอง เนื้อไม่แน่นและไม่ฟูจนเกินไป รสชาติหวานและเปรี้ยวปลาย เข้ากับเมนูโซดาได้ดี ส่วนเมนูอาหารนั้นทางร้านก็มี Spaghetti Guanciale Spicy (250 บาท) สปาเกตตีผัดพริกแห้งที่มีตัวชูโรงเป็น Guanciale หรือเนื้อส่วนแก้มของหมูคุณภาพดีจากอิตาลีที่หอมน่ากินมาก หรือจะเป็น Spaghetti Carbonara (230 บาท) สปาเกตตีคาโบนาราที่ใช้เส้นแองเจิลแฮร์ เมื่อคลุกไข่แดง ครีม และพาร์เมซานเข้าด้วยกันจะเกิดเป็นรสชาตินุ่มละมุน ตัดด้วยรสชาติเข้มข้นของเบคอนกรอบที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน
Varen BKK
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
Address: 14 ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
Budget: 150-300 บาท
Contact: 08 1692 9999
Website: https://www.facebook.com/varenbkk/
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
