TASTE: ชิมอาหารไทยจากตำราอาหารโบราณที่ Marie Guimar

เราเชื่อว่าแค่อ่านชื่อร้านคุณน่าจะพอเดาได้ว่า ร้านอาหารไทยแห่งนี้ตั้งใจอุทิศให้กับบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อาหารที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งขนมไทยอย่าง ท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์ โดยก่อนหน้านี้ร้านเคยเปิดให้บริการอยู่ในย่านทองหล่อ ก่อนที่จะย้ายมายังโลเคชันใหม่บนชั้น 28 ของอาคาร Wyndham Bangkok Queen Convention Centre ในซอยไผ่สิงโต และมาพร้อมกับคอนเซปต์ใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งความรักให้อาหารไทยเช่นเคย

เข้ามาที่ชั้น 28 ภายในร้านตกแต่งแบบร่วมสมัยที่หยอดสำเนียงความเป็นไทยเอาไว้ทั้งงานปั้น หรือภาพวาดลายไทยที่นำมาใช้ตกแต่งเป็นทั้งลายวอลเปเปอร์และลายผ้าม่าน ล้อมรอบอยู่กับห้องอาหารที่มองเห็นวิวจากชั้น 28

เชฟแวน-อายุษกร อารยางกูร เชฟผู้อยู่เบื้องหลังของร้านเล่าให้เราฟังว่า ที่ใช้ชื่อ มารี กีมาร์ เป็นชื่อของร้านอาหารนั่นก็เพราะต้องการอุทิศแด่บุคคลในประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดเปลี่ยนของวงการขนมไทย ซึ่งจากสาขาแรกที่ทองหล่อ ร้านเสิร์ฟอาหารหลากหลายสัญชาติที่มีความเชื่อมโยงกับท้าวทองกีบม้า แต่เมื่อมาที่สาขานี้เชฟโฟกัสที่อาหารไทยเมนูหารับประทานยากในปัจจุบัน ที่เขาและทีมเชฟต้องการอนุรักษ์เอาไว้ให้อยู่กับครัวไทยไปอีกนานๆ

อาหารของที่นี่เน้นไทยภาคกลางและภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ มีแกงหรือเมนูเหนือมาให้เห็นบ้าง ซึ่งเชฟบอกว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูอยู่เรื่อยๆ เราสามารถถามพนักงานถึงเมนูประจำฤดูได้เลยก่อนสั่ง

เราเริ่มด้วยจานเรียกน้ำย่อยอย่างค้างคาวเผือก (180 บาท) ของกินเล่นที่ทำจากเผือกนึ่งนวดกับแป้งขนมจีบญวน สอดไส้กุ้งสับผัดมันกุ้งและใบมะกรูดหั่นฝอย ก่อนนำไปทอด กินคู่กันกับอาจาดแก้เลี่ยน

เราสะดุดกับเมนูน้ำพริกนครบาล (350 บาท) เพราะน้อยร้านจะมีอยู่ในเมนู น้ำพริกถ้วยนี้มีส่วนผสมเยอะมาก ทั้งกุ้งแห้ง ปลาแห้ง กากหมู สละ มะอึก มะเขือขื่น หอม กระเทียม พริกชี้ฟ้า และพริกแห้ง เสิร์ฟกับผักชุดใหญ่ทั้งผักสดผักต้ม เชฟเล่าว่าตำราอาหารไทยมีเมนูน้ำพริกเยอะมาก แต่มีอีกหลายอย่างที่จะเอามาหมุนเวียนให้ชิม

เราต่อด้วย โต่งหมูย่าง (380 บาท) เมนูจากอีสานค่อนมาทางภาคกลาง ยำที่เลือกใช้กะปิมาทำน้ำยำแทนปลาร้า หลายคนอาจจะคิดเหมือนกับเราว่าคล้ายผัดกะปิหรือเปล่า แต่เท็กซ์เจอร์เบาตามสไตล์น้ำยำ ต่างตรงกลิ่น จานนี้ดีเลย

เชฟบอกว่าแต่เมนูส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเมนูที่คนคุ้นเคย ใช่ว่าจะแปลกทั้งหมด อย่างมัสมั่น หรือขนมจีนน้ำยาปู ขนมจีนน้ำพริก หรือข้าวยำมารีกีมาร์ (250 บาท) เพียงแต่แซมแกงอื่นๆ ไว้อย่างแกงระแวงซี่โครง (320 บาท) และแกงป่าเนื้อเค็ม (350 บาท) ที่คนรักแกงป่ารสจัดน่าจะชอบ

ปิดท้ายที่ของหวานที่ตอนนี้ในเมนูมีให้เลือกสองอย่างคือ แซงมา หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ปลากริมไข่เต่า (180 บาท) ที่เสิร์ฟขนมส่วนแดง ขาว แยกกันให้เลือกผสมเองว่าชอบหวานเค็มเท่าไหน ส่วนอีกจานคือเค้กมะตูม (180 บาท) เค้กสไตล์โบราณที่ปรับหน้าตาให้สดใสกว่าเดิมด้วยสารพัดผลไม้สดให้ความสดชื่นของผลไม้ ตัดรสหวานทุ้มของมะตูม