×

Rabbit Digital Group เปิดตัว ‘Pickle’ แพลตฟอร์มจับคู่ ‘แบรนด์’ และ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ เน้นบน IG ประมวลผลข้อมูลให้เสร็จสรรพ

11.03.2021
  • LOADING...
Rabbit Digital Group เปิดตัว ‘Pickle’ แพลตฟอร์มจับคู่ ‘แบรนด์’ และ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ เน้นบน IG ประมวลผลข้อมูลให้เสร็จสรรพ

‘อินฟลูเอนเซอร์’ ในโลกการสื่อสาร ณ วันนี้ได้เข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภค เนื่องจาก ‘น้ำเสียง’ ของพวกเขาเหล่านั้นดูจะมีความเป็นกันเอง จริงใจ มีความมนุษย์ และสื่อสารด้วยวิธีการที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับการเสพคอนเทนต์จากสื่อทั่วๆ ไป 

 

ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา แบรนด์เองนอกจากจะทำกลยุทธ์การตลาดผ่านช่องทางสื่อตามปกติแล้ว ก็เลือกที่จะสื่อสารข้อมูลต่างๆ ผ่านอินฟลูเอนเซอร์เป็นทางเลือกเสริมอีกด้วย โดยข้อมูลจาก DAAT พบว่า มูลค่าตลาดของการทำงานร่วมกันระหว่างเอเจนซีและ KOL อินฟลูเอนเซอร์ในปีที่ผ่านมานั่นสูงกว่า 1.8 พันล้านบาท (ยังไม่ร่วมแคมเปญที่อยู่นอกระบบ ไม่ผ่านเอเจนซี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมูลค่าตลาดนี้อาจจะสูงกว่าที่ข้อมูล DAAT ระบุไว้)

 

แต่ปัญหาก็คือ ‘การเชื่อมต่อ’ ระหว่างอินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์ ในขั้นตอนกระบวนการพูดคุย เจรจา ไปจนถึงการแทร็กข้อมูลผลลัพธ์แคมเปญระหว่างทั้งสองฝ่าย ก็ค่อนข้างเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ยุ่งยาก ยิ่งเป็นแบรนด์ขนาดเล็ก หรือกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่อาจจะไม่ได้ใช้บริการเอเจนซีอย่างจริงจัง ก็ยิ่งเพิ่มความยากในขั้นตอนการคัดสรรและเข้าถึงอินฟลูเอนเซอร์ให้เพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่า

 

ส่วนอินฟลูเอนเซอร์เอง บางครั้งก็อยากจะทำงานร่วมกับแบรนด์ที่ตัวเองสนใจ แต่กลับไม่สามารถเข้าถึงแบรนด์นั้นๆ ได้ ภายใต้เงื่อนไขและปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป

 

เพนพอยต์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ฝั่ง Rabbit Digital Group ในฐานะเอเจนซีเองก็มองเห็นมานาน เนื่องด้วยมีลูกค้าฝั่งแบรนด์ที่ต้องดูแลอยู่หลากหลาย บวกกับแนวคิดที่ว่า ‘ต้องดิสรัปต์ตัวเองก่อนให้คนอื่นดิสรัปต์’ (จุดเริ่มต้นการตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อน ‘RabbitX’) จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจพัฒนาแพลตฟอร์มจับคู่แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ ‘Pickle’ ขึ้นมา

 

Pickle คือแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์การเป็นตัวกลางในการจับคู่ให้ ‘แบรนด์’ และ ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ที่มีความแมตช์กันในด้านความต้องการ การสื่อสาร และตัวแคมเปญนั้นๆ ได้มาเจอกัน โฟกัสบน Instagram เป็นหลัก ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่ขั้นตอนการค้นหาแคมเปญหรือแบรนด์ที่ต้องการ การติดตามผลลัพธ์ การส่งงาน การประมวลเอนเกจเมนต์จากแคมเปญนั้นๆ แบบเสร็จสรรพ

 

ซึ่งตัวแบรนด์เองก็สามารถเข้าร่วมการใช้งานบน Pickle ได้โดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้สามารถสร้างแคมเปญเปิดรับการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ในแบบที่กำลังตามหา กำหนดเงื่อนไขการทำแคมเปญสื่อสารแบบละเอียดยิบ (เลือกได้ทั้งผลตอบแทนแบบเงิน หรือการบราเธอร์สินค้า บริการ) 

 

โดยที่ความสะดวกคือ แพลตฟอร์ม Pickle จะดำเนินการสรุปข้อมูลต่างๆ ของตัวอินฟลูเอนเซอร์และผลลัพธ์การทำแคมเปญให้ด้วยในแบบ ‘Influencers Analysis’ เลือกดูได้ว่าอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นๆ มียอดผู้ติดตาม เอนเกจเมนต์ต่อโพสต์ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการ Spend เงินเป็นอย่างไร ฯลฯ แบบเรียลไทม์ แล้วยังสามารถแชตพูดคุยติดต่อกับอินฟลูเอนเซอร์ที่แมตช์กับแคมเปญได้ทันทีบนแพลตฟอร์ม

 

ฝั่งอินฟลูเอนเซอร์เอง เมื่อเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มแล้ว ก็สามารถเลือกเสิร์ชแคมเปญจากแบรนด์ต่างๆ ที่แมตช์กับความสนใจของตัวเองได้ง่ายๆ เพื่อให้ได้งานที่ถูกจริตความต้องการ แล้วกด Submit ยืนยันการจับคู่ได้ทันที

 

โดยหลังจากที่ชิมลางเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ปัจุจบัน Pickle มีแบรนด์เข้ามาใช้งานมากกว่า 200 แบรนด์ ตัวอย่างเช่น O&B, Foreo หรือ Kouen เป็นต้น ส่วนอินฟลูเอนเซอร์ที่สมัครเข้ามาใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์มตอนนี้อยู่ที่หลักพันราย (ยังไม่มากเนื่องจากเป็นช่วงแรก และรับเฉพาะอินฟลูเอนเซอร์ที่มียอดฟอลโลเวอร์ใน Instagram มากกว่า 3,000 รายขึ้นไป รวมถึงมีขั้นตอนการ Verify คัดกรองแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์ที่เข้มงวด) 

 

ส่วนในโมเดลธุรกิจและการต่อยอดเพื่อทำเงินนั้น รุ่งโรจน์ ตันเจริญ ในฐานะ Head of RabbitX ให้ข้อมูลไว้ว่า ปัจจุบันแพลตฟอร์ม Pickle ยังเปิดให้ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายไปจนถึงช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปีนี้ ก่อนที่จะพิจารณาปรับใช้โมเดลเก็บค่าธรรมเนียมการจับคู่ ‘จากฝั่งแบรนด์’ ในอนาคต (ไม่เก็บกับอินฟลูเอนเซอร์) ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะมีโมเดลการคิดอัตราค่าธรรมเนียมการจับคู่ระหว่างแบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์อย่างไร

 

โดยที่ในอนาคต Pickle อาจจะขยายพื้นที่การสื่อสาร ทำการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ นอกเหนือจาก Instagram และอาจจะเล็งไปที่ Facebook เป็นอันดับแรก ในช่วงปลายปีนี้หรือปี 2565 เป็นต้นไป

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising