ปูตินส่งสัญญาณ เปิดกว้างเจรจา 'วิกฤตยูเครน' วอนสหรัฐฯ อย่าตีกระแส ดึงรัสเซียเข้าไปยังจุดขัดแย้ง

วานนี้ (1 กุมภาพันธ์) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ส่งสัญญาณเปิดกว้างเรื่องการเจรจาวิกฤตการณ์ยูเครน วอนสหรัฐอเมริกาอย่าพยายามตีกระแสข่าวและดึงรัสเซียเข้าไปยังจุดความขัดแย้งที่จะทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

ผู้นำรัสเซียแสดงความเห็นและจุดยืนต่อกรณีวิกฤตยูเครนครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทางการสหรัฐฯ พยายามดึงรัสเซียเข้าไปยังจุดขัดแย้งทางทหารในวิกฤตยูเครน ทั้งที่ทางการรัสเซียไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้น พร้อมคาดหวังว่าการเจรจาทางการทูตระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะยังคงสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง แม้ปูตินจะยังคงยืนยันว่า การมีอยู่ของกองกำลังองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในยุโรปตะวันออกถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพโลก

ปูตินอ้างว่า รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจะสร้างสถานการณ์และบริบทแวดล้อมของการทำสงคราม และดึงรัสเซียเข้าไปสู่จุดความขัดแย้งนั้น เพื่อที่จะสร้างความชอบธรรมในการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่อรัสเซีย โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มักกล่าวเกินจริงเกี่ยวกับภัยคุกคามจากการรุกรานของรัสเซีย

“หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของพวกเขาคือ การจำกัดการพัฒนาของรัสเซีย ยูเครนเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายตรงนี้ และมันสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายหลากหนทาง เช่น การดึงเราเข้าสู่ความขัดแย้งทางทหาร และผลักดันให้พันธมิตรชาติตะวันตกในยุโรปดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นต่อประเทศของเรา”

ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดนปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำร้องขอของรัฐบาลรัสเซียที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกจะต้องสร้างหลักประกันว่าจะไม่สร้างฐานทัพในบรรดาประเทศที่เป็นอดีตสหภาพโซเวียต รวมถึงจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก NATO เพราะนั่นหมายความว่าผลประโยชน์และความมั่นคงของรัสเซียจะถูกสั่นคลอนตามไปด้วย หากยูเครนที่เปรียบเสมือนหลังบ้านของรัสเซีย เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับชาติตะวันตก

ภาพ: Mikhail Metzel / TASS via Getty Images

อ้างอิง:

บทความที่เกี่ยวข้อง: