×

ฟิลลิปส์ ทินโรจน์: เรียนศัพท์สำนวนภาษาอังกฤษจากการสนทนากับหนุ่มไทยที่เติบโตในสวีเดน ผู้ชนะ The Face Men Thailand

08.11.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

Time index

00.10 Introduction

03.37 20 ปีแรกของฟิลลิปส์ที่สวีเดน

15.31 ดีเจฟิลลิปส์ผู้ริเริ่มการจัดปาร์ตี้ในป่า!

22.30 เล่นเกม This Or That

27.26 เล่นเกม What If

     ฟิลลิปส์ The Face Men Thailand นั่งคุยกับ โบ สาวิตรี เรื่องความสวีเดน และเรื่องการจัดปาร์ตี้ในป่า! แกะศัพท์สำนวนภาษาอังกฤษที่รับรองว่าเอาไปพูดตามได้จริง ขอให้ลองฟังพอดแคสต์ไป และอ่านโชว์โน้ตนี้ตามไปด้วย นอกจากสนุก ยังเพิ่มพูนความรู้ทางภาษาอีกด้วย!

 


 

02.24

     “I didn’t catch your name, by the way…”

     ทันทีที่เปิดรายการมา ฟิลลิปส์ ก็ออกตัวก่อนเลยว่ายังไม่รู้ชื่อโฮสต์ของเรา

     เพื่อให้ดูเบาลง จะไม่พูดว่า ‘I don’t know your name…’ หรือ ‘I don’t know who you are…’ แต่จะพูดทำนองว่า ‘เอ๊ะ ชื่ออะไรนะครับ เมื่อกี้ฟังไม่ทัน’ แต่เอาเข้าจริงก็เท่ากับการถามว่า ‘What’s your name?’ นั่นเอง

     สำนวนนี้น่าจะใช้ถามชื่อของคนที่ได้คุยกันมานิดหนึ่งแล้ว หรือได้รับการแนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่จำชื่อไม่ได้ หรือฟังชื่อไม่ทัน อย่างในกรณี ฟิลลิปส์ แม้จะได้เจอโบเป็นครั้งแรก แต่ก่อนจะเปิดไมค์ก็ได้เมาท์มอยกันไปพักใหญ่

 

 

ฟิลลิปส์ The Face Men ที่ The Standard Photo Studio

 

02.45

     “You’re giggling…”

     เนื่องจากทั้งสองเมาท์กันมาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดไมค์ พอรายการเริ่ม ฟิลลิปส์จึงยังหัวเราะคิกคักกับมุกที่เล่นกันไปก่อนหน้านี้

     ในขณะที่ laugh แปลว่าหัวเราะ ฮ่าฮ่า giggle แปลว่า หัวเราะคิกคัก

 

03.04

     “Some people might call it immature, though.”

     โบชมว่า ฟิลลิปส์ ดูเหมือนจะเป็นคนประเภท ‘happy-go-lucky’ (ดูยิ้มแย้มแจ่มใส มองโลกในแง่ดี และไม่กังวลกับอะไรง่าย) และเป็นคนที่ ‘lively’ (ร่าเริง เต็มไปด้วยพลังงาน) ฟิลลิปส์ ตอบว่า “แต่ไอ้ลักษณะแบบนี้บางคนก็บอกว่ามันคือนิสัยไม่รู้จักโตนะครับ”

     Immature = ทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่รู้จักวางตัวเป็นผู้ใหญ่

 

03.28

     “Give yourself a pat on the back.”

     พอรู้ตัวว่าได้ตอบอะไรคมๆ ฉลาดๆ ออกไป ฟิลลิปส์ ก็ชมตัวเองว่า ‘Now, that’s a good answer!’ โบเลยบอกว่า งั้นตบบ่าชมตัวเองหน่อยสิคะ

     Give someone a pat on the back = ชมเชยใครสักคน หรือจะชมตัวเองแบบฟิลลิปส์ก็ได้

 

03.47

     “I was born and raised in Sweden.”

     ฟิลลิปส์ เล่าว่าเขาเกิดและเติบโตมาในสวีเดน

     Born and raised in (เมืองไหน ประเทศอะไร) = เกิดและเติบโตที่ไหน

 

04.45

     “Can you speak any other languages besides Swedish and English and Thai?”

     โบถามว่าพูดภาษาอื่นได้อีกไหมนอกจากสวีเดน อังกฤษ และไทย

 

ฟิลลิปส์ The Face Men ที่ The Standard Photo Studio

 

06.53

     “Was any of that any cuss words?”

     โบขอให้ ฟิลลิปส์ พูดเป็นภาษาสวีดิชว่ารู้สึกอย่างไรกับเมืองไทย ซึ่ง ฟิลลิปส์ ก็จัดให้ยาวเหยียด พอ ฟิลลิปส์ พูดจบโบก็ทำตาปริบๆ ก่อนจะถามว่า ที่พูดไปทั้งหมดนั้นมีตรงไหนเป็นคำหยาบบ้างไหมคะ ไม่ค่อยจะไว้ใจเลย

     Cuss เป็นอีกรูปหนึ่งของคำว่า curse (ซึ่งบางทีคนใช้ให้รูปคำรุนแรงน้อยลง เหมือนใช้คำว่า dang แทนคำว่า damn)

     Cuss word จึงหมายถึง curse word ซึ่งแปลว่า คำหยาบ นั่นเอง

 

08.40

     “Tru dat!”

     โบถามว่า ฟิลลิปส์ ชอบกินอะไร ฟิลลิปส์ ตอบว่าถ้าดึกๆ จะชอบข้าวต้มหรือโจ๊ก เพราะกินง่ายและอร่อย ตบท้ายว่า ‘Simple food is the best’ อาหารง่ายๆ นี่แหละดีที่สุด

     และโบก็ตอบว่า “True that!”

     True that หรือ tru that หรือ tru dat (สะกดให้สบายใจกันไป) แปลว่า ‘จริง! เห็นด้วย’ หรือ “That is true. I agree.” เป็นภาษาพูดหรือภาษาแชตที่ใช้พูดได้แบบไม่เป็นทางการ ระหว่างเพื่อนฝูง แต่ไม่ใช่ตอนสัมภาษณ์งาน อะไรอย่างนี้ จะสอบตก

 

08.48

     “Okay, I don’t know if I’m butchering it, but is it อิเกีย or ไอเกีย?”

     โบไม่แน่ใจว่าตกลงคำนี้ออกเสียงว่าอะไรกันแน่

     คำว่า butcher แปลว่า คุณคนขายเนื้อ

     ถ้าเป็นคำกริยา แปลว่า เชือดอย่างโหดร้าย ได้ด้วย

     ส่วนสำนวน butcher the language แปลว่า เอาภาษาอื่นมาใช้ผิดๆ เพี้ยนๆ บ้าๆ บอๆ จนเสื่อม เช่น เมื่อคนอเมริกันพูดภาษาฝรั่งเศสด้วยสำนวนของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้คนฝรั่งเศสรู้สึกว่าเอาภาษาชั้นสูงของฉันไปพูดเสียหายหมด

     ในกรณีนี้โบก็กลัวว่าตัวเองจะใช้สำเนียงสวีดิชไม่ตรงตามต้นตำรับ เลยมีการออกตัวเล็กน้อย

 

ฟิลลิปส์ The Face Men ที่ The Standard Photo Studio

 

10.10

     “Swedish people are against violence. We don’t want any trouble. We don’t want to cause any trouble and we don’t want any connection with trouble. That’s a swedish thing.”

     โบถามว่า จากสถิติและการจัดอันดับ เขาว่าสวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก เป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ฟิลลิปส์ เลยเล่าว่า คนสวีเดนมักจะพยายามอยู่ห่างจากปัญหายุ่งยาก เป็นอย่างนั้นมากกว่า

     That’s a swedish thing = นั่นเป็นอะไรที่สวีเดนมากๆ หรือ สวีเดนเขาเป็นกันแบบนี้แหละ เปลี่ยนคำว่า สวีดิช เป็นคำวิเศษณ์ของชนชาติต่างๆ ได้ เช่น Thai, Indian, American, Japanese ฯลฯ เพื่อบรรยายความแนวของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์

     That’s a thing = เป็นสำนวนที่ใช้แนะนำแนวคิดหรือไอเดียอะไรสักอย่าง เพื่อบอกว่า เออ มันมีอะไรแบบนี้อยู่ หรือ คนกลุ่มนี้เป็นแบบนี้ หรือ คนสมัยนี้เขากำลังฮิตอะไรแบบนี้ หรือ เฮ้ย นั่นกำลังเป็นปรากฏการณ์ (ซึ่งมักจะเป็นของใหม่ที่แหวกแนวสักหน่อย หรืออย่างน้อยคือไม่เป็นไปตามขนบ) เช่น พอได้ยินว่าคนสมัยนี้เขาเลี้ยงหมูแคระกัน ก็อาจถามกึ่งรำพึงออกมาด้วยความทึ่งว่า “Is that really a thing?” ก็จะให้อารมณ์ว่า มีคนนิยมกันแบบนี้จริงเหรอวะ

 

11.35

     “Back in Sweden you get free food in school. And sometimes we have pancake. I was a kid who loves to eat a lot. and when it comes to pancakes, no one is humble. Everyone would be like, ‘Give me 20 pieces!’ So the teacher always says, ‘Just take enough for you. Finish that first and then you can come back. Be lagom. Don’t take too much.’”

     โบถามถึงคอนเซปต์ของคำว่า ลากอม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของสวีเดน ฟิลลิปส์ อธิบายโดยเล่าถึงสมัยยังเป็นนักเรียนว่า เวลาอาหาร วันไหนมีแพนเค้ก ทุกคนจะแบบว่า ผมขอ 20 อัน! ครูก็จะบอกว่า เอาไปแต่พอดีก่อน อย่ามากเกินไป กินหมดแล้วค่อยกลับมาเอาใหม่ นั่นแหละคือลากอม ไม่มากไป ไม่น้อยไป พอดีๆ

 

12.17

     “Do you sort of live by that motto in real life?”

     เมื่อฟังคำอธิบายเรื่องลากอมแล้ว โบจึงถามว่า แล้ว ฟิลลิปส์ ใช้ชีวิตโดยยึดถือคติลากอมนี้ด้วยหรือเปล่า

     Live by = ปฏิบัติตนตามความเชื่อหรือหลักการอะไรบางอย่าง

     Motto = คติ คติพจน์ คำขวัญ คำคม ภาษิตสอนใจ

     Sort of = เป็นคำในภาษาพูด แปลได้ประมาณว่า ‘ประมาณว่า’ หรือ ‘แบบว่า’ คล้ายกับคำว่า ‘kind of’

 

ฟิลลิปส์ The Face Men ที่ The Standard Photo Studio

 

12.25

     “I’m working my ass off.”

     ฟิลลิปส์ บอกว่า ความลากอมนั้น ถ้าเป็นเรื่องงานเขาไม่ลากอมนะ เพราะเขาจะทำงานหนักมาก ไม่เอาแต่พอดี แต่จะทุ่มสุดตัว

     Work my ass off = work so hard ทำงานหนักมากๆ ถ้ากลัวหยาบก็ปรับเป็น work my butt off ก็ความหมายเดียวกัน แม้จะฟังดูไม่เข้มข้นเท่า

 

13.09

     “I can hear it in your voice!”

     โบถามว่า ชอบกาแฟไหมคะ ซึ่งฟิลลิปส์ตอบมาด้วยน้ำเสียงที่ปลาบปลื้มมากว่าชอบสุดๆ โบเลยบอกว่า โห แค่ฟังจากน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าชอบแค่ไหน

 

13.26

     “What’s your favorite coffee? What’s your go-to cup?”

     โบถามว่า กาแฟถ้วยโปรดคืออะไร กาแฟแบบไหนที่ดื่มประจำ

     Go-to (อะไรสักอย่าง) = อะไรก็ตามที่ใช้ประจำ กินประจำ โดยไม่ต้องคิดมาก เพราะรู้อยู่แล้วว่าอร่อย ถูกใจ หรือเหมาะกับเรา ชุดที่สวมใส่ประจำ อาหารจานโปรดที่กินประจำ ร้านกาแฟที่ไปแฮงเอาต์ประจำ สถานที่ที่ไปเที่ยวประจำ

     หรือบางครั้งถ้าเป็นคน ก็หมายถึงคนที่เหมาะกับอะไรสักอย่าง หรือขึ้นชื่อทางใดทางหนึ่งที่สุด เช่น ถ้าเจอเด็กและผู้หญิงถูกทารุณ ต้องพุ่งไปหาคุณปวีณาทันที อะไรแบบนี้

 

15.59

     “Go way, way back…”

     ฟิลลิปส์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาชีพดีเจ โดยบอกว่าเรื่องเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แทนที่จะพูดว่า ‘It happened a long time ago…’ ก็ใช้คำว่า ‘way, way back…’ ให้ความหมายเดียวกันคือ นานมาแล้ว

 

18.15

     “Sixteen years old, having a big ass party in the woods… No cops will come!”

     ฟิลลิปส์ เล่าว่า สมัยอายุ 16 เข้าไปจัดปาร์ตี้ในป่า ตำรวจที่ไหนจะมาจับ!

     Big ass = ไม่ได้แปลว่าตูดใหญ่ แต่ ass มาช่วยขยาย big ให้ความหมายว่า ใหญ่โคตรๆ

 

19.04

     “I’m not boasting.”

     แปลง่ายๆ ว่า ‘ไม่ได้โม้’  

 

20.28

     “Party pooper!”

     เป็นสำนวนที่ใช้เรียกใครก็ตามที่ทำงานกร่อย

 

20.37

     “What a bummer!”

     เป็นคำอุทานว่า ‘โห เซ็งอะ’ หรือ ‘เซ็งเลยเนอะ’

 

20.55

     “What’s the legal drinking age in Sweden?”

     โบถามว่า ผู้คนดื่มได้อย่างถูกกฎหมายที่อายุเท่าไรในสวีเดน

 

ฟิลลิปส์ The Face Men ที่ The Standard Photo Studio

 

21.12

     “Ah… so that’s how it started…”

     หลังจากฟัง ฟิลลิปส์ เล่าแล้ว โบก็รำพึงออกมาว่า อ๋อ งานดีเจของเธอมันมีที่มาอย่างนี้นี่เอง มันเริ่มต้นตรงจุดนั้นนั่นเอง

 

22.30

     เกม This or That

     ลองเอาคำถามเหล่านี้ไปถามเพื่อนๆ ดู แล้วเราจะรู้จักเขาดีขึ้น

 

23.00

     Too quiet or Too loud

     จะเลือกอะไร ระหว่าง เงียบเกินไป กับ ดังเกินไป

 

22.30

     Living on the Moon or living on Mars

     จะเลือกอะไร ระหว่าง อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ กับ อาศัยอยู่บนดาวอังคาร

     A moonman มนุษย์ดวงจันทร์

     A martian มนุษย์ดาวอังคาร

 

22.30

     Wearing hot pink head-to-toe for a month or wearing fluorescent green head-to-toe for a month

     จะเลือกอะไร ระหว่าง แต่งตัวด้วยสีชมพูสดหัวจรดเท้าหนึ่งเดือนเต็ม กับ แต่งตัวด้วยสีเขียวสะท้อนแสงหัวจรดเท้าหนึ่งเดือนเต็ม

 

22.30

     Photo shoot next to one giant crocodile or photo shoot in a tub of a thousand worms

     จะเลือกอะไร ระหว่าง ถ่ายแบบแฟชั่นข้างจระเข้ยักษ์ กับ ถ่ายแบบแฟชั่นในอ่างอาบน้ำกับหนอนหนึ่งพันตัว

     All the way = totally อย่างแรง แน่นอน

 

22.30

     No hair on your head or no teeth in your mouth

     จะเลือกอะไร ระหว่าง หัวล้านหมดหัว หรือ ฟันหลอหมดปาก

 

ฟิลลิปส์ The Face Men ที่ The Standard Podcast Studio กับ โบ สาวิตรี

 

27.26

     What if

     คำถามสมมติ (hypothetical question) ที่ฟิลลิปส์จับขึ้นมาได้จากโหลในวันนี้

 

     You are offered a pill that makes you 50% more intelligent but permanently removes your hair including eyebrows. Do you take it?

     ให้กินยาที่จะทำให้ฉลาดขึ้นอีก 50%

     แต่ทำให้ผมร่วงหมดหัว และคิ้วก็ไปด้วย จะยอมกินไหม

 

     “If I were offered a pill that makes me 50% more intelligent but permanently removes my hair including eyebrows. Do I take it? Umm… 50% smarter… What if I haven’t reached my limit? What if in 10 years I can become 50% smarter by myself already? I would take the pill if I reached my limit, but I feel like at 22 years old, I haven’t. So, I’m not gonna take it…”

 

29.10

     ฟิลลิปส์ ถามโบกลับว่า เป็นโบ โบจะกินยานี้ไหม โบตอบว่า

     “I think I’m too vain to lose all my hair…”
     โบอาจจะห่วงสวยมากเกินกว่าจะยอมเสียผมไปทั้งหัว

     Vain = ห่วงสวย ห่วงลุค ห่วงภาพพจน์ แคร์สายตาคนอื่น อะไรประมาณนี้

 

29.42

     “I think I have fun learning as I go. I don’t wanna take the shortcut.”
     โบชอบที่จะฉลาดขึ้นด้วยการเรียนรู้เอาเองไปเรื่อยๆ มากกว่า ไม่อยากฉลาดด้วยทางลัด

 

31.03

     “That’s the perfect way to end the show.”

     โบบอกว่า คำตอบของ ฟิลลิปส์ เป็นการจบรายการได้สวยมาก 

 

31.18

     “I was super cheesy on this interview. I’m so neutral. I’m so Swedish! Oh my God… I’m so Swedish… I could never decide…”

     ฟิลลิปส์ บอกว่า รู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามไม่เด็ดเลย คำตอบก็เห่ยๆ (cheesy) ตอบอะไรกลางๆ เป็นอะไรที่สวีดิชมาก!

 

ฟิลลิปส์ The Face Men ที่ The Standard Podcast Studio กับ โบ สาวิตรี

 


 

Credits

The Host สาวิตรี สุทธิชานนท์

The Guest ฟิลลิปส์ ทินโรจน์

 

Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข

Episode Producers ภูมิชาย บุญสินสุข

อธิษฐาน กาญจนพงศ์

ปวริศา ตั้งตุลานนท์

Episode Editor ภูมิชาย บุญสินสุข

Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์​ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director กริณ ลีราภิรมย์

Graphic Designer เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล

Photo นวลตา วงศ์เจริญ

Music Westonemusic.com

  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising