×

ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิน : ศัพท์สำนวนภาษาอังกฤษ จากการสนทนากับ Miss Thailand Earth 2017

01.11.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

Time index

00.10 Introduction

03.50 อะไรคือความแตกต่างระหว่าง สาวสวย กับ นางงาม

15.44 Kinesiology หรือ วิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว คืออะไร

25.34 มารู้จักประเทศแคนาดาให้มากขึ้น

     ตามแกะและเรียนรู้ศัพท์สำนวนภาษาอังกฤษ ที่รับรองว่าเอาไปพูดตามได้จริง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นสายนางงาม!) จากการสนทนาระหว่าง โบ-สาวิตรี กับ ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิน รอง Miss Universe Thailand 2017 และ Miss Thailand Earth 2017 พูดคุยเรื่องการประกวดนางงาม วิชาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว และ ประเทศแคนาดา

 


 

02.46

“It’s so nice to have you here.”

โบบอกว่า ‘ยินดีมากที่ฟ้าใสมาร่วมรายการ’

 

02.48

“It’s an honor for me to be here today.”

ฟ้าใสตอบว่า ‘รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาในวันนี้ค่ะ’

 

03.59

“Hey, you gotta chase your dream. I feel you, girl.”

โบเล่าว่า ฟ้าใสเคยผ่านมาแล้วหลายเวที และตบท้ายว่า ‘คนเราก็ต้องไล่ตามความฝันของตัวเองแบบนี้แหละเนอะ พี่ผ่านมาแล้ว พี่เข้าใจ พี่เก็ตค่ะซิส’

     I feel you = ‘I understand and agree’ คือเข้าใจ และเห็นด้วย เป็นไปได้ว่าคนพูดประโยคนี้เพราะเคยมีประสบการณ์ในทำนองเดียวกันมาแล้ว

 

04.56

“That was a huge eye-opener.”

ฟ้าใสเล่าว่าการได้ไปประกวดมิสไชนีสคอสมอสที่มาเลเซียเป็นประสบการณ์เปิดโลก เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเวทีระดับนานาชาติ และประสบการณ์ครั้งนั้นก็ช่วยให้พอนึกออกว่าต้องเตรียมตัวไปประกวดที่ฟิลิปปินส์หนนี้อย่างไรบ้าง

     Eye-opener = ประสบการณ์เปิดหูเปิดตา ที่ทั้งน่าประหลาดใจ และให้บทเรียนบางอย่างกับชีวิต

 

06.26

“I’m gonna be honest here…”

ฟ้าใสเกริ่นว่า “หนูจะพูดตรงๆ เลยนะคะ…” ก่อนเปิดเผยว่า เกรดเธอเคยไม่สวยงามเท่าไรนักสมัยเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงปีแรก

 

06.43

“I graduated within a year and a half with straight A’s… and I graduated with honors…”

ฟ้าใสเล่าว่าเธอจบปริญญาภายในหนึ่งปีครึ่ง โดยได้เกรดเอทุกวิชา และได้เกียรตินิยม

 

07.21

“If you have a goal, you’re gonna do everything in order to try to achieve it.”

ฟ้าใสเล่าว่า ด้วยความมุ่งมั่นอยากประกวดนางงาม เธอจึงพยายามตั้งใจเรียนจนได้เกียรตินิยมเพื่อให้ตัวเองหมดห่วงเรื่องภาระหน้าที่ทางการศึกษา ทั้งยังตั้งใจลดน้ำหนักจาก 78 ลงมาเหลือ 62 กิโลกรัม เธอเชื่อว่าที่ตัวเองทำสำเร็จก็เพราะเธอตั้งเป้าหมาย และเมื่อคนเรามีเป้าหมาย เราจะรู้ว่าเราต้องทำทุกอย่างเพื่อไปให้ถึงตรงนั้น

 

 

07.38

“… I’m sorry I’m totally lost, what was the question again?”

ฟ้าใสเล่าเพลินๆ จนถึงจุดหนึ่งเธอก็รู้ตัวขึ้นมาว่า เดี๋ยวนะคะ เริ่มงง ลืมไปแล้วว่าโบถามอะไร ขอคำถามอีกครั้งได้ไหมคะ (หัวเราะ)

 

07.48

“I really like the idea of having a platform to make a difference. I always get up and do the same old patterns, the same routines… and it just… ‘What am I doing with my life?’, and now with beauty pageants, you can be a voice for others.”

โบถามว่า ทำไมถึงหลงใหลในการประกวดนางงาม ฟ้าใสตอบว่า เพราะมันเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เธอสร้างความแตกต่างให้โลกใบนี้ โดยเป็นตัวแทนและเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ

 

08.12

“That was one of the main reasons why I entered the pageants. But mostly it was to challenge myself, gain new experiences, meet new people and have more friends.”

ฟ้าใสยังบอกว่าเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้เธอเข้าประกวดคือ อยากท้าทายตัวเอง อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ รู้จักคนมากมาย และได้เพื่อนเพิ่มขึ้น

 

08.38

“Don’t mess with her, guys.”

พอฟ้าใสเล่าว่าเธอเรียนมวยไทย โบเลยแซวว่า “ทุกคนคะ อย่าไปมีเรื่องกับเธอนะคะ”

     Mess with (ใครสักคน) = หาเรื่อง เกะกะระราน กวนตีน

 

10.44

“When you guys are on stage, you make it look so effortless. You guys make it look so easy.”

พูดถึงเรื่องรอบตอบคำถาม โบบอกว่า เหล่านางงามทำเหมือนกับว่าการตอบคำถามยากๆ พวกนี้เป็นเรื่องง่ายจัง

     Effortless = ง่ายดาย ไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย

 

13.14

“I am a pageant fan. I like watching pageant. I’m not ashamed to admit that… and when it comes down to the top five or top three, and when they ask you a question, I tried to put myself in your shoes and answer along with you, and it IS hard! You only have a few seconds to think about it and answer eloquently.”

โบสารภาพว่า ชอบดูนางงามมาก ขอพูดอย่างไม่อาย และทุกครั้งที่ถึงรอบตอบคำถาม โบจะพยายามตอบคำถามตามไปด้วย และพบว่ามันยากมาก! นางงามจะมีเวลาคิดเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อตอบออกมาอย่างสละสลวย

     I’m not ashamed to admit that = ไม่อายที่จะยอมรับ

     I put myself in your shoes = พยายามจินตนาการตัวเองในสถานการณ์ที่คนอื่นเผชิญอยู่

     Answer the question eloquently = ตอบคำถามอย่างมีวาทศิลป์ อย่างมีคารมคมคาย หรืออย่างฉาดฉานน่าฟัง

 

13.56

“You know the reason why beauty pageants are over a course of a month or weeks is because during that time when you’re doing activities they also look at your personality to see if you’re friendly, if you’re able to get along in groups, to see if you’re okay to work with. Because if you’re crowned you’re gonna be working with them.”

“รู้ไหมคะว่าทำไมการประกวดต้องมีการเก็บตัวกันเป็นเดือน ก็เพราะว่าช่วงที่เราทำกิจกรรมกันนั้น เขาก็จะตามดูเราอยู่ว่า เราเป็นคนอย่างไร เป็นมิตรไหม เข้ากับคนอื่นได้หรือเปล่า เพราะถ้าเราได้ตำแหน่งขึ้นมา เราต้องทำงานกับเขาไง เพราะฉะนั้นเรื่องบุคลิกและนิสัยนี่เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากที่เขาต้องดู”

 

 

16.00

“She (Pia Wurtzbach, Miss Universe 2015) has opinions and points of view that make you think, oh my God, I’ve never thought of it that way before. What she said is really spot-on and very inspirational.”

ฟ้าใสเล่าว่า เปีย อลอนโซ วุลซ์บัค (Pia Alonzo Wurtzbach นางงามจักรวาล 2558) มีความเห็นและมุมมองน่าทึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า โอ เราไม่เคยมองมุมนี้มาก่อนเลย และสิ่งที่เธอพูดก็เป๊ะมาก และให้แรงบันดาลใจมาก

     Spot-on = เป๊ะ ตรงเผง แม่นยำ ใช่เลย

 

19.37

“It’s such a shame. It’s something that I feel we take for granted.”

โบเล่าว่าคนไทยมากมาย รวมถึงตัวเธอด้วย ยังรู้จักเมืองไทยน้อยไป ในขณะที่ชาวต่างชาติบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเที่ยวบ้านเราถึงที่ แต่เราเองยังไม่เคยไปในแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในประเทศเราเองด้วยซ้ำ น่าเสียดายที่เรามองข้ามของดีๆ ที่อยู่ใกล้ตัว

     It’s a shame = น่าเสียดาย

     Take for granted = คิดว่าเป็นของตายจนลืมให้ความสำคัญ

 

20.02

“Oh my gosh, I could go on forever.”

ฟ้าใสเล่าเรื่องเมืองไทยอย่างหลงใหล บอกว่าถ้ามีโอกาสอยากไปให้ทั่วทุกที่ เรื่องนี้เธออินมาก อย่าให้ได้เริ่มพูดเชียว เดี๋ยวจะยาว

     I could go on forever = ถ้าให้พูดจะพูดไม่หยุด หรือชื่นชมไม่หยุด เพราะชอบมาก หากชวนคุยเรื่องนี้ล่ะก็ จะคุยได้ทั้งวันทั้งคืน

 

20.16

“You look ready. You sound ready. I think you’ll do great. We’re rooting for you.”

โบบอกว่า เท่าที่ได้เจอตัวจริง และเท่าที่ได้ฟังทั้งหมด เธอมั่นใจว่าฟ้าใสพร้อม และจะทำหน้าที่ได้ดี เราทุกคนจะเป็นกำลังใจให้

     Root for (someone) = เชียร์ เข้าข้าง ถือหาง เอาใจช่วยใครสักคน

 

23.00

“My dad was like, I don’t wanna choose for you. How about you just cross out the majors you know you don’t wanna take…”

ฟ้าใสเล่าว่า ตอนตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเรียนเอกอะไรดี เธอปรึกษาคุณพ่อ พ่อบอกว่า พ่อไม่อยากเลือกให้หรอก แต่เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเลือกอะไร ลองตัดตัวเลือกที่รู้ว่าจะไม่เลือกแน่ๆ ออกไปก่อนสิ

 

27.51

“One of the things that I like is that my father let me choose for myself. ”

ฟ้าใสบอกว่า สิ่งหนึ่งที่เธอชอบมากคือ พ่อปล่อยให้เธอเลือกเอง เพื่อตัวของเธอเอง

 

29.29

“I don’t wanna be a financial burden on my parents.”

ฟ้าใสบอกว่า เธอไม่อยากเป็นภาระทางการเงินให้พ่อแม่ต้องส่งเสียแพงๆ ถ้าต้องไปเรียนไกลบ้าน

 

30.50

“I’m such a huge drama addict.”

ฟ้าใสเล่าว่าการพยายามเรียนให้ได้เกียรตินิยมสำหรับเธอนั้น ยากที่สุดคือการพยายามตัดใจไม่ดูละครและซีรีส์ เพราะเธอติดละครอย่างหนัก

     Drama ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงดราม่าแบบที่เราเสพๆ กันอยู่ทุกวันบนโซเชียลมีเดีย แต่หมายถึงละคร

 

33.53

“I used to schedule my classes around a soap opera. Shameful…”

โบเล่าว่า เธอก็ติดละครเหมือนกัน สมัยเรียนถึงกับต้องพยายามจัดตารางเรียนให้ไม่ชนกับเวลาละครออนแอร์

     Schedule (something) around (something) = พยายามจัดคิวให้ไม่ชนกับอะไรสักอย่าง

     Shameful = น่าอาย น่าอดสู น่าเสื่อมเสีย น่าขายหน้า รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

 

35.00

“All that hard work totally paid off. And both of my parents were there on my graduation day. I was like, thank you and sorry for the long wait.”

ฟ้าใสเล่าว่า ที่สุดแล้วก็เรียนจบ และพ่อแม่ของเธอก็มางานรับปริญญาของเธอทั้งคู่

     Pay off = ถ้าอะไรสักอย่าง pay off แปลว่าอะไรสักอย่างที่ว่านั่นเป็นความยากลำบากที่สุดท้ายก็ตอบแทนเป็นดอกผลสวยงาม คุ้มค่ากับที่อดทนทำมา เช่น การเรียนหนักอย่างบ้าคลั่ง paid off เพราะสุดท้ายก็จบด้วยเกียรตินิยม

     Sorry for the long wait = ขอโทษที่ต้องให้รอนาน (ในที่นี้คือ ขอโทษที่ใช้เวลาตั้งนานกว่าจะจบปริญญา)

 

 

37.25

“Canadians are known for that, for being super nice.”

โบบอกว่า ชาวแคนาดานั้นขึ้นชื่อนักเรื่องความสุภาพและใจดีอย่างยิ่ง

 

38.10

“Definitely Canadians are super nice. Thing that really makes you feel at home is that they’re very understanding. They don’t put pressure on you.”

ฟ้าใสยืนยันว่าชาวแคนาดานั้นน่ารักและใจดีจริง พวกเขาจะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน และไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกเพราะเขาจะพยายามเข้าอกเข้าใจเรา และไม่กดดันเรา (เช่น เมื่อเราพูดภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ ก็ไม่กลอกตาใส่ เป็นต้น)

 

41.18

“He was living on a budget.”

ฟ้าใสเล่าว่าพอรู้ข่าวว่าพ่อแม่จะบินมาเชียร์เธอประกวดมิสเอิร์ธที่ฟิลิปปินส์ก็ดีใจและซึ้งใจมาก เพราะรู้ว่าค่าใช้จ่ายหนักหนาแค่ไหน

     Living on a budget = ไม่มีเงินให้ใช้จ่ายได้อย่างสบายมือหรือสุรุ่ยสุร่ายตามใจ แต่ออกแนวว่าแต่ละเดือนต้องกันงบไว้เลยว่าใช้จ่ายอะไรได้เท่าไร

 

41.58

“They kept it quiet!”

ฟ้าใสเล่าว่า พ่อแม่เก็บความตั้งใจที่จะบินมาเชียร์ลูกสาวประกวดเป็นความลับ เพิ่งมายอมบอกไม่กี่วันมานี่เอง เนื่องจากต้องรู้แล้วว่าลูกจะพักอยู่แถวไหน (อนุมานได้ว่าเพราะจะได้จองโรงแรมใกล้ๆ อะไรแบบนั้น)

     Keep it quiet = เก็บงำเอาไว้ ไม่บอกออกมา

 

44.02

“No wonder red’s your favorite color because you look good in red!”

โบถามว่า ถ้าให้เลือก จะสวมชุดดำหรือชุดแดง ฟ้าใสตอบว่าแดง เพราะเป็นสีโปรด โบบอกว่าเพิ่งได้เห็นรูปฟ้าใสในชุดราตรีสีแดงบนอินเทอร์เน็ต มิน่าล่ะถึงชอบสีแดง เพราะเธอใส่สีแดงขึ้นมาก

     No wonder = ไม่แปลกใจเลยที่… ไม่สงสัยเลยว่าทำไม…

     Look good in (color) = ใส่ (สีอะไร) แล้วดูดี

 

44.42

“How is that my fault!?”

โบโพล่งออกมาด้วยความหงุดหงิดแทนว่า “แล้วมันเป็นความผิดของฉันตรงไหนยะ!” หลังจากฟ้าใสเล่าว่า ห้องอพาร์ตเมนต์ airbnb ที่เธอเคยไปอยู่ เขียนไว้ในโฆษณาว่า ‘รวมค่าน้ำค่าไฟ’ แต่พอไปถึง อีเจ้าของห้องบอก อ้อ ที่จริงจะเขียนว่า ‘ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ’ ต่างหาก แล้วก็ชาร์จไปแล้วจ้า ดีที่ทาง airbnb ชดใช้ (compensate) ให้ทั้งหมด ฟ้าใสจึงประทับใจในบริการของ airbnb เป็นพิเศษด้วยประการฉะนี้

 

47:13

“Are you really seriously thinking about dating me as a potential marriage partner?”

 

47:55

“Is there something you don’t like about me? Tell me honestly what you think about me and how this date is going.”

 

 

49:12

“If we were to build a family together, where is it that we’re gonna live? What is your dream house like?”

     โบถามฟ้าใสว่า

     “You’re on a first date with someone. They promise to answer the next 3 questions you ask completely honestly, leaving out no details. What questions do you ask?”

     “คุณไปออกเดตกับคนคนหนึ่ง เขาบอกว่าจะตอบ 3 คำถามของคุณด้วยความสัตย์จริงอย่างละเอียด คุณจะถามอะไรบ้าง”

     ฟ้าใสเลือกจะถามว่า

     หนึ่ง ในวันนี้ คุณมองเห็นความสัมพันธ์ของคุณกับฉันไปถึงขั้นแต่งงานไหม

     สอง มีอะไรเกี่ยวกับฉันที่คุณไม่ชอบบ้าง คุณคิดอย่างไรกับฉัน และคุณคิดว่าเดตครั้งนี้กำลังไปได้สวยหรือเปล่า

     สาม ถ้าเราจะสร้างครอบครัวร่วมกัน เราจะไปอยู่กันที่ไหน บ้านในฝันของคุณหน้าตาเป็นอย่างไร

 

50.05

“We wish you the best of luck and we know you’re gonna rock that stage. No matter what happens you will do great and you’re gonna make us proud.”

โบอวยพรส่งท้ายไปว่า ขอให้โชคดี พวกเราทุกคนมั่นใจว่าฟ้าใสจะเฉิดฉายบนเวทีมิสเอิร์ธ และน้องจะทำให้เราทุกคนภูมิใจแน่นอน

     Rock (something) = do something in an awesome way ประมาณว่า เอาให้สุด เอาให้ปัง ใส่ไม่ต้องยั้ง

 

50.19

“I’ll do my best to make you all proud.”

ฟ้าใสสัญญาว่า จะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้พวกเราภูมิใจในตัวเธอ

 

 


 

Credits

The Host สาวิตรี สุทธิชานนท์

The Guest ปวีณสุดา ดรูอิน

 

Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข

Episode Producers ภูมิชาย บุญสินสุข

อธิษฐาน กาญจนพงศ์

ปวริศา ตั้งตุลานนท์

Episode Editor ภูมิชาย บุญสินสุข

Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์​ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director กริณ ลีราภิรมย์

Graphic Designer เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล

Photograph นวลตา วงศ์เจริญ

Music Westonemusic.com

FYI
  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising