แกร็บ เปิดตัว ‘PayLater by Grab (ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง)’ ในประเทศไทย รุกตลาดด้วยบริการจ่ายบิลเดือนถัดไปสำหรับทุกบริการบนแกร็บ ครอบคลุมทั้งบริการการเดินทาง บริการสั่งอาหาร ซื้อสินค้า และจัดส่งพัสดุ
วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ความนิยมในการซื้อสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาบริการด้านการเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘แกร็บ ไฟแนนเชียล’ เล็งขยายสินเชื่อไปยังกลุ่มร้านอาหารระดับกลาง พร้อมเปิดตัวสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในครึ่งปีหลัง
- ธุรกิจเดลิเวอรีของ Grab ทำ ’กำไร’ แล้ว หลังหั่นโปรโมชัน และโฟกัสไปที่ Loyal Customer ที่มีการใช้จ่ายที่สูงกว่า
- หมดยุคเผาเงิน! Grab หวังไปถึงจุดคุ้มทุนช่วงครึ่งหลังของปี 2024 แม้รายได้จะเริ่มโตชะลอจากช่วงโควิดที่ผ่านมา
จากรายงาน e-Conomy SEA 2022 ระบุว่า ปัจจุบันบริการชำระเงินออนไลน์ (Digital Payment) ในประเทศไทยในปี 2022 มีมูลค่าราว 1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตขึ้น 12% ในปี 2025 โดยหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือบริการใช้ก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now, Pay Later) ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคให้สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ แกร็บ ประเทศไทย ได้เปิดตัวบริการด้านการชำระเงินออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2020 เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้จ่ายและรับชำระเงินบนแพลตฟอร์มของแกร็บได้อย่างไร้รอยต่อ โดยปัจจุบันเกือบ 2 ใน 3 ของผู้ใช้บริการแกร็บเลือกใช้วิธีการจ่ายเงินแบบไม่ใช้เงินสด (Cashless Payment) ไม่ว่าจะจ่ายผ่าน GrabPay Wallet หรือผ่านบัตรเดบิต-เครดิต
“เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้บริการ เราจึงได้เปิดตัว ‘PayLater by Grab (ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง)’ โดยเริ่มจากการนำเสนอบริการแบบรวมยอดจ่ายทีเดียวในเดือนถัดไป (Post-Paid) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้บริการใช้บริการต่างๆ บนแอปพลิเคชันแกร็บ และชำระเงินเป็นยอดเดียวได้ในแต่ละเดือน” วรฉัตรกล่าว
