×

จะเป็นลม! นักลงทุนฝั่งชอร์ตเจ็บหนัก หลังตลาดหุ้นทั่วโลกดีดขึ้นในปี 2023 ทำสูญเงินกว่า 81,000 ล้านดอลลาร์

30.01.2023
  • LOADING...

การฟื้นตัวของตลาดหุ้นในปี 2023 นับเป็นข่าวร้ายสำหรับกลุ่มนักลงทุนผู้ขายชอร์ต หลังจากที่เคยทำกำไรอย่างถล่มทลายในปี 2022 ซึ่งตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงแรง 

 

ดัชนีของ Goldman Sachs ที่ติดตามหุ้นที่ถูกชอร์ตมากที่สุด 50 หุ้น ในดัชนี Russell 3000 พบว่าหุ้นเหล่านี้ปรับตัวขึ้นมา 15% นับจากเริ่มปีนี้จนถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 6%

 

Ihor Dusaniwsky กรรมการผู้จัดการฝ่ายการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของ S3 Partners กล่าวว่า ผู้ขายชอร์ตที่ขาดทุนอย่างหนักกำลังลดสถานะลงอย่างมาก หลังจากเผชิญกับผลขาดทุนรวมกันถึง 81,000 ล้านดอลลาร์ นับจากช่วงต้นปีจนถึงวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่สะสมผลกำไรมากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปี 2022

 

นอกจากนี้บรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า การฟื้นตัวของตลาดอาจได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกบางประการ เช่น สัญญาณที่บ่งบอกว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเย็นลงได้กระตุ้นการเดิมพันในหมู่นักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเปลี่ยนจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันทีในช่วงครึ่งหลังของปี เหตุการณ์นี้ช่วยให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน และเป็นแนวโน้มบังคับให้ผู้ขายชอร์ตปิดสถานะเพื่อลดการขาดทุน

 

ทั้งนี้ นักลงทุนจะได้รับสัญญาณต่อไปจากการประชุมของ Fed ในวันพุธ (1 กุมภาพันธ์) โดย Fed คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวจากปีที่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า การปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เก็งกำไรในเวลานานอาจทำให้สภาวะทางการเงินผ่อนคลายลงอีกครั้ง และทำให้ Fed ต้องกลับมาต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งบางคนเชื่อว่าการฟื้นตัวนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ราคากำลังจะร่วงแต่มันกลับพุ่งขึ้นแทน หรือที่เรียกว่า Short Squeeze มีความเป็นไปได้ที่ Fed จะแข็งกร้าวต่อนโยบายการเงินมากกว่าที่นักลงทุนคาดไว้

 

เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถฟื้นตัวได้แม้ต้องเผชิญต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า GDP ของสหรัฐฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 2.9% จากปีก่อน ในไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา แม้จะชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ หนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และการกลับมาเปิดประเทศของจีน 

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่วมหนักจากปีที่แล้วกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในปีนี้ แม้ตลาดจะฟื้นตัวในระดับหนึ่งแล้ว แต่ดัชนี Nasdaq ยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับการประเมินมูลค่าในช่วงที่มีการระบาดของโควิด โดยมี P/E ประมาณ 22 เท่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E ประมาณ 37 เท่า ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 

 

Sameer Bhasin ประธานของ Value Point Capital ระบุว่า การฟื้นตัวของหุ้นเหล่านี้มาจากการย่อตัวที่รุนแรงและกินเวลานาน แต่ยังมีทางออกจากกำไรในอนาคต ด้วยอัตราคิดลดที่ลดลงอย่างมาก รายได้เหล่านั้นจึงมีมูลค่ามากขึ้น

 

ถึงกระนั้น นักลงทุนรายอื่นยังคงไม่เชื่อในมุมมองของ Goldilocks ที่เคยกล่าวว่า Fed สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และกดเบรกด้วยนโยบายที่รัดกุมโดยไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับตลาดมากขึ้น

 

Jason Brady ซีอีโอของ Thornburg Investment Management เผยว่า แผลเป็นที่เกิดจากเงินเฟ้อมีความสำคัญเกินกว่าที่ Fed จะรู้สึกสบายใจเมื่อลดอัตราดอกเบี้ย 

 

เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed เคยกล่าวว่า Fed ต้องการหลีกเลี่ยงการทำผิดซ้ำจากปี 1970 เมื่อผู้กำหนดนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัว และเติบโตไม่สม่ำเสมอเป็นเวลานาน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising