วันนี้ (11 พฤษภาคม) สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 4 พร้อมด้วย ผุสดี วงศ์กำแหง ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตราชเทวี หมายเลข 6 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดถนนโยธิน เขตราชเทวี
สุชัชวีร์กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายเขตของพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ส่วนนี้จะลงไปบัญชาการด้วยตัวเอง ตรงไหนที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากต้องแก้ไขตั้งแต่ต้นทาง แต่อันดับแรกต้องเข้าใจว่ากรุงเทพฯ เป็นเหมือนปั๊มน้ำ มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ต้องสูบดันน้ำให้สูงขึ้นเพื่อให้ไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยา สิ่งที่ต้องปรับคือ ทำให้ปั๊มทำงานได้ทันทีเมื่อฝนตก ปั๊มดีเซลต้องเปลี่ยนเป็นปั๊มไฟฟ้า ทำเป็นระบบอัตโนมัติสอดประสานพร้อมกับประตูระบายน้ำ
ส่วนตัวไม่คิดว่าแก้มลิง หรือ Water Bank ที่มีอยู่จะเพียงพอต่อการระบายน้ำ ถ้าการทำแบบเดิม คิดแบบเก่า แก้ได้จริง กรุงเทพฯ คงหมดปัญหา และถ้าปั๊มยังทำงานไม่สอดประสานกัน ต้องรอระบบที่คนไปไขกุญแจ ก็จะไม่ทันการณ์ ปัจจุบันไม่มีเมืองไหนที่ใช้ระบบนี้แล้ว ทุกอย่างต้องทำระบบวิศวกรรมใหม่
สุชัชวีร์กล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายของตนมีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบ 3 ระยะ คือ สั้น กลาง และยาว ระยะสั้นต้องแก้ไขเรื่องปั๊มน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีปัญหา เช่น พื้นที่จตุจักรและดินแดง ฯลฯ ปั๊มต้องแก้เป็นอัตโนมัติ ฝนตกลงมาก็จะต้องใช้งานได้เลย ระยะต่อมาคือ ปรับพื้นที่ เพราะน้ำไม่มีทางไป เช่น จตุจักร สุขุมวิท และรามคำแหง ฯลฯ ที่เมื่อระดับน้ำทะเลเพิ่ม น้ำก็จะขังเป็นแอ่งกระทะ ฝนตกหนักน้ำก็จะระบายไม่ทัน ต้องแก้ไขด้วยเอาน้ำมารอไว้ใต้ดิน เรียกว่าแก้มลิงใต้ดิน เหมือนบ่อพักน้ำขนาดใหญ่ ตอนนี้มีเอกชนทำแล้ว
และสำหรับระยะยาวสิ่งที่ต้องแก้ไขคือ เรื่องของน้ำทะเลหนุนที่เจ้าพระยา แม้ว่าปัญหานี้ต้องใช้เวลา 10 ปีในการแก้ปัญหา แต่ถ้าไม่เริ่มวันนี้ อีก 10 ปีก็จะสายเกินไป ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต้องรับปัญหานี้แทน รับน้ำท่วมแทนกรุงเทพฯ
ส่วนเรื่องน้ำประปา จากการลงพื้นที่ยังพบว่า ในกรุงเทพฯ บางเขตยังมีน้ำประปาให้บริการไม่ทั่วถึง เช่น เขตหนองจอก ต้องรีบแก้ไขด่วน และไม่ใช่แค่น้ำบริโภคตามบ้านเรือน แต่บนทางเท้าก็จะต้องมีน้ำประปาอำนวยความสะดวก พ่อค้าแม่ค้าต้องมีน้ำสะอาด รู้สึกเสียดายที่ผ่านมากรุงเทพฯ มีแต่น้ำฝนรอระบาย ไม่มีน้ำประปาที่ดี
ส่วนเรื่องปัญหาขยะ สุชัชวีร์ระบุว่า จำเป็นต้องคิดตั้งแต่เรื่องการจัดเก็บขยะว่าพอเพียงหรือไม่ รถขยะต้องมีขนาดเล็กลง เพื่อให้เข้าไปตามชุมชนเล็กๆ ได้ ไม่ใช่ว่าใช้รถขนาดใหญ่อย่างเดียว เพราะจะกีดขวางการจราจรและไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ปีกย่อยได้ และเปลี่ยนถังขยะใหม่ให้สามารถหมุนเวียนได้เสมอ ไม่ให้มีขยะกองอยู่ที่พื้น
สุดท้ายนี้สุชัชวีร์กล่าวว่า จากที่ได้เดินตามตลาดต้องยอมรับว่า พ่อค้าแม่ค้าน่าเห็นใจมาก เพราะเศรษฐกิจไม่ดีและยังมีข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ในการค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าเป็นหนึ่งในห่วงโซ่ด้านสังคมและเศรษฐกิจ ถ้าขายผักได้ คนที่ปลูกผักได้เงินเหมือนกัน ถ้าพ่อค้าแม่ค้าลำบาก คนก็จะลำบากตามต่อกัน สุดท้ายก็จะมาลำบากที่ผู้บริโภคที่จะต้องรับภาระ ตนเองจะหาแนวทางแก้ไขเรื่องนี้ให้ครอบคลุม
