ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ร้านอาหารสุขภาพยังมีไม่ถึง 4 แบรนด์ แต่ปี 2567 มีผู้เล่นหน้าใหม่กระโดดเข้ามากว่า 20 แบรนด์ แข่งขันกันอย่างดุเดือด สลัดแฟคทอรี่เปิดเกมรุกจับมือเอสเพียว เปิดตัว 5 เมนูจากอกไก่ หวังดึง Gen Z ที่มีกำลังซื้อสูง
“ถึงวันนี้การแข่งขันจะเพิ่มขึ้น แต่ตลาดร้านอาหารสุขภาพนั้นยังมีช่องว่างและมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก สะท้อนจากตัวเลขในปี 2566 มูลค่าตลาดสูงถึง 4.5 พันล้านบาท และคาดว่าปี 2567 จะเติบโตขึ้น 30% ต่อปี เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้มากขึ้น จนทำให้เทรนด์สุขภาพมาแรงมาก โดยเฉพาะการให้ความสนใจกับอาหารที่มีน้ำตาลและโซเดียมน้อย ที่สำคัญแพ็กเกจจิ้งก็ต้องดีต่อโลกด้วย” ปิยะ ดั่นคุ้ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีน ฟู้ด แฟคทอรี่ จำกัด กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘Salad Factory’ ติด Top 3 ร้านสลัดที่คนไทยรู้จัก CRG ไม่รอช้าทุ่ม 137 ล้าน ถือหุ้น 51%
- ‘ขอเพียงสัปดาห์ละ 1 มื้อ’ เจาะกลยุทธ์ ‘สลัดแฟคทอรี่’ หลัง CRG ดึงร่วมพอร์ต หวังเจาะตลาดอาหารสุขภาพ 8 หมื่นล้านบาท
- ชิมลางตลาดปิ้งย่างไปแล้ว CRG แย้มยังขาดร้านชาบู-สุกี้ ปีนี้จ่อเปิด 2 แบรนด์ใหม่เป็น JV เลือกจากแบรนด์ที่มียอดขาย 500 ล้านขึ้น!
เมื่อตลาดอาหารสุขภาพสดใส สิ่งที่ตามมาคือการแข่งขัน ส่วนใหญ่เชนร้านอาหารจะเน้นแข่งขันเรื่องวัตถุดิบและรสชาติเป็นหลัก เช่นเดียวกับสลัดแฟคทอรี่ ที่ผ่านมาไม่เคยหยุดพัฒนาเมนูและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค จนปัจจุบันฐานลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มครอบครัว ซึ่งมียอดใช้จ่ายต่อบิลประมาณ 500 บาท
แต่จากนี้สลัดแฟคทอรี่ต้องการเพิ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือ Gen Z เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและพร้อมจ่ายเพื่อได้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย โดยปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้มียอดใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่ประมาณ 250-300 บาท แม้จะน้อยแต่ส่วนใหญ่มักมากินกันเป็นกลุ่มใหญ่
ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้เราดึงคนรุ่นใหม่ได้ต้องสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ออกมาส่งเสริมการขาย ล่าสุดสลัดแฟคทอรี่จับมือเอสเพียว จัดแคมเปญ ‘สุข ฉ่ำ เต็มอก’ เปิดตัว 5 เมนูใหม่จากอกไก่ และนำความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 แบรนด์มาต่อยอดพัฒนาสร้างความแตกต่างด้วยรสชาติที่ไม่จำเจ
และยังสามารถรองรับกระแสของผู้คนที่บริโภคผลิตภัณฑ์อกไก่เพื่อรับโปรตีนให้ร่างกายเพิ่มขึ้นอีกด้วย เราเชื่อว่าแคมเปญดังกล่าวจะช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีความสนใจในอาหารสุขภาพได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 5 แห่ง โดยจะเน้นเปิดในโรงพยาบาล เริ่มตั้งแต่โรงพยาบาลพระรามเก้าและโรงพยาบาลวิภาวดี เราเชื่อว่าการเปิดในโรงพยาบาลจะได้รับกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยและผู้มาเยี่ยมที่มีความต้องการอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูง
ส่วนต้นปี 2568 วางแผนขยายไปในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยในแต่ละพื้นที่ รูปแบบร้านจะแตกต่างกัน ทั้งร้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งกิน 60 ที่นั่ง ตามด้วย Compact มีพื้นที่ 100-120 ตารางเมตร มีเมนูอาหารน้อยกว่าร้านขนาดใหญ่ประมาณ 70-80% ซึ่งโมเดลนี้จะเน้นเปิดในโรงพยาบาล แต่ก็ต้องยอมรับว่าตลาดต่างจังหวัดมีความท้าทายเรื่องกำลังซื้อและการควบคุมมาตรฐานการให้บริการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ปิยะกล่าวปิดท้ายว่า กลยุทธ์ทั้งหมดจะช่วยผลักดันรายได้ในปี 2567 โตต่อเนื่อง หรือทำรายได้กว่า 750 ล้านบาท จากปี 2566 มีรายได้อยู่ที่ 593 ล้านบาท และยังมองไกลไปถึง 3 ปีข้างหน้า การทำรายได้ 1 พันล้านบาทก็ไม่ไกลเกินเอื้อม