บรันช์ก็แล้ว ดินเนอร์ก็แล้ว แต่พอรู้ว่า OCKEN ร้านอาหารสไตล์ Fine-Casual Dining อันเลื่องชื่อในย่านสาทร ออกเมนูดินเนอร์ใหม่ก็คงพลาดไม่ได้ที่จะกลับไปลองอีกครั้ง
หนีชั่วโมงรถติดหลังเลิกงาน (เท่าที่ได้) พุ่งตัวถึงร้านก็ไม่รอช้า ประเดิมจาน Starter กันด้วย Yellow Tail (720 บาท) ปลาฮามาจิสดหวานที่เชฟนำไปเคียวร์กับ Bonito Kombu ปลาโอแห้งและสาหร่ายคอมบุถึง 2 ชั่วโมง ทำให้ได้รสชาติของทะเล และมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มแน่นขึ้น
เพียงคำแรกก็เหมือนได้กดปุ่มรีเฟรชร่างกาย ด้วยความเปรี้ยวสดชื่นติดขมนิดๆ ของ Grapefruit Ponzu เพิ่มความครีมมี่เบาๆ กับ Avocado Mousse ด้านบน
ตอนเห็นเมนูนี้ไม่รีรอที่จะจิ้มเลือกด้วยความไวแสง KFN (280 บาท / 4 ชิ้น) เห็นชื่อครั้งแรกก็อดที่จะนึกถึงไก่ทอดผู้พันไม่ได้ ซึ่งเวอร์ชันนี้คือ Korean Fried Nuggets นักเก็ตสไตล์เกาหลีที่เชฟนึกสนุกอยากให้เป็นจานสแน็กแชร์กันกรุบกริบ
ส่วนที่ใช้เป็นสะโพกไก่ที่นำมาแช่ในน้ำเกลือ แล้วหมักกับส่วนผสมลับรวมกันกว่า 3 วัน แล้วจึงนำมาชุบแป้งสไตล์เกาหลี ลองจิ้มกับซอส Peanut Butter กัดคำแรกก็มีความเซอร์ไพรส์กับเท็กซ์เจอร์ที่ทั้งกรอบ ฟู และเบา ในขณะที่เนื้อไก่มีความนุ่มฉ่ำ ตามมาด้วยรสเผ็ดปลายของตัวซอสซึ่งอร่อยมาก ส่วนซอสโคชูจังจะมีความไลต์ลงมาหน่อย อร่อยไปอีกแบบ
มาถึงหมวดเส้นกันบ้าง สายเนื้อและชีสต้องไม่พลาดกับ Paccheri (980 บาท) พาสต้า Hand-Rolled สดแบบหลอด และซี่โครงเนื้อตุ๋นแบบ Slow-Cooked ในน้ำสต็อกเนื้อที่ผสมด้วย Port Wine และ Red Wine Sauce ที่เด็ดเลยคือมีการบีบ Smoked Cheese ให้ตอนเสิร์ฟอย่างฉ่ำ
เนื้อตุ๋นมาได้อย่างนุ่ม หมักในซอสรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมเข้ากันได้ดีกับเส้นและความครีมมี่ของชีส
มาถึง Main ที่เราเลือกเป็น Salmon Kimchi Broth (560 บาท) จานที่มัดรวมรสชาติของญี่ปุ่นและเกาหลีเข้าไว้อย่างลงตัว แซลมอนถูกนำไปเซียร์แล้วหมักกับมิโซะขาว เสิร์ฟพร้อมกิมจิที่ร้านหมักเอง เท็กซ์เจอร์ที่นุ่มและความแฟตตี้ของแซลมอนเข้ากันกับน้ำซุปรสจัดจ้าน พอกินกับสาหร่ายวากาเมะและแตงกวาด้านบนแล้วให้ความสดชื่นดี เหมาะกับใครที่มองหาจาน Main แบบเบาสบายท้อง
มาถึง OCKEN จะไม่มี Piri Piri Chicken (1,250 บาท) บนโต๊ะก็รู้สึกเหมือนมาไม่ถึง ไก่ย่างมาได้ฉ่ำกรอบนอกนุ่มในสมเกียรติการอบด้วยเตา Rotisserie กินกับเครื่องเคียงอย่าง Broccolini (180 บาท) และ Potato & Parsnip Purée (280 บาท) แล้วคือคะแนนเต็มสิบ
Broccolini หรือผักที่เป็นลูกผสมของบรอกโคลีและไกลัน มีความกรอบสด หอมสโมกและซอสที่มีความเผ็ดทิ้งท้ายเล็กๆ ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี ในขณะที่มันฝรั่งและหัวผักกาดนั้นบดละเอียดเนียนนุ่มจนดิปเป็นซอสได้ตามภาพ
หนังท้องเต่งแทบปริ แต่เราก็จะมุ่งมั่นที่จะลิ้มรสจานหวานต่อไปกับ Muscovado Peanut Ice Cream Bar (260 บาท) ไอศกรีมรส Roasted Banana เสิร์ฟมากับ Peanut Nougatine ที่เชฟเลือกใช้เป็น Muscovado Sugar ซึ่งให้ความหอมกว่าน้ำตาลทรายธรรมดาแต่ไม่หวานเท่า ลองกินกับเบคอนก็ได้มิติรสชาติที่แปลกไปอีกแบบ
ส่วนใครเป็นชาว Rum Raisin Lovers ต้องลอง Tropical Globe (280 บาท) เสิร์ฟมาในลูกกลมขาวหน้าตาเหมือนก้อนหิมะ แต่พอผ่าด้านในก็จะเจอกับความจากเนื้อมะพร้าว และความครันชี่ของถั่วให้เคี้ยวเพลินๆ ปิดท้ายมื้อค่ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
OCKEN’S Dinner เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00-00.00 น. แนะนำให้ชวนเพื่อนมาแชร์ส่วนแบ่งในกระเพาะด้วย เพราะเชื่อเถอะว่าเห็นจานไหนในเมนูก็อยากลองไปหมด
