ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จากร้านรถเข็นริมทาง วาดฝันอยากจะขึ้นเป็นเจ้าแห่งสตรีทฟู้ดที่มียอดขาย 1 หมื่นล้านบาท หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ยังไม่ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในปีนี้ กำลังเร่งปรับโครงสร้างธุรกิจแฟรนไชส์-เติมแบรนด์ใหม่เสริมพอร์ตโฟลิโอ
จากจุดเริ่มต้นของร้านรถเข็นริมทางเล็กๆ ถึงวันนี้ ‘ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว’ ดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปีแล้ว และค่อยๆ ไต่ระดับเติบโตขึ้นจนมีสาขา 4,000 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยในปี 2565 มียอดขายเติบโตสูงสุดอยู่ที่ 1,085 ล้านบาท กำไรโตกระฉูด 121%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว’ ร้านรถเข็นขายบะหมี่เกี๊ยวริมทางอายุ 30 ปี ที่ก่อตั้งโดยชายผู้จบ ป.4
- ฟ้าหลังฝน! ธุรกิจการบินคึกคัก ‘บางกอกแอร์เวย์ส’ ตั้งเป้ารายได้แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท
- ลูกค้าบัตรเครดิตกรุงศรีรูดใช้จ่ายในญี่ปุ่นเพิ่ม 250% ในปี 2023
“ต้องยอมรับว่าวันนี้ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างมาก ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงต้องปรับตัวรอบด้าน เริ่มตั้งแต่ทรานส์ฟอร์มธุรกิจภายใต้ชื่อ ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เพื่อเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่อาจยังไม่ใช่ในปีนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี หากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อยแล้ว เงินจากการระดมทุนหลักๆ จะเอาใช้ขยายธุรกิจ สร้างโรงงานใหม่ เพื่อสร้างโอกาสเติบโตทั้งในไทยและต่างประเทศ” พันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าว
พร้อมยังย้ำอีกว่า อีกหนึ่งสาเหตุของการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการป้องกันปัญหาลูกๆ ทะเลาะกันด้วย และที่สำคัญจะสร้างความยั่งยืนและความก้าวหน้าให้กับบริษัทด้วยเช่นกัน
หากย้อนไปในปี 2562 ที่พันธ์รบเคยกล่าวเอาไว้ว่า หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วจะมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่ง ณ วันนี้ พันธ์รบยังตั้งเป้าตามเดิม แม้รายได้ที่แสดงอยู่ตอนนี้ยังห่างไกลกันอยู่มาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชายสี่บะหมี่เกี๊ยวถึงต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่นและขยายการเติบโตให้กับแบรนด์อย่างหนัก
พันธ์รบกล่าวต่อไปว่า จริงๆ แล้วในปี 2565-2566 บริษัทได้เริ่มทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงบริหารต้นทุน พร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมเปลี่ยนแปลงองค์กร จนสามารถสร้างการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้และกำไร ซึ่งเรียกได้ว่าบริษัทเริ่มมาถูกทาง
จนกระทั่งปัจจุบัน ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มีแบรนด์สตรีทฟู้ดในเครือรวม 7 แบรนด์ ได้แก่ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว, ชายสี่พลัส, ชายใหญ่ข้าวมันไก่, พันปีบะหมี่เป็ดย่าง, อาลี หมี่ฮาลาล, ไก่หมุนคุณพัน และลูกชิ้นทอดโอ้มายก๊อด รวมทุกแบรนด์กว่า 4,500 สาขา และยังมีอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ชายสี่โกลด์ พร้อมด้วยเครื่องปรุงเพื่อจำหน่ายอีกกว่า 200 รายการ
สำหรับกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้คือเตรียมพัฒนามาตรฐานแฟรนไชส์ เนื่องจากที่ผ่านมาอุปสรรคของแฟรนไชส์คือในหลายๆ สาขาอาจจะมีรสชาติไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องปรับปรุงระบบการบริหารแฟรนไชส์และควบคุมการบริการทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
พร้อมพิจารณาแฟรนไชส์จากความสนใจในการลงทุนเปิดร้านมากขึ้น โดยปัจจุบันแฟรนไชส์ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวมีสาขาทั่วประเทศ ราคาเริ่มต้น 100,000 บาท คืนทุนภายใน 1 ปี ทำเลที่ขายดีหลักๆ คือพื้นที่หน้าร้านสะดวกซื้อ
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตสินค้า 7 แห่ง และในปีนี้ได้ลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้า 3 แห่งในจังหวัดสงขลา นครราชสีมา และยโสธร เพื่อเป็นฮับกระจายสินค้าและวัตถุดิบไปยังสาขาแฟรนไชส์ทั่วประเทศให้รวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอาหารมากขึ้น
พร้อมยังเตรียมนำชายสี่บะหมี่เกี๊ยวไปทดลองตลาดเปิดสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Cabalen Group กลุ่มธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ของประเทศฟิลิปปินส์ สร้างโรงงานผลิตเส้นส่งให้กับร้านแฟรนไชส์
และยังเล็งพัฒนาเมนูชายสี่หมี่บะหมี่เกี๊ยวในรูปแบบถ้วยหรือรูปแบบแช่แข็งวางขายในร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกมาก ส่วนตลาดในประเทศให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
นอกจากนี้ ยังได้จับมือพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจร่วมกัน โดยในปีนี้ได้เข้าซื้อกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ เสือร้องไห้ และแบรนด์เบเกอรี่ บริกซ์ เพื่อขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยในการเข้าซื้อกิจการได้ใช้รูปแบบที่จะยังคงสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อให้เจ้าของแบรนด์ยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารและพัฒนาแบรนด์ต่อได้ และแน่นอนว่าทั้งสองแบรนด์จะช่วยสร้างรายได้ให้บริษัทเติบโตด้วยเช่นกัน
จากนี้ก็เตรียมหาแบรนด์สตรีทฟู้ดใหม่ๆ เข้ามาเติมช่วยเติมพอร์ตโฟลิโออีกประมาณ 5-10 แบรนด์ เน้นแบรนด์ยอดฮิตที่คนสนใจ เพื่อรองรับตลาดสตรีทฟู้ดในไทยที่ยังพอมีช่องว่างและกำลังเติบโตต่อเนื่อง จากมูลค่าตลาดที่มีประมาณการว่าเติบโตโดยเฉลี่ย 5-10% ต่อปี
จากโอกาสดังกล่าวกลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายใหญ่ของชายสี่บะหมี่เกี๊ยวที่ต้องการขึ้นเป็นเจ้าแห่งสตรีทฟู้ดที่มียอดขาย 1 หมื่นล้านบาท หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ