อังกฤษเตรียมลดระดับมาตรการรับมือโควิด ข้อบังคับเรื่องกักตัวอาจถูกยกเลิกภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

วานนี้ (9 กุมภาพันธ์) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เผยว่ามาตรการรับมือโควิดทั้งหมดที่ยังคงประกาศใช้อยู่ โดยเฉพาะกฎข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องการกักตัว อาจถูกยกเลิกเร็วขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ที่มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะต้องเข้าสู่การกักตัวด้วยตนเองเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 วันเต็ม ซึ่งเดิมกฎระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 24 มีนาคมนี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกมาตรการรับมือนี้เร็วขึ้นราว 1 เดือน หลังจากที่รัฐสภากลับมาประชุมหารือกันได้ และคาดว่าจะมีแนวทางการปฏิบัติตัวแนวทางใหม่ประกาศใช้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

ผู้นำสหราชอาณาจักรระบุว่า “ผมมีความตั้งใจที่อยากจะให้การกลับมาประชุมหารือกันอีกครั้งเป็นโอกาสในการนำเสนอแนวทางปฏิบัติใหม่ที่เราสามารถใช้ชีวิตอยู่กับโควิดได้ จากเทรนด์และข้อมูลที่เรามี ผมคาดหวังว่าเราจะสามารถลดหรือยกเลิกมาตรการรับมือโควิดที่ประกาศใช้ล่าสุดก่อนหน้านี้ รวมถึงข้อบังคับเรื่องกักตัวหากมีผลการหาเชื้อเป็นบวก ก่อนถึงกำหนดเดิมราว 1 เดือน ในวันที่ 24 มีนาคม”

หากมีการติดเชื้อ คุณก็ยังคงถูกคาดหวังว่าจะยังต้องกักตัว มากกว่าที่จะลุกขึ้นไปทำงานหรือแพร่กระจายเชื้อให้กับเพื่อนร่วมงาน โดยข้อบังคับที่ใช้อยู่ หากมีการทำผิดกฎ อาจต้องโทษปรับสูงสุด 1 หมื่นปอนด์ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนแนวทาง ก่อนเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกกฎข้อบังคับเดิม ซึ่งในช่วงเวลานี้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในระหว่างการกักตัว มีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐราว 500 ปอนด์ โดยสหภาพการค้าของอังกฤษเตือนว่า ประชาชนต้องได้รับค่าแรงชดเชยที่เหมาะสมและไม่ถูกบังคับให้เข้าทำงานขณะป่วย ส่วนระบบการตรวจหาเชื้อในขณะนี้ส่วนใหญ่ยังคงไม่มีค่าใช้จ่าย แต่อาจลดสเกลลงในแผนระยะยาว เนื่องจากต้นทุนที่ค่อนข้างสูง

ในขณะที่มาตรการในการเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรก็เริ่มผ่อนปรนมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป โดยผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องตรวจหาการติดเชื้ออีก ในขณะที่ผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนไม่จำเป็นต้องกักตัวเอง แต่ยังจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึง โดยทุกคนยังจำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มเข้าประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตาม อีกทั้งยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของประเทศจุดหมายปลายทางนั้นๆ เช่นเดิม

โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นในอังกฤษเป็นพื้นที่แรกในสหราชอาณาจักร ในขณะที่มีแนวทางการรับมือโควิดสวนทางกับสกอตแลนด์อย่างสิ้นเชิงที่ได้ขยายการประกาศใช้มาตรการรับมือโควิดออกไปจนถึงอย่างน้อย 24 กันยายนปีนี้ ส่วนข้อบังคับที่เกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยและการใช้วัคซีนพาสปอร์ตจะหมดอายุในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีแนวโน้มที่ทางการสกอตแลนด์อาจจะขยายการบังคับใช้ออกไปอีกสักระยะ

บทความที่เกี่ยวข้อง: