×

เทียบประสิทธิภาพยาเม็ดรักษาโควิดของ Merck vs. Pfizer

07.11.2021
  • LOADING...

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 บริษัท Pfizer เผยแพร่ผลการศึกษาเบื้องต้นของยารักษาโควิดชนิดเม็ดชื่อ ‘แพ็กซ์โลวิด’ (Paxlovid) ว่าสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้มากถึง 89% นับเป็นข่าวดีต่อจากยา ‘โมลนูพิราเวียร์’ (Molnupiravir) ของบริษัท Merck ที่เผยแพร่ผลการศึกษาเบื้องต้นออกมาก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยาทั้ง 2 ชนิดนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

 

ความแตกต่างกันที่ชัดเจนคือประสิทธิภาพในการลดการนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต 

  • ยาโมลนูพิราเวียร์ 50% โดยในการทดลองกลุ่มที่ได้รับยาจริงมีอาการรุนแรง 28 รายจาก 385 คน (7.3%) ส่วนกลุ่มควบคุมมีอาการรุนแรง 53 รายจาก 377 คน (14.1%)
  • ยาแพ็กซ์โลวิด 89% โดยในการทดลองกลุ่มที่ได้รับยาจริงมีอาการรุนแรง 6 รายจาก 607 คน (1.0% และไม่มีผู้เสียชีวิต) ส่วนกลุ่มควบคุมมีอาการรุนแรง 41 รายจาก 612 คน (6.7% และ 10 รายเสียชีวิต)

 

ถึงแม้ว่าจะเป็นยารักษาโควิดเหมือนกัน แต่ยาของบริษัท Merck เป็นยาเดี่ยวที่มีคุณสมบัติเหมือนสารพันธุกรรม (Nucleoside Analog) ออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสในขั้นตอนการสังเคราะห์สารพันธุ์กรรม ส่วนยาของบริษัท Pfizer เป็นยา 2 ชนิดคือ PF-07321332 กับริโทนาเวียร์ (Ritonavir) ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอส (Protease Inhibitor) ในขั้นตอนการประกอบเป็นอนุภาคไวรัส

 

ทั้งคู่เป็นยาเม็ด รับประทานวันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 5 วัน ผลข้างเคียงของยาโมลนูพิราเวียร์ไม่ต่างจากกลุ่มควบคุม (12% เทียบกับ 11%) ส่วนยาแพ็กซ์โลวิดก็ไม่ต่างจากกลุ่มควบคุมเช่นกัน (19% เทียบกับ 21%) และมีผลข้างเคียงรุนแรงน้อยกว่ากลุ่มควบคุม (1.7% เทียบกับ 6.6%) แต่ยากลุ่มที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสอาจมีผลข้างเคียงคลื่นไส้ ถ่ายเหลว

ในช่วงเดือนเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว (พฤศจิกายน 2563) บริษัท Pfizer เผยแพร่ผลการศึกษาเบื้องต้นว่าประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด แต่กว่าที่ประเทศไทยจะจองวัคซีนและนำเข้าวัคซีน Pfizer มาใช้ในประเทศได้ต้องใช้เวลาอีกประมาณครึ่งปีถัดมา ครั้งนี้จึงต้องจับตาการทำงานของรัฐบาลว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ 

 

ล่าสุดวันนี้ (6 พฤศจิกายน 2564) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงยาแพ็กซ์โลวิดของบริษัท Pfizer และยาโมลนูพิราเวียร์ของ Merck ที่เพิ่งได้รับการอนุญาตจากทางการอังกฤษว่า “กว่ายาเหล่านี้จะเริ่มมีออกมาให้ใช้ก็คงจะเป็นในช่วงต้นปีหน้าครับ โดยผมได้เน้นย้ำกับทางกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว ว่าให้เร่งดำเนินการในทันที เพื่อสั่งซื้อยาตั้งแต่ตอนนี้ จะได้เป็นคิวแรกๆ”

 

 

ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising