‘วัคซีนเข็มกระตุ้น’ (หรืออาจจะเรียกแบบเข้าใจง่ายว่าเข็มที่สาม) เป็นเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยืนยันว่าควรให้ความสนใจ และมีความสำคัญกับการรักษาภูมิคุ้มกันต่อโควิดในระยะยาว ที่น่าสนใจก็คือ แม้ยังไม่ทราบว่าไทยจะไปถึงจุดที่จะต้องฉีดเข็มกระตุ้นนี้กันเมื่อไร แต่บางชาติในโลกเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือ Booster กันไปแล้ว
THE STANDARD สำรวจสถานการณ์การวางแผนและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นใน 5 ประเทศ ที่ติดอันดับแรกของการมีสัดส่วนประชากรมากที่สุดที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็ม ตามสถิติของสำนักข่าว Reuters ณ วันที่ 8 กรกฎาคม และสำรวจผลการศึกษาที่น่าสนใจ ตลอดจนมุมมองของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนี้จากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนและองค์การอนามัยโลก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
- วัคซีนที่ยูเออีอนุมัติให้ใช้งานกรณีฉุกเฉินแล้ว ได้แก่ Sinopharm (BBIBP-CorV วัคซีนที่ผลิตจากบริษัทในปักกิ่ง), Pfizer-BioNTech, Sputnik V, Oxford-AstraZeneca และล่าสุดที่เพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมคือ Moderna แต่ในจำนวนนี้ทั้งหมด ยูเออีเริ่มใช้วัคซีน Sinopharm เป็นตัวแรก
- สำนักข่าว The National ของยูเออีรายงานในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า เริ่มมีการให้วัคซีน Sinopharm ‘เข็มที่สาม’ กับคน ‘จำนวนเล็กน้อย’ ที่มีการสร้างแอนติบอดีไม่เพียงพอหลังได้รับวัคซีนครบสองเข็ม ซึ่งขณะนั้น ดร.เวลีด ซาเฮอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการวิจัยของ G42 Healthcare บริษัทที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการกระจายวัคซีน Sinopharm ในยูเออีระบุว่า มีคนจำนวน ‘น้อยมาก’ ที่ต้องการวัคซีนเข็มกระตุ้นนี้หากเทียบกับประชากรในยูเออีหลายล้านคนที่รับวัคซีนไปแล้ว
- ปรากฏว่ากลางเดือนพฤษภาคม ยูเออีประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะฉีดวัคซีน Sinopharm เข็มที่สามให้กับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนตัวนี้ไปแล้วสองเข็ม ทำให้ยูเออีกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ให้มีการฉีดเข็มที่สามอย่างเป็นทางการ โดยจะจัดลำดับความสำคัญให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ขึ้นไปหรือมีโรคเรื้อรังก่อน
- และวันที่ 3 มิถุนายน สำนักข่าว Reuters รายงานว่ายูเออีได้เพิ่มวัคซีนของ Pfizer-BioNTech เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการรับวัคซีนเข็มที่สาม โดยเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Khaleej Times ภาคภาษาอังกฤษของยูเออีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน อ้างอิงคำแถลงจากศูนย์สาธารณสุขอาบูดาบี (ADPHC) ว่าในรัฐอาบูดาบี ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนเข็มที่สามจะต้องรอหลังเข็มที่สองเป็นเวลา 6 เดือน และอาจจะเลือกรับวัคซีนของ Sinopharm หรือ Pfizer-BioNTech ก็ได้ภายหลังจากรับการประเมินทางการแพทย์แล้ว
- ส่วนคำถามที่ว่าแต่ละคนจะต้องรับวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) ทุกๆ 6 เดือนหรือไม่ ADPHC ระบุเพียงว่ากำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อหาระยะของการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เว็บไซต์ดังกล่าวยังรายงานคำกล่าวของ ดร.เวลีด เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งอ้างอิงผลการศึกษาทางคลินิกว่า ภูมิคุ้มกันจากวัคซีน Sinopharm จะอยู่ได้ 9 เดือนถึง 1 ปี แต่ยังเป็นข้อมูลที่ต้องอาศัยการติดตามเพิ่มเติมจากผู้ได้รับวัคซีนเพื่อดูการคงอยู่ของภูมิคุ้มกันในสถานการณ์จริงต่อไป
แคนาดา
- ปลายเดือนเมษายน จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ประกาศว่าแคนาดาบรรลุข้อตกลงในการจัดหาวัคซีน Pfizer-BioNTech สำหรับการเป็นเข็มกระตุ้นในปี 2022 ไว้แล้ว 35 ล้านโดส และสำหรับปี 2023 อีก 30 ล้านโดส นอกจากนี้ ในข้อตกลงดังกล่าวกับ Pfizer ยังมีตัวเลือกในการจัดหาวัคซีนเสริมเข้าไปเพิ่มอีกในปี 2022 และ 2023 ปีละ 30 ล้านโดส และอีก 30-60 ล้านโดสในปี 2024 นอกจากนี้ ทรูโดยังบอกในขณะนั้นว่ารัฐบาลแคนาดากำลังพูดคุยกับผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ สำหรับแผนการให้วัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย
- “ชาวแคนาดาคาดหวังให้เราพร้อมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มีความหวังแน่ว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอาจไม่จำเป็น แต่เราทำได้ดีกว่ามากเพื่อให้แน่ใจว่าเราเตรียมพร้อมในกรณีที่วัคซีนเหล่านั้นมีความจำเป็นขึ้นมา” ทรูโดกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนเมษายน
- CBC สื่อของแคนาดาชี้ว่าการให้วัคซีนเข็มกระตุ้นจะเป็นหนึ่งในการตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งต่อๆ ไปของเจ้าหน้าที่ทางการแคนาดา โดย แอนนา แมดดิสัน โฆษกของหน่วยงานสาธารณสุขแคนาดาระบุว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาแห่งชาติด้านการสร้างภูมิคุ้มกันของแคนาดากำลังจับตาดูข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในขณะที่กำลังพิจารณาถึงความจำเป็นของการใช้วัคซีนเข็มกระตุ้น แมดดิสันบอกว่าตามหลักฐานที่มีมาก่อนหน้านี้ วัคซีนเข็มกระตุ้นอาจจำเป็นในกรณีที่ภูมิคุ้มกันลดลงต่ำกว่าระดับที่ใช้ป้องกันไวรัสได้ ซึ่งรวมถึงไวรัสสายพันธุ์ที่น่ากังวลต่างๆ หรือหากมีกรณีการเกิดโรคหลังฉีดวัคซีนแล้วเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในแคนาดาส่วนหนึ่งเห็นว่าผู้ที่อยู่ในการดูแลระยะยาว ซึ่งได้แก่ผู้สูงวัยและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อน
ชิลี
- วันที่ 22 มิถุนายน สำนักข่าว Reuters รายงานว่าชิลีพึ่งพาวัคซีน Sinovac ของจีนมากที่สุด ตามด้วย Pfizer-BioNtech และวัคซีนอีกจำนวนเล็กน้อยจาก CanSino ของจีน และ Oxford-AstraZeneca
- ในรายงานข่าวชิ้นเดียวกันนี้ยังระบุถึงคำพูดของ เซบาสเตียน พิเนรา ประธานาธิบดีชิลีว่า ชิลีกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการให้วัคซีนโควิดเข็มที่สาม โดยระบุคล้ายๆ กับแคนาดาว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกำลังตรวจสอบการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากเพื่อตัดสินใจว่าวัคซีนเข็มที่สามมีความจำเป็นหรือไม่
สหราชอาณาจักร
- ข้อมูลล่าสุดจากระบบสาธารณสุขแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS) ระบุว่า ปัจจุบันวัคซีนของ Moderna, Pfizer-BioNTech และ Oxford-AstraZeneca ได้รับอนุญาตให้ใช้งานในสหราชอาณาจักรแล้ว (ส่วน Johnson & Johnson ได้รับอนุญาตแล้วเช่นกันแต่จะมาเสริมทัพในปีนี้)
- NHS ได้รับไฟเขียวให้ฉีดวัคซีนเข็มที่สามแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 เป็นต้นไป ก่อนจะถึงฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูที่ไวรัสระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่จะกลับมาระบาด
- โดยคำแนะนำในการให้วัคซีนของคณะกรรมการร่วมด้านการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันของสหราชอาณาจักร (JCVI) กล่าวถึงการให้วัคซีนโควิดเข็มที่สาม (และวัคซีนไข้หวัดใหญ่) โดยแนะนำให้เริ่มจากกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปทุกคน, บุคลากรทางสาธารณสุขและสังคมสงเคราะห์ด่านหน้า, ผู้ที่อยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุ, และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีความเสี่ยงสูงในทางคลินิก ก่อนจะขยายต่อไปยังผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปทุกคน, ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 16-49 ปีที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านหลังเดียวกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
- ส่วนผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยคนอื่นๆ จะยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่สาม เพราะพวกเขาจะเพิ่งได้รับวัคซีนเข็มที่สองไปในฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจนี้สามารถถูกนำกลับมาพิจารณาใหม่ได้อีกครั้งภายหลัง
- BBC ระบุว่าสหราชอาณาจักรยังไม่มีการตัดสินใจชัดเจนว่าจะใช้วัคซีนตัวใดเป็นเข็มกระตุ้น อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปเมื่อสิ้นเดือนเมษายน Bloomberg รายงานว่าสหราชอาณาจักรสั่งซื้อวัคซีน Pfizer-BioNTech จำนวน 60 ล้านโดส เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนี้
- ที่น่าสนใจก็คือ เพิ่งมีการเปิดตัวการศึกษาทางคลินิกที่ชื่อ ‘Cov-Boost’ ที่ได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาลสหหราชอาณาจักรไปไม่นานนี้ เป็นการศึกษาในคน 2,886 คนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งจะมีการฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้ โดยเข็มที่สามนี้จะเป็นวัคซีน 1 ใน 7 ตัวที่แตกต่างกัน ได้แก่ Oxford-AstraZeneca, Pfizer-BioNTech, Moderna, Novavax, Valneva, Johnson & Johnson และ Curevac และอาจเป็นวัคซีนที่ไม่ใช่ตัวเดียวกับที่พวกเขาเคยรับมาก่อน เพื่อดูผลของวัคซีน 7 ตัวนี้ในฐานะวัคซีนเข็มกระตุ้นตามระยะเวลาต่างๆ ที่กำหนดตลอดจนผลข้างเคียงต่างๆ คาดว่าจะได้ข้อค้นพบเบื้องต้นจากการศึกษานี้ในเดือนกันยายน ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจของ JCVI เกี่ยวกับวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อไป รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่านี่เป็นการศึกษาแรกในโลกที่จะให้ข้อมูลสำคัญของผลจากวัคซีนเข็มที่สามต่อการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
บาห์เรน
- วัคซีนที่บาห์เรนอนุมัติให้ใช้งานกรณีฉุกเฉินแล้ว ได้แก่ Sinopharm (BBIBP-CorV วัคซีนตัวปักกิ่ง), Pfizer-BioNTech, Oxford-AstraZeneca (Covishield), Sputnik V, Johnson & Johnson และ Sputnik Light และวัคซีนของ Sinopharm ก็ถูกอนุมัติให้ใช้เป็นตัวแรกเช่นกัน
- สถานการณ์ของบาห์เรนอาจจะคล้ายคลึงกับในยูเออีอยู่บ้าง เมื่อบาห์เรนประกาศในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า จะให้วัคซีนเข็มที่สามของ Sinopharm หลังจากเข็มที่สองเป็นเวลาหกเดือน โดยเริ่มจากกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ผู้มีภาวะอ้วน ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆ เช่นเดียวกับบุคลากรด่านหน้า และวันที่ 3 มิถุนายน Reuters ก็รายงานว่าบาห์เรนได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนของ Pfizer-BioNTech เป็นเข็มที่สามได้เช่นเดียวกับ Sinopharm โดยตัวแทนของรัฐบาลบาห์เรนระบุว่า ผู้ที่มีสิทธิ์จะได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech หรือ Sinopharm กระตุ้นหนึ่งเข็มโดยไม่คำนึงว่าเคยได้รับวัคซีนชนิดใดมาก่อน
- ทว่าล่าสุดวันที่ 6 กรกฎาคม คณะทำงานด้านการแพทย์ระดับชาติเพื่อต่อสู้กับโควิดของบาห์เรนเพิ่งประกาศลดระยะห่างระหว่างเข็มสำหรับการรับวัคซีนเข็มที่สาม (เข็มกระตุ้น) ในกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ให้เหลือเพียง ‘1 เดือน’ เท่านั้นหลังจากการรับวัคซีนเข็มที่สอง ส่วนบุคคลอื่นๆ ยังคงเว้นระยะระหว่างเข็มที่สองและสามเป็นเวลา 6 เดือนต่อไป ข้อความจากแถลงการณ์ระบุว่า การตัดสินใจนี้ได้รับการประกาศออกมาหลังจากมีการศึกษาหลักฐานล่าสุดเกี่ยวกับการตอบสนองของภูมิคุ้มกันและการป้องกันไวรัส พร้อมยืนยันว่า “วัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยบรรเทาอาการและภาวะแทรกซ้อนในกรณีที่ติดเชื้อไวรัส ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ในการเจ็บป่วยที่รุนแรงและเสียชีวิต”
ตัวอย่างการศึกษาและความเห็นเรื่อง ‘วัคซีนเข็มกระตุ้น’
- ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการเปิดเผยต้นฉบับข้อมูลจากการศึกษาเบื้องต้นที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาตรวจสอบ (Peer Review) ระบุว่าวัคซีนชนิด mRNA ของ Moderna เข็มกระตุ้นเพิ่มระดับการตอบสนองของแอนติบอดีต่อเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม ตลอดจนเชื้อสายพันธุ์เบตาและแกมมา นอกจากนี้ยังมีวัคซีน Moderna ตัวใหม่ที่เรียกว่า ‘mRNA-1273.351’ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการรับมือเชื้อสายพันธุ์เบตา และเมื่อถูกนำมาใช้ในฐานะเข็มกระตุ้น พบว่าสร้างการตอบสนองของแอนติบอดีต่อเชื้อสายพันธุ์เบตาได้ดีกว่าการใช้วัคซีน Moderna ตัวเดิมมาเป็นเข็มกระตุ้น
- ปลายเดือนมิถุนายน มีต้นฉบับการศึกษาใหม่ที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาตรวจสอบ (Peer Review) ที่เผยแพร่โดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักรระบุว่า การให้วัคซีน Oxford-AstraZeneca เข็มที่สาม หลังจากเข็มที่สองมากกว่า 6 เดือน ทำให้ระดับของแอนติบอดีเพิ่มขึ้นมาก ส่วนระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ต่อเชื้อสายพันธุ์แอลฟา เบตา และเดลตา หลังการรับวัคซีนเข็มที่สามก็สูงกว่าในเข็มที่สองเช่นกัน การศึกษาในครั้งนี้ระบุว่ามีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่สามจำนวน 90 ราย
- แต่สำหรับวัคซีนชนิด mRNA มีอย่างน้อยสองข่าวที่เกี่ยวข้อง เริ่มจากปลายเดือนมิถุนายน ต้นฉบับงานวิจัยที่ผ่านการพิจารณาตรวจสอบแล้วและเผยแพร่ในเว็บไซต์วารสารวิชาการ Nature ระบุว่า วัคซีนโควิดที่ผลิตโดย Pfizer-BioNTech และ Moderna จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบคงอยู่ได้นาน ซึ่งสามารถป้องกันไวรัสโคโรนาได้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี การค้นพบดังกล่าวเพิ่มหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่า คนที่ได้รับวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตวัคซีนของ Pfizer-BioNTech และ Moderna แล้ว ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่สาม ตราบใดที่เชื้อไวรัสและเชื้อกลายพันธุ์ยังไม่พัฒนาไปเกินกว่ารูปแบบปัจจุบัน ส่วนผู้ที่ฟื้นตัวหรือหายดีจากโควิดก่อนที่จะฉีดวัคซีน ก็อาจไม่จำเป็นต้องฉีดเข็มที่สามเช่นกัน แม้ว่าไวรัสจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็ตาม อย่างไรก็ดี ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และผู้ที่ทานยากดภูมิคุ้มกันอาจต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นนี้
- และล่าสุด เช้ามืดวันนี้ (9 กรกฎาคม) มีรายงานการแถลงของ Pfizer-BioNTech ที่บอกว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสามารถช่วยเพิ่มระดับของแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ได้ 5-10 เท่าเมื่อเทียบกับหลังรับวัคซีนสองเข็ม ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดในเร็วๆ นี้ และจะยื่นขอใช้งานวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นกรณีฉุกเฉินต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า พวกเขายังอ้างข้อมูลจากการใช้งานจริงในอิสราเอลว่าวัคซีน Pfizer-BioNTech มีประสิทธิภาพ (Efficacy) ในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการลดลงในช่วงเดียวกันกับที่สายพันธุ์เดลตากำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอิสราเอล ทำให้พวกเขา ‘เชื่อว่า’ วัคซีนเข็มกระตุ้นอาจมีความจำเป็นภายใน 6-12 เดือนหลังรับวัคซีนครบสองเข็ม และบอกว่าพวกเขากำลังพัฒนาวัคซีนเวอร์ชันแก้ไขปรับปรุง แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อว่าวัคซีนเข็มที่สามของ Pfizer-BioNTech จะมีศักยภาพในการรักษา ‘ระดับสูงสุด’ ของการป้องกันต่อไวรัสสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักทั้งหมดในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตาด้วยก็ตาม
- ส่วนวัคซีน Sinovac ของจีนนั้น เมื่อต้นเดือนมิถุนายน อินเว่ยตง ประธานของ Sinovac กล่าวผ่านสื่อของรัฐบาลจีน ระบุว่าทางบริษัทได้เสร็จสิ้นการทดสอบทางคลินิกในระยะที่สอง ในการฉีดวัคซีนเข็มที่สามหลังวัคซีนสองเข็มปกติ โดยเมื่อผ่านไปครึ่งเดือนผู้เข้าร่วมการทดสอบมีระดับแอนติบอดีเพิ่มขึ้น 20 เท่า แต่เขาเตือนว่าทางบริษัทยังคงต้องติดตามความคงทนของแอนติบอดีในระยะยาวก่อนจะแนะนำให้เจ้าหน้าที่ทางการเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะใช้วัคซีนเข็มที่สาม อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏว่ามีการเชื่อมโยงเพิ่มเติมไปยังต้นฉบับเอกสารผลการศึกษาในข่าวจากสื่อของทางการจีนและสำนักข่าว Reuters ที่รายงานเรื่องนี้
- อย่างไรก็ตาม มีอีกแง่มุมที่สะท้อนมาจาก ดร.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ย้ำถึงความเหลื่อมล้ำในการผลิตและกระจายวัคซีน โดยบอกว่า ‘ลัทธิชาตินิยมวัคซีน’ ที่บางประเทศได้รับส่วนแบ่งวัคซีนขนาดใหญ่เป็นเรื่องที่โต้แย้งไม่ได้ทางศีลธรรมและเป็นกลยุทธ์ทางสาธารณสุขที่ไม่มีประสิทธิภาพในการรับไวรัสที่กลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในการแพร่จากมนุษย์สู่มนุษย์ เขาย้ำว่าที่การระบาดในระยะนี้ “การที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและการดูแลหลายล้านคนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ”
ภาพ: Ian Forsyth / Getty Images
อ้างอิง:
- https://graphics.reuters.com/world-coronavirus-tracker-and-maps/vaccination-rollout-and-access/
- https://www.khaleejtimes.com/coronavirus-pandemic/uae-covid-vaccine-sinopharm-offers-immunity-for-9-months
- https://www.khaleejtimes.com/coronavirus-pandemic/covid-vaccine-uae-sinopharm-jab-offers-immunity-for-9-months-says-expert
- https://wam.ae/en/details/1395302935672
- https://wam.ae/en/details/1395302939516
- https://www.reuters.com/world/middle-east/uae-bahrain-make-pfizerbiontech-shot-available-those-who-got-sinopharm-vaccine-2021-06-03/
- https://www.reuters.com/world/middle-east/uae-says-it-will-offer-sinopharm-booster-shot-2021-05-18/
- https://www.aljazeera.com/economy/2021/5/18/uae-to-offer-third-chinese-vaccine-dose-amid-efficacy-concerns
- https://healthalert.gov.bh/en/article/News-980042
- https://healthalert.gov.bh/en/article/News-462667
- https://healthalert.gov.bh/uploads/vfenxugb_hha.pdf
- https://u.ae/en/information-and-services/justice-safety-and-the-law/handling-the-covid-19-outbreak/vaccines-against-covid-19-in-the-uae
- https://www.reuters.com/world/middle-east/uae-approves-moderna-covid-19-vaccine-emergency-use-2021-07-04/
- https://www.reuters.com/world/middle-east/bahrain-authorizes-emergency-use-one-shot-sputnik-light-covid-19-vaccine-2021-05-11/
- https://tass.com/world/1288527
- https://gulfbusiness.com/bahrain-approves-emergency-use-of-oxford-astrazeneca-covid-19-vaccine/
- https://www.aljazeera.com/news/2020/12/4/bahrain-becomes-second-country-to-approve-pfizer-covid-19-vaccine
- https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/sinopharms-two-covid-19-shots-effective-study-says-2021-05-27/
- https://jamanetwork.com/journals/jama/fullarticle/2780562
- https://globalnews.ca/news/7783486/covid-canada-pfizer-booster-vaccine/
- https://abcnews.go.com/Health/wireStory/canada-reaches-deal-pfizer-vaccines-future-years-77272115
- https://www.cbc.ca/news/health/covid-19-third-dose-booster-shots-1.6092834
- https://www.canada.ca/en/public-services-procurement/services/procuring-vaccines-covid19.html
- https://www.reuters.com/article/brief-canada-signs-booster-deal-with-pfi-idUST5N2L7001
- https://www.reuters.com/world/americas/chile-weighing-issue-third-booster-dose-covid-19-vaccine-2021-06-22/
- https://www.bbc.com/news/health-57667987
- https://www.nhs.uk/conditions/coronavirus-covid-19/coronavirus-vaccination/coronavirus-vaccine/
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-04-28/u-k-secures-extra-60-million-pfizer-doses-for-booster-program?sref=CVqPBMVg
- https://www.gov.uk/government/news/world-first-covid-19-vaccine-booster-study-launches-in-uk–2
- https://www.wired.co.uk/article/covid-19-nhs-booster-shots
- https://www.nytimes.com/2021/06/28/health/coronavirus-vaccines-immunity.html
- https://www.cnbc.com/2021/05/05/covid-booster-shot-moderna-says-vaccine-generates-promising-immune-response-against-variants.html
- https://thestandard.co/astrazeneca-booster-dose/
- https://www.cnbc.com/2021/07/08/pfizer-says-it-is-developing-a-covid-booster-shot-to-target-the-highly-transmissible-delta-variant.html
- https://abcnews.go.com/Health/booster-shot-12-months-provide-best-protection-covid/story?id=78741334
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-07-08/pfizer-plans-to-request-fda-nod-for-covid-booster-in-august?sref=CVqPBMVg
- https://www.globaltimes.cn/page/202106/1225472.shtml
- https://www.reuters.com/world/china/sinovacs-covid-19-vaccine-gains-china-approval-emergency-use-children-2021-06-05/
- https://www.who.int/director-general/speeches/detail/director-general-s-opening-remarks-at-the-media-briefing-on-covid-19-7-july-2021