หลังมีข้อมูลผลิตภัณฑ์โทรทัศน์ใหม่ๆ หลุดออกมาเป็นระลอกๆ ในที่สุดวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา Samsung ก็ได้จัดงาน ‘The First Look CES 2020’ ขึ้นที่ลาสเวกัส เปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มโทรทัศน์ที่เตรียมจะจำหน่ายในปี 2020 นี้ โหมโรงก่อนที่งาน CES 2020 จะเปิดฉากขึ้น (วันที่ 7-10 มกราคม)
คอนเซปต์การเปิดตัวสินค้าในกลุ่มโทรทัศน์ของ Samsung ในปีนี้คือ ‘Screens Everywhere’ หรือ ‘จออยู่ทุกหนแห่ง’ ซึ่งเป็นนิยามที่ ฮันจงฮี ประธานแผนก Visual Displays ประจำบริษัท Samsung Electronics ให้ไว้ เนื่องจากไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไป ทุกคนพร้อมเสพคอนเทนต์ ‘ทุกที่ทุกเวลา’ Samsung จึงต้องพร้อมจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้ทัน
โดยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 3 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย
- โทรทัศน์ MicroLED (The Wall): แบบไร้ขอบใน 2 ขนาดใหม่คือ 88 นิ้ว และ 150 นิ้ว พร้อมขนาดใหญ่พิเศษ 292 นิ้ว ที่มาพร้อมกับการแสดงผลสีของภาพที่สวยงาม คมชัดระดับ 8K
- โทรทัศน์ 8K QLED: ในรุ่นแฟลกชิป ‘Q950TS’ และจอแบบ Infinity Screen ที่ทำงานร่วมกับ AI และแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อยกระดับความคมชัดของภาพให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น
- โทรทัศน์ในกลุ่ม Lifestyle TV: ได้แก่ The Frame (เพิ่มขนาดใหม่), The Serif (เพิ่มขนาดและสีใหม่), จอสำหรับเกมมิง Odyssey G7, G9 และ ‘The Sero’ โทรทัศน์ที่ใช้ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
The Sero คือโทรทัศน์ในกลุ่ม Lifestyle TV ขนาด 43 นิ้วของ Samsung ที่เปิดตัวในงาน และได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกไปแบบถล่มทลาย ด้วยคอนเซปต์ความแปลกใหม่ของมัน ซึ่งเป็นทีวีที่ใช้งานได้ทั้ง ‘แนวนอน’ และ ‘แนวตั้ง’ อิงตามการปรับลักษณะจอมือถือที่ใช้ (Rotate Screen) เชื่อมต่อกับตัวเครื่อง โดยมุ่งเป้าเจาะกลุ่มเป้าหมายในช่วงมิลเลนเนียลและเจน Z โดยเฉพาะ
เนื่องจากคนในช่วงวัยดังกล่าวนิยมใช้งานแอปฯ ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะ Instagram, TikTok หรือการดูคลิปวิดีโอแนวตั้งบน YouTube Samsung จึงพัฒนาจอโทรทัศน์ The Sero ที่ใช้ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งขึ้นมา หวังยกระดับประสบการณ์ในการใช้งานโทรทัศน์เพื่อความบันเทิงของผู้คนที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน และถือเป็นค่ายผู้ผลิตโทรทัศน์รายแรกของโลกที่เปิดตัวนวัตกรรมรูปแบบนี้
ที่สำคัญ มันยังได้รับการยกให้ติดหนึ่งใน ‘นวัตกรรมยอดเยี่ยม’ ของงาน CES 2020 ประจำปีนี้อีกด้วย โดยในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมาได้เริ่มวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ไปแล้วด้วยราคาราว 1.89 ล้านวอน หรือประมาณ 49,000 บาท และจะเริ่มจำหน่ายทั่วโลกในปีนี้ ส่วนในประเทศไทยคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนการนำเข้ามาจำหน่ายราวๆ เดือนพฤษภาคม 2020
ข้อมูลภาพรวมตลาดโทรทัศน์ทั่วโลกตลอดปี 2019 ที่ผ่านมา อ้างอิงจาก NPD Group Inc. บริษัทวิจัยข้อมูลด้านการตลาดและเว็บไซต์ CNET พบว่า Samsung ยังครองตำแหน่งการเป็นเจ้าตลาดในอันดับหนึ่ง โดยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 21% เช่นเดียวกับตลาดโทรทัศน์พรีเมียม (ราคาจำหน่ายสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30,000 บาท) ที่ซัมซุงสามารกินส่วนแบ่งในตลาดได้มากถึง 51% ตามมาด้วย LG และ Sony ที่มีส่วนแบ่งที่ 23% และ 22% ตามลำดับ
สอดคล้องกับข้อมูลที่ ฮันจงฮี บอกไว้ว่า ในปีที่ผ่านมาพวกเขาสามารถเป็นเจ้าตลาดโทรทัศน์ได้แล้ว ส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2020 นี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าจับตาของตลาดโทรทัศน์ โดยเฉพาะการได้รับอานิสงส์จากปัจจัยบวก ทั้งเทศกาลกีฬาระดับโลก ฟุตบอลยูโร 2020 โอลิมปิกฤดูร้อน 2020 และการแข่งขันของอุตสาหกรรมสตรีมมิงคอนเทนต์ที่นับวันก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้น ตลอดจนเทคโนโลยีความคมชัดระดับ 8K ที่เร่ิมเข้ามาสร้างสีสันในตลาดอยู่เป็นระยะ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
