Santoku Curry ร้านแกงกะหรี่ที่ส่งต่อรสชาติเข้มข้นจากเชียงใหม่สู่ศาลายา

ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นคืออาหารที่มีความหลากหลาย แต่ละร้านก็มีการปรุงน้ำแกงในแบบของตัวเองเพื่อให้ได้แกงกะหรี่ที่มีเอกลักษณ์ เช่นเดียวกันกับร้าน Santoku Curry ร้านแกงกะหรี่ชื่อดังจากเชียงใหม่ที่เปิดมาแล้วกว่าสิบปี ร้านนี้มีคาแรกเตอร์น้ำแกงกะหรี่ที่รสชาติเข้มข้น แต่ไม่เลี่ยน เป็นสูตรลับของทางร้าน ซึ่งเขาเคี่ยวน้ำแกงกะหรี่กันข้ามคืน! หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากที่เชียงใหม่เขาก็ได้มาเปิดสาขาสองที่ศาลายา โดยเริ่มต้นจากร้านรถเข็นจนตอนนี้ขยายมาเป็นร้านแล้ว ใครชื่นชอบแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแนะนำให้ไปเช็กอินสักครั้ง

The Vibe

บรรยากาศภายในร้านเป็นร้านแกงกะหรี่เล็กๆ ที่คนชอบแกงกะหรี่น่าจะถูกใจมากๆ เพราะเมื่อเปิดประตูเข้าไปคุณจะได้เจอกับครัวเปิดที่โชว์ทุกขั้นตอนการทำแกงกะหรี่ให้ดู ที่นั่งภายในร้านมีทั้งโซนเคาน์เตอร์ที่ให้อารมณ์เหมือนเราได้นั่งกินอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวเขาก็มีที่นั่งแบบแยกเป็นโต๊ะให้เช่นกัน

The Taste

แกงกะหรี่ของที่นี่จะมีรสชาติที่เข้มข้น แต่กินไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเลี่ยน ความเผ็ดของตัวแกงอยู่ในระดับกลาง ไม่ได้เผ็ดจนเกินไปแต่ถ้าใครชื่นชอบความเผ็ดก็สามารถเติมพริกได้ ความโดดเด่นของข้าวแกงกะหรี่ที่นี่คือการเลือกทานคู่กับท็อปปิ้งที่หลากหลาย

โดยที่ร้านนี้เด่นมากด้านการทำเมนูของทอดเช่น ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูสันในทอด (ราคา 169 บาท) ทางร้านทอดหมูมาได้กรอบ ข้างในสุกพอดีไม่แห้งจนเกินไป กินกับแกงกะหรี่เข้ากันสุดๆ หรือถ้าใครไม่อยากทานของทอดแนะนำ ข้าวหน้าแกงกะหรี่เนื้อสไลซ์ (ราคา 189 บาท) และ ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูสไลซ์ (ราคา 169 บาท) ส่วนของทานเล่นที่ขายดีสุดๆ ของร้านนี้คือ หอมหัวใหญ่ทอด (ราคา 89 บาท) อันที่จริงในทุกๆ จานทางร้านก็จะท็อปด้วยหอมหัวใหญ่ทอดอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากได้ความกรอบสะใจมากขึ้นไปอีกแนะนำให้สั่งเพิ่มมาอีกจาน

Good for

ร้านนี้เหมาะกับคนที่รักแกงกะหรี่แล้วอยากหาแกงกะหรี่รสชาติเข้มข้นทานง่ายๆ ไวๆ จะมาคนเดียวก็ได้ หรือจะมากับเพื่อนกลุ่มเล็กๆ สัก 2-3 คนก็ได้