×

ตลาดพิซซ่าแข่งเดือด! Yum Brands จ่อขาย ‘Pizza Hut’ หลังยอดขายทรุดหลายไตรมาส พร้อมดัน ‘Taco Bell–KFC’ แบรนด์ฮีโร่ช่วยหนุนรายได้โต

05.11.2025
  • LOADING...
ตลาดพิซซ่าแข่งเดือด Yum Brands จ่อขาย ‘Pizza Hut’ หลังยอดขายทรุดหลายไตรมาส พร้อมดัน ‘Taco Bell–KFC’ แบรนด์ฮีโร่ช่วยหนุนรายได้โต

Yum Brands เจ้าของเครือร้านอาหารระดับโลกอย่าง KFC, Taco Bell และ Pizza Hut กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการขายกิจการ Pizza Hut หลังแบรนด์พิซซ่าชื่อดังเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดท่ามกลางความท้าทายด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

 

สอดรับกับ Pizza Hut รายงานยอดขายสาขาเดิมในสหรัฐฯ ลดลงติดต่อกันหลายไตรมาส โดยตลาดดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนถึง 42% ของยอดขายทั่วโลก ทำให้ภาพรวมธุรกิจถูกฉุดรั้ง แม้ยอดขายในตลาดต่างประเทศจะยังขยายตัวก็ตาม

 

ส่วนไตรมาสล่าสุด ยอดขายสาขาเดิมของ Pizza Hut ทั่วโลกลดลง 1% สวนทางกับแบรนด์อื่นในเครืออย่าง Taco Bell และ KFC ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย Taco Bell มียอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 7% และ KFC เติบโต 3% แม้ยังเผชิญแรงกดดันในตลาดสหรัฐฯ

 

แม้ Pizza Hut จะสร้างรายได้ราว 11% ของกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัท และมีเครือข่ายกว่า 20,000 สาขาทั่วโลก และสาขาส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งตลาดพิซซ่าแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจากคู่แข่งอย่าง Domino’s Pizza ที่เพิ่งรายงานยอดขายรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 6% จากการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายอย่างหนัก ซึ่งทำให้ Pizza Hut สูญเสียส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง

 

คริส เทอร์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Yum Brands กล่าวว่า ผลประกอบการของ Pizza Hut สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการดำเนินการหาทางออก เพื่อให้แบรนด์สามารถสร้างมูลค่าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งมองว่าแบรนด์อาจทำได้ดีกว่านี้ หากอยู่นอกกลุ่ม Yum Brands พร้อมย้ำว่าบริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจพิซซ่า คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้

 

เมื่อมาดูผลประกอบการในไตรมาส 3 ปีนี้ Yum Brands มีกำไรสุทธิ 397 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 382 ล้านดอลลาร์ โดยมีรายได้รวมเติบโต 8% สู่ระดับ 1.98 พันล้านดอลลาร์ ส่วนช่องทางออนไลน์เติบโตทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก คิดเป็นกว่า 60% ของยอดขายทั้งหมด

 

โดยได้แรงหนุนหลักจากแบรนด์เรือธงอย่าง Taco Bell ที่ยังคงเป็นดาวเด่น โดยมียอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 5.2% แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ Taco Bell ยังคงดึงดูดลูกค้าได้ด้วยเมนูใหม่และแคมเปญการตลาดที่เน้นความคุ้มค่าในราคาจับต้องได้

 

โดยปัจจุบันบริษัทให้สิทธิ์แฟรนไชส์กว่า 98% ของสาขาทั่วโลก และเมื่อไม่นานมานี้เข้าซื้อกิจการร้าน Taco Bell เพิ่มอีก 128 สาขาในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ เพื่อเสริมการเติบโตในตลาดหลัก

 

รวมถึงแบรนด์เรือธงอย่าง KFC มียอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของแบรนด์ มียอดขายเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ในสหรัฐฯ ยอดขายสาขาเดิมกลับมาขยายตัว 2% หลังเคยสูญเสียส่วนแบ่งให้กับผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Raising Cane’s ไปก่อนหน้า

 

ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากฝีมือผู้บริหาร แคทเธอรีน แทน-กิลเลสพี ที่เข้ามารับตำแหน่งซีอีโอ KFC สหรัฐฯ คนใหม่ ที่ปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันสมัยขึ้น และเปิดตัวเมนูปีกไก่รสเผ็ด ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่า Pizza Hut ยังคงเป็นจุดอ่อนของกลุ่ม

 

Ranjith Roy ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ระบุว่า แม้จะอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมปรับโครงสร้างหรือการทำธุรกรรมบางอย่าง แต่บริษัทก็ยังเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพให้ Pizza Hut อย่างต่อเนื่อง และไม่เพียงตลาดสหรัฐฯ เท่านั้นที่ลำบาก สถานการณ์ในต่างประเทศก็ไม่ต่างกัน โดยใน สหราชอาณาจักร ผู้ดำเนินการแฟรนไชส์รายใหญ่ DC London Pie Limited เพิ่งยื่นล้มละลายไปในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้องปิดร้านไปอย่างน้อย 68 สาขา

 

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การขาย Pizza Hut จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและเปิดทางให้บริษัทหันไปเน้นลงทุนในแบรนด์ที่มีศักยภาพเติบโตสูงกว่าอย่าง Taco Bell และ KFC ซึ่งยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักของบริษัท

 

ภาพ: Dutch_Photos / Shutterstock

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising