ในวันที่โลกหมุนเร็วเกินไป ทุกอย่างรุมเร้า สมองไม่ยอมหยุดคิด หลายคนมองหาวิธีพาตัวเองออกจากวังวนความเครียด บางคนก็หันมานั่งนิ่งๆ มองดูแสงสีเขียวให้สมองปลอดโปร่ง บางคนก็หาหนังสืออ่าน หรือแม้แต่นอนหลับพักผ่อนเลยก็มี ทว่าหนึ่งในกิจกรรมที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตทั่วโลกแนะนำเวลาต้องการรีเซตตัวเอง คือ ‘การปีนเขา’ กิจกรรมแนวเอ็กซ์ตรีมที่เหมือนไม่มีอะไรนอกจากการออกกำลังกลางแจ้ง แต่ในความเป็นจริงคือการดูแลสุขภาพใจที่ทรงพลังกว่าที่คิด
ธรรมชาติคือยารักษาแบบไม่ต้องสั่งจ่าย
มีงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติช่วยลดระดับคอร์ติซอล หรือ ฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย เพิ่มคลื่นสมองแบบอัลฟ่า ซึ่งเชื่อมโยงกับความสงบและสมาธิ การปีนเขาจึงไม่ใช่แค่การได้อยู่ในป่าเขา แต่ยังเป็นการฮีลใจอย่างหนึ่ง บังคับให้เรา ‘อยู่กับปัจจุบัน’ ทุกย่างก้าว ทุกการหายใจ ต้องโฟกัสกับทางชัน รากไม้ หรือหินที่อยู่ตรงหน้า ทุกความคิดฟุ้งซ่านจึงถูกสยบลงโดยธรรมชาติอย่างช้าๆ
Summit Effect เมื่อยอดเขาคือหมุดหมายใจ
มีปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Summit Effect หรือ ‘ปรากฏการณ์ปลายทาง’ ที่ทำให้คนรู้สึกถึงความสำเร็จ ความมั่นใจ และความหมายของชีวิต เมื่อได้ไปถึงจุดสูงสุดของเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาจริงๆ หรือเป้าหมายเล็กๆ ระหว่างทางก็ตาม
ความเหนื่อย ความล้มเหลว หรือคำถามในใจ ถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังใหม่ ณ จุดที่เรามองกลับไปยังทางที่เดินผ่านมา
ปีนเขา = ฝึกสติ
การปีนเขายังมีลักษณะคล้ายการทำสมาธิแบบเคลื่อนไหว (Moving Meditation) เพราะเราต้องรับรู้สิ่งรอบตัวอย่างต่อเนื่อง เสียงนกร้อง ลมที่ปะทะใบหน้า เสียงรองเท้ากระทบพื้น ความเงียบที่ไม่ได้เงียบเสียทีเดียว แต่เป็นเสียงธรรมชาติที่ช่วยรีเซตสมอง ผู้เชี่ยวชาญด้าน Mindfulness หลายคนถึงกับใช้เส้นทางเดินป่าเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กช็อปบำบัด เพราะช่วยฝึกให้เรากลับมาอยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง
ใครๆ ก็เริ่มได้ ไม่ต้องเป็นนักปีนเขามืออาชีพ
สำหรับใครที่อยากเริ่ม คุณไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ครบขั้น ไม่จำเป็นต้องจองตั๋วแบกเป้ข้ามประเทศไปขึ้นเขามีชื่อ การปีนเขาเพื่อสุขภาพจิตสามารถเริ่มได้จากเส้นทางธรรมชาติใกล้บ้าน หรืออุทยานแห่งชาติที่เข้าถึงง่าย สำคัญคือการตั้งเจตนาให้ ‘การเดิน’ เป็นช่วงเวลาที่คุณให้เวลากับตัวเองจริงๆ
การปีนเขาอาจไม่ได้แก้ปัญหาทุกอย่างในชีวิต แต่พาเรา ‘หายใจลึกๆ ได้อีกครั้ง ได้รู้สึกถึงความแข็งแรงของตัวเอง และได้เตือนใจว่า เรายังไปต่อได้ในแบบของเรา
บางครั้ง ความเงียบจากยอดเขา อาจดังกว่าคำพูดปลอบโยนใดๆ จากคนรอบตัว