×

น่ากลัวกว่าผี…ก็หัวหน้าที่เป็น Narcissistic นี่แหละ!

31.10.2024
  • LOADING...
หัวหน้า

ในวันแห่งการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนานให้กับเทศกาลชวนขนหัวลุกอย่างฮาโลวีนนั้น ยังมีมนุษย์อีกหลายชีวิตทั่วโลกที่กำลังขนหัวลุกกับสิ่งมีชีวิตที่บางครั้งก็น่ากลัวยิ่งกว่าผี ซึ่งก็คือ ‘หัวหน้า’ และประเภทหัวหน้าที่เราหยิบยกมากล่าวในวันนี้คือหัวหน้าที่เป็นโรคคลั่งไคล้ตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder)

 

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหัวหน้าในที่ทำงานของเราเข้าข่าย Narcissistic ลองสังเกตจากพฤติกรรมหลักๆ ได้ดังนี้

  • บ้าอำนาจ

ตำแหน่งหัวหน้าที่ค้ำคอ ทำให้คนที่เป็นโรคคลั่งไคล้ตัวเองรู้สึกถึงพลังอำนาจในมือที่จะบังคับและสั่งการทุกสิ่งได้ตามอำเภอใจ ซึ่งบางครั้งก็อาจนำไปสู่การใช้อำนาจในทางที่ผิดได้เช่นกัน

  • ไร้ความเห็นอกเห็นใจ

หัวหน้าสาย Narcissistic มักจะไม่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หากมีปัญหากันภายในองค์กร หัวหน้าประเภทนี้ก็มักจะยึดความคิดของตัวเองเป็นหลักโดยไม่สนใจถึงความเป็นจริงหรือความรู้สึกของลูกน้อง

  • หิวแสงเป็นที่หนึ่ง

การได้รับการสรรเสริญเยินยอเป็นสิ่งที่หัวหน้าสาย Narcissistic พึงพอใจเป็นที่สุด ยิ่งตกเป็นที่สนใจหรือที่จดจำจากคนอื่นยิ่งทำให้รู้สึกประสบความสำเร็จ

  • อีโก้สูงกว่าจักรวาล

ด้วยความที่เชื่อมั่นว่าตัวเองดีและเหนือกว่าอื่นอยู่เสมอ การรับข้อวิพากษ์วิจารณ์จึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เรียกง่ายๆ ว่าโลกต้องหมุนรอบตัวเอง

  • ขี้อิจฉา เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้

หัวหน้าสาย Narcissistic มักเชื่อว่าคนอื่นกำลังแข่งกับตน และในขณะเดียวกันก็รู้สึกอิจฉาที่เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ ทำให้รู้สึกต้องแข่งกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา

  • กดดัน โจมตีให้รู้สึกด้อยค่า

การกดดันในรูปแบบของหัวหน้าสาย Narcissistic ส่วนใหญ่เป็นการใช้คำพูดให้รู้สึกแย่ กดดัน ประชดประชัน บางครั้งอาจอยู่ในรูปแบบของการตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป และเมื่อลูกน้องทำไม่ได้ก็จะนำจุดอ่อนของลูกน้องมาพูดโจมตีให้รู้สึกแย่จนสูญเสียความมั่นใจและคุณค่าในตัวเอง

 

เมื่อเราเริ่มรู้สึกว่าตัวเองประสาทเสีย เครียด ไร้ค่า ห่วยแตก พูดอะไรไปก็เหมือนไม่ได้รับการรับฟัง หมดหวัง ท้อแท้เหมือนไม่มีทางออก จนเริ่มตั้งคำถามว่า “เราควรมีชีวิตแบกรับสิ่งเหล่านี้ไปเพื่ออะไร” เมื่อนั้นเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าเรากำลังตกเป็นเหยื่อหัวหน้าที่เป็นโรคคลั่งไคล้ตัวเองแล้ว

 

สิ่งที่เราสามารถทำเพื่อรับมือกับหัวหน้าที่เป็น Narcissistic ได้อย่างรวดเร็วคือการยอมรับว่าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ ดังนั้นการจะไปประจันหน้าพูดกับหัวหน้าตรงๆ คงไม่ใช่ทางออกที่ดีเท่าไร

 

ถามตัวเองว่า “การยังอยู่ตรงนี้…มันคุ้มไหม” หากคำตอบคือเรายังอยากอยู่เพื่อพัฒนาความสามารถและเติบโตต่อไปในสายงาน สิ่งที่เราควรทำคือการ ‘เปิดใจ’ กับคนที่สามารถไว้ใจได้และเป็นพื้นที่ปลอดภัย

 

ในกรณีนี้เราสามารถคุยกับฝ่ายบุคคล (Human Resource) เพื่อเล่าถึงปัญหาเพื่อหาทางออกร่วมกัน อีกวิธีที่ดีคือการพบนักสุขภาพจิตเพื่อฮีลใจและป้องกันผลกระทบรุนแรงที่เกิดในอนาคตได้

 

หากได้ลองชั่งน้ำหนักดูแล้วการเอาตัวเองออกจากจุดที่ยืนอยู่นั้นคุ้มกว่า ก็ขอให้ก้าวออกมาอย่างไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะคุณค่าในชีวิตของเราไม่ได้ผูกอยู่กับคำพูดของใคร คุณค่าในชีวิตของเราไม่ได้ลดลงในวันที่เราทำงานได้ไม่ถึงเป้า

 

ชีวิตเรามีค่ามากเกินกว่าที่อะไรจะวัดได้

 

โลกนี้ไม่มีคนเพอร์เฟกต์ฉันใด โลกแห่งการทำงานก็ไม่มีหัวหน้าที่เพอร์เฟกต์ฉันนั้น เราทุกคนล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สิ่งหนึ่งที่เราในฐานะมนุษย์พึงกระทำได้คือการรู้จักเห็นอกเห็นใจ (Empathy) ซึ่งกันและกัน ตระหนักรู้ถึงการกระทำของตัวเองอยู่เสมอ เพราะสุดท้ายแล้วไม่มีมนุษย์คนใดที่อยากถูกทำร้ายไม่ว่าจะด้วยทางใดก็ตาม

ในวันที่โลกใจร้ายกับเรา เราต้องใจดีกับตัวเองให้มาก อย่าปล่อยให้คนที่ทำร้ายเราจนลืมในสิ่งที่ตนทำไปแล้วกลับมาสร้างบาดแผลให้เราและคนรอบข้างที่รักเราสุดใจได้อีกเลย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X