เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ซึ่งก็เป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังจากรัฐมีมาตรการควบคุมเวลาเปิด-ปิดร้านอาหาร สืบเนื่องมาจากความต้องการควบคุมความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 หลังจากตัวเลขกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
การล็อกดาวน์ที่ไม่ล็อกดาวน์ในครั้งนี้ ทุกกลุ่มธุรกิจต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ซึ่งสำหรับธุรกิจไลฟ์สไตล์เอง มาตรการครั้งนี้ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้เปิดให้นั่งกินที่ร้านได้บ้าง ควบคู่ไปกับการกลับมากระตุ้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ในขณะที่บาร์ต้องปิดเพียงอย่างเดียว และการขายออนไลน์ก็ทำไม่ได้เลย
แต่เงื่อนไขดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้ค่าเช่าร้านหรือค่าจ้างพนักงานถูกล็อกดาวน์ไปด้วย ผู้ประกอบการบาร์จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อปรับตัวภายใต้สถานการณ์นี้ เช่นเดียวกับ Vesper ค็อกเทลบาร์ย่านสีลม หนึ่งใน 5 ธุรกิจอาหารจาก Foodie Collection Group เจ้าของร้านอาหาร Il Fumo, 1919 Italian Bar & Restaurant, La Dotta และ 80/20 ที่ในขณะที่ร้านอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการได้ แต่สถานการณ์ก็ทำให้ผู้คนเลือกออกมากินอาหารนอกบ้านน้อยลง การปิดบาร์เฉยๆ จึงไม่ใช่ทางเลือก Vesper Cafe จึงเกิดขึ้นเพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้โดยเฉพาะ
Vesper Cafe เกิดจากการรวมพลังของทีมบาร์เทนเดอร์จาก Vesper นำโดย Group Bar Manager ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ กับอิตาเลียนเชฟ ฟรานเซสโก เดียอานา จาก 1919 Italian Bar & Restaurant และเชฟเนลสัน อะโมริม จาก Il Fumo ออกแบบให้การมา Vesper ในเวลากลางวันได้ความเป็นคาเฟ่บิสโทร เสิร์ฟกาแฟ ม็อกเทลกาแฟสุดสร้างสรรค์ คู่กับคอมฟอร์ตฟู้ดอย่างเบอร์เกอร์ สลัด และแซนด์วิช แถมเมนูใหม่นี้ไม่เคยเสิร์ฟที่ร้านไหนมาก่อน เป็นการคิดใหม่ทั้งหมดเพื่อโปรเจกต์นี้โดยเฉพาะ
เราเริ่มด้วยการสั่งสลัด (ที่ไม่คิดว่าการมาบาร์ก็เฮลตี้ได้) อย่าง Baby Spinach & Avocado (290 บาท) สลัดรวมผักและผลไม้ที่ได้ความสดชื่นของทั้งกีวีและบีตรูต กินคู่กับของว่างเด็กอ้วนอย่าง Butternut Squash Fries & Pecorino Romano Cheese (190 บาท) ที่หยิบบัตเตอร์นัตสควอชมาทอดเป็นฟรายส์ ออกหวานนิดๆ จิ้มกับซอสเผ็ดและน้ำผึ้งกินได้เพลินๆ
สำหรับจานหลักเน้นอาหารที่เป็นคาเฟ่คอมฟอร์ตอย่างสเต๊กและแซนด์วิช เราเลือก Black Truffle & Wagyu Flank Steak Katsu (340 บาท) เนื้อวากิวชุบแป้งทอดสไตล์คัตสึแบบญี่ปุ่น กินกับซอส 24-Month Parmigiano Reggiano Fondue และมันฝรั่งทอด กับอีกจานคือหากคุณเป็นคนที่ชอบล็อบสเตอร์โรลต้องลอง Prawn Cocktail Brioche Roll (290 บาท) ขนมปังบริยอชจากเชฟเนลสันที่นุ่มจนอยากลงไปนอน อัดแน่นมาด้วยกุ้งชุ่มค็อกเทลซอส เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอดเช่นเดิม หรือหากไม่อยากอิ่มจะสั่งของหวานอย่าง Cognac & Caramel Flan (190 บาท) หรือ Affogato Chocolate & Walnut Brownie (190 บาท) มากินที่คาเฟ่ก็ได้เช่นกัน
สำหรับเครื่องดื่ม ที่นี่เสิร์ฟเมนูกาแฟและชาตามมาตรฐานคาเฟ่ (กาแฟเริ่มต้นที่ราคา 80-100 บาท สวนชาเริ่มต้นที่ 120-150 บาท) แต่ด้วยความเป็นค็อกเทลบาร์ รายการม็อกเทลจึงสนุกกว่าเป็นไหนๆ เริ่มจากม็อกเทลที่หยิบเอาเมนูใหม่ของบาร์ Contrast Edition 2 ขึ้นมาปรับให้เป็นสูตรไร้แอลกอฮอล์อย่าง Street – I’m Fine (240 บาท) แก้วที่ปรับมาจากค็อกเทล Street/Fine Dining แก้วนี้มีส่วนผสมของชาอู่หลง น้ำมะพร้าว และเก๊กฮวย ซึ่งนอกจากนี้ชาและกาแฟก็ยังมีแบบม็อกเทลให้เปลี่ยนบรรยากาศจากลาเต้และอเมริกาโนอย่าง Winter Has Gone (180 บาท) แก้วนี้เบสด้วยกาแฟจาก Nespresso ผสมน้ำลิ้นจี่ ราสป์เบอร์รี และเพิ่มความซ่าด้วยโทนิก
นอกจากนี้ทาง Foodie Collection ยังนำ Voucher สำหรับใช้ในร้านอาหารในเครือกลับมาจำหน่ายอีกครั้งเพื่อเป็นการปรับตัวท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยจำหน่ายราคา 2,000 บาท (ได้มูลค่า 2,500 บาท), ราคา 5,000 (ได้มูลค่า 6,500 บาท), ราคา 10,000 (ได้มูลค่า 13,500 บาท), ราคา 30,000 (ได้มูลค่า 42,000 บาท) และาคา 50,000 (ได้มูลค่า 75,000 บาท) จำหน่ายถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และมีอายุการใช้งาน 1 ปีนับจากวันที่ซื้อ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FoodieCollectionGroup
Vesper Cafe เปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.30-21.00 น. ทั้งแบบกินที่ร้านและเดลิเวอรีบางเมนู ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/vesperbkk
ดูรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่:
อ่านรีวิว Contrast Edition 2 ได้ที่ https://thestandard.co/vesper-cocktail-bar-contrast-edition-2/
อ่านความเดิมตอนที่แล้วของ Voucher ได้ที่ https://thestandard.co/7-voucher/ (ข้อ 6 จากลิสต์)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
