รายงานของสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (6 มี.ค) ระบุว่าชาวเกาหลีเหนือกว่า 11 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 43% ของประชากรทั้งหมด กำลังขาดแคลนอาหารและตกอยู่ในภาวะทุพโภชนาการ เด็กราว 1 ใน 5 ของทั้งประเทศไม่ได้รับสารอาหารอย่างพอเพียงเป็นระยะเวลานาน
นอกจากนี้ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ยังมีข้อจำกัดในงานบริการด้านสาธารณสุข ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดี รายงานระบุว่าเด็กๆ กลุ่มดังกล่าวกำลังมีภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคที่สามารถรักษาได้
ในปี 2018 ที่ผ่านมา สหประชาชาติระดมเงินทุนกว่า 111 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.54 พันล้านบาท) ช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดราว 6 ล้านคน โดย สเตฟานี ดูจาร์ริค โฆษกประจำสหประชาชาติ เผยว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีเหนือร้องขอให้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการขาดแคลนอาหารภายในประเทศ
รายงานระบุว่าผลผลิตในภาคเกษตรกรรมของเกาหลีเหนือลดต่ำลงอย่างมากในรอบทศวรรษ ขาดแคลนพื้นที่ที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ขาดแคลนเครื่องมือและเทคโนโลยีที่จะช่วยส่งเสริมให้การเกษตรมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังประสบปัญหาด้านภัยธรรมชาติอย่างหนัก โดยในปีที่ผ่านมาคลื่นความร้อนปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรพังเสียหาย อีกทั้งช่วงเดือนสิงหาคมยังได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น Soulik ทำให้สถานการณ์การขาดแคลนอาหารภายในประเทศวิกฤตมากยิ่งขึ้น
ด้าน ตาปัน มิชรา ผู้อำนวยการสหประชาชาติในเกาหลีเหนือ เผยว่าเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ราว 140,000 คนกำลังมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงขึ้นหลังจากสถานการณ์ต่างๆ เลวร้ายลง ปัญหาสำคัญในตอนนี้คือสหประชาชาติขาดแคลนเงินทุนที่จะช่วยเหลือ เส้นทางทางการเงิน รวมถึงแนวพรมแดนประเทศถูกปิดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงที่พยายามกดดันให้เกาหลีเหนือยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
