พฤษภาคมปีที่แล้ว Truly Scrumptious แนะนำตัวครั้งแรกในฐานะร้านเค้กในอินสตาแกรม ด้วยความอร่อยของเค้กอันหนักแน่น เข้มข้น ชุ่มฉ่ำ เลือกแต่วัตถุดิบเกรดเอมาทำ ร้านเค้กเจ้านี้จึงถูกกล่าวถึงและบอกต่อในวงกว้างจนต้องขยับจากการรับออร์เดอร์ออนไลน์มาเปิดหน้าร้านเป็นของตัวเองภายในระยะเวลาไม่ถึงปี
ดิ๋ง-นิดา สิงหเนตร และ แพรว-ชุลีอร ชลิตอาภรณ์ คือสองสาวหุ้นส่วนที่ชวนกันมาเปิดบ้านหลังใหม่ให้แบรนด์เค้กของตนเองในซอยสุขุมวิท 49/11 เพื่อเสิร์ฟความอร่อยจริงจังให้สมกับชื่อร้าน Truly Scrumptious ซึ่งเป็นคำที่คนอังกฤษชอบใช้ แปลตรงตัวได้ว่า ‘อร่อยจริงๆ’
ดิ๋ง สาวผู้รักการอบขนม เล่าให้ฟังว่า “ดิ๋งเริ่มทำขนมตั้งแต่เด็ก หัดด้วยตัวเองจากหนังสือบ้าง คนรู้จักบ้าง มาทำจริงจังตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพราะอยู่ที่อังกฤษต้องทำกับข้าวเอง ด้วยความที่เราอยู่เมืองนอก มีโอกาสไปหลายๆ ประเทศ ได้เห็นโลกในมุมกว้างขึ้น เลยได้เห็นขนมแปลกๆ ใหม่ๆ อย่างเค้กแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน เค้กที่อังกฤษจะเนื้อหนักหน่อย ถ้าเป็นญี่ปุ่น เค้กของเขาจะเบาๆ พอเรียนจบกลับมาทำงานที่เมืองไทยก็ยังทำเค้กอยู่ ทำเค้กให้เพื่อนๆ ในวันเกิดทุกปี จนมีคนพูดว่าทำไมไม่ลองทำขายดูล่ะ เลยทำขายในอินสตาแกรมควบคู่ไปกับการทำงาน” ด้วยเหตุนี้ ร้าน Truly Scrumptious จึงถือกำเนิดขึ้น ก่อนจะขายดีจนขยับขยายมามีหน้าร้านของตัวเอง โดยมี แพรว เพื่อนร่วมออฟฟิศที่ผันสถานะมาเป็นหุ้นส่วนคอยช่วยดูแลเรื่องรับออร์เดอร์
The Dishes
Signature Black Beer Cake (170 บาท) คือเมนูขายดีจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน แพรวเท้าความให้ฟังว่า “แบล็กเบียร์เป็นเมนูดั้งเดิมที่พี่ดิ๋งทำแล้วเพื่อนทุกคนชอบมาก เป็นเค้กที่พี่ดิ๋งทำให้เพื่อนในวันเกิดก่อนที่จะเปิดร้านอีก แบล็กเบียร์เค้กของพี่ดิ๋งอร่อยจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ตั้งแต่ตอนนั้น”
แบล็กเบียร์เค้กเป็นเค้กช็อกโกแลตเนื้อหนักที่มีส่วนผสมของเบียร์ดำ ด้านบนโปะครีมชีสหนานุ่ม โรยด้วยช็อกโกแลตชิป เมื่อกินด้วยกันให้รสนวลละมุนและความหอมเบียร์บางๆ ทางร้านยังทำเมนูพิเศษ Cognac Black Beer Cake (210 บาท) ทุกวันพุธ ที่ใส่คอนยัก (Cognac) เพิ่มเข้าไปในครีมชีส จนได้มิติรสชาติที่เพิ่มขึ้นจากแบล็กเบียร์เค้กแบบปกติ
Dark Chocolate Oreo Pie with Raspberries (210 บาท)
อีกหนึ่งเมนูสุดริช (Rich) คือ Dark Chocolate Oreo Pie with Raspberries (210 บาท) ด้วยเนื้อสัมผัสของ 3 เลเยอร์ ความกรุบของฐานพายที่ทำจากโอรีโอบิสกิต ความแน่นหนึบของดาร์กช็อกโกแลตที่หวานเจือขมกำลังดี และความสดชื่นของราสป์เบอร์รีสด สร้างสมดุลในรสชาติได้อย่างลงตัว
Basque Burnt Cheesecake (210 บาท)
Basque Burnt Cheesecake (210 บาท) เป็นเมนูที่เราไม่อยากให้พลาด ดิ๋งนำชีสเค้กชื่อดังสัญชาติสเปนมาถอดสูตรและปรับจนได้รสชาติที่พอใจ
“Basque Burnt Cheesecake มีต้นกำเนิดมาจากเมืองเมืองซาน เซบาสเตียน ประเทศสเปน ที่นั่นมีร้านอาหารชื่อ La Viña เป็นร้านแรกๆ ที่ทำเบิร์นชีสเค้กแล้วดังมากจนทุกคนต้องไปกิน ปกติถ้าคนเคยทำชีสเค้กจะรู้ว่าต้องใส่ถาดรองน้ำในเตาอบเพื่อให้หน้าเค้กไม่แตก ไม่ดำ แต่ที่นี่เขาแหกกฎหมดเลย ทำตรงกันข้าม เขาเบิร์นหน้าให้ไหม้ ซึ่งดิ๋งอยากไปซาน เซบาสเตียนมาก เพราะเป็นเมืองของนักชิมอาหาร แต่ก็ยังไม่มีโอกาส จนอ่านเจอสูตรที่มีคนพยายามทำตาม เราก็ดูจากหลายๆ ที่แล้วลองทำในแบบที่ตัวเองชอบ”
ชีสเค้กหน้าไหม้ของ Truly Scrumptious ให้รสชาติเปรี้ยวละมุนและเค็มติดที่ปลายลิ้น มีกลิ่นอายของชีสเค้กสไตล์นิวยอร์กผสมกับฟลาน (Flan) แบบสเปน ให้สัมผัสนุ่มหนึบและความหอมของชีสที่เกรียมกำลังดี เป็นความอร่อยแบบมีเอกลักษณ์
Signature Carrot Cake (165 บาท)
อีกเมนูซิกเนเจอร์ของสาวนักอบขนมที่ลูกค้าโปรดปรานตั้งแต่ยังไม่เปิดร้านคือ Signature Carrot Cake (165 บาท) เค้กแครอตเนื้อชุ่มที่เคี้ยวสนุกด้วยเท็กซ์เจอร์ของเนื้อแครอตขูดหยาบและวอลนัต หอมกลิ่นอบเชยบางๆ ปาดด้วยครีมชีสฟรอสติ้งหนา นุ่ม เนียน “ปกติขนมของเราจะอบวันต่อวัน แต่บางตัวทิ้งไว้ข้ามคืนจะอร่อยกว่า กินแล้วชุ่มกว่า อย่างเช่นแบล็กเบียร์เค้กและแครอตเค้กที่เราจะอบทิ้งไว้ แล้วค่อยประกอบเข้ากับครีมชีสที่ทำตอนเช้า รสชาติจะเข้าเนื้ออย่างเห็นได้ชัด” ดิ๋งบอกเคล็ดลับเพิ่มเติม
Chocoflan (165 บาท) และ Salted Caramel Pots de Creme (105 บาท)
Truly Scrumptious มีขนมหมุนเวียนเกือบ 30 รายการ ทั้งยังหมั่นออกเมนูใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น Chocoflan (165 บาท) เค้กช็อกโกแลตเนื้อชุ่มที่ด้านบนเป็นวานิลลาฟลาน ราดด้วยคาราเมลซอสเม็กซิกันที่เรียกว่า Cajeta และเพิ่งวางขายมาไม่ถึง 3 เดือน อีกทั้งเมนูล่าสุด Salted Caramel Pots de Creme (105 บาท) คัสตาร์ดครีมเนื้อเนียนหอมกลิ่นคาราเมล หวานเค็มตัดกันกำลังดี บรรจุมาในขวดแก้วขนาดเหมาะมือ
Salted Caramel Macchiato (120 บาท) และ Chocolate Darkness (120 บาท)
ทางร้านยังมีเครื่องดื่มให้สั่งแกล้มขนมทั้งกาแฟคั่วบดและชายี่ห้อคัดสรร แนะนำให้ลอง Salted Caramel Macchiato (120 บาท) และ Chocolate Darkness (120 บาท) ที่เป็นเมนูขายดีของทางร้าน
The Vibe
Truly Scrumptious ตกแต่งร้านในโทนอบอุ่น เพราะต้องการสื่อถึงความเป็นบ้านที่เสิร์ฟในขนมรูปแบบ ‘โฮมเมด’ ตัวร้านโดดเด่นด้วยสีเขียวที่ตัดกับสีดำสลับขาว โดยพ้นประตูด้านหลังออกไปมีพื้นที่กลางแจ้งให้นั่งละเลียดเค้กในบรรยากาศสวนหลังบ้าน และแม้จะมีหน้าร้านแล้ว แต่ลูกค้ายังสามารถสั่งเค้กออนไลน์ได้เหมือนเดิม ใครที่อยากสัมผัสว่าความอร่อยของเค้กที่แท้จริงเป็นอย่างไร เชิญชวนให้ลองสักครั้ง แล้วคุณจะเข้าถึงคำว่า ‘Truly Scrumptious’
Truly Scrumptious
Open: วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 9.00-17.00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.30-17.30 น. (หยุดวันจันทร์)
Address: 197/2 ซอยสุขุมวิท 49/11 ถนนสุขุมวิท
Budget: 80-245 บาท
Contact: 0 2019 8080
Facebook: www.facebook.com/TrulyScrumptiousBkk
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์