×

‘ไมอีลินกับพัฒนาการสมองสู่ความฉลาด’ แรงขับเคลื่อนอันสำคัญที่เริ่มสร้างได้ตั้งแต่ในครรภ์ [Advertorial]

10.04.2019
  • LOADING...

หนึ่งเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะเข้าใจกันมาเสมอในเรื่องระบบการทำงานของสมอง นั่นคือสมองซีกซ้ายเป็นเรื่องของตรรกะเหตุผล และสมองซีกขวาเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ทำงานแตกต่างกันหรือแยกออกจากกันตามกลไกของร่างกาย ซึ่งนั่นเป็นชุดความคิดที่ฝังอยู่ในสมองของพวกเรามาช้านาน แต่ในทางตรงกันข้าม เราได้เข้าร่วมพูดคุยและฟังการบรรยายของ ผศ.นพ.วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์ กุมารแพทย์โรคระบบประสาท อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าแท้จริงแล้วเจ้าสมองทั้งสองซีกที่เราพูดถึงกันนั้นล้วนทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบที่เรียกว่า Brain Connection

 

ลองทำความเข้าใจง่ายๆ ก่อนว่าการทำงานของสมองนั้นเป็นระบบที่ส่งผลต่อร่างกายในทุกภาคส่วน และกิจกรรมทุกอย่างของมนุษย์นั้นเกี่ยวข้องกับสมองที่ควบคุมอยู่ เช่น การเดิน การมองตามเสียง หรือการพูดโต้ตอบ เป็นเพราะการส่งสัญญาณหากันด้วยความรวดเร็วของสมองแต่ละส่วนนั่นเอง

 

ผศ.นพ.วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์

 

สิ่งหนึ่งที่นายแพทย์วรสิทธิ์ได้อธิบายในเรื่องพัฒนาการของสมองที่สอดคล้องกับช่วงวัย มนุษย์นั้นจะมีพัฒนาการของสมองสูงที่สุดคือในช่วง 2 ปีแรกของชีวิต เพราะน้ำหนักสมองของมนุษย์จะเติบโตอย่างรวดเร็วมากๆ ในช่วงนี้ จากเด็กทารกในวัย 1 ปีที่มีน้ำหนักของสมองเพียง 300400 กรัมโดยเฉลี่ย จะเติบโตไปเป็นสมองขนาด 1 กิโลกรัมในช่วงอายุ 3 ปีเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ในเรื่องของโภชนาการเท่านั้นที่สำคัญ แต่ยังรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กด้วย แต่กลไกที่สำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนาสมองของเด็กในช่วงวัยนี้คือการจะทำอย่างไรให้การเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน (Brain Connection) เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเราก็ได้รู้จักกับส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในสมองของที่เรียกว่า ไมอีลินผู้ช่วยคนเก่งของสมอง

 

ภายในสมองของเรา แต่ละเซลล์ประสาทจะมีสิ่งที่เรียกว่าแขนงประสาทนำออก หรือ Axon เชื่อมโยงต่อกันเป็น วงจรประสาทซึ่งทำหน้าที่ส่งสัญญาณจากเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่ง และมีไมอีลินที่จะช่วยส่งสัญญาณประสาทไปยังส่วนอื่นๆ ในระยะเวลาที่รวดเร็ว ที่โดยปกติแล้ววงจรประสาทจะมีการส่งสัญญาณกันเป็นทอดๆ จากหนึ่งไปสอง สองไปสาม สามไปสี่ แต่เจ้าปลอกไมอีลินนี้จะช่วยให้การส่งสัญญาณก้าวกระโดดจากหนึ่งไปสี่ หรือสี่ไปแปด ซึ่งไมอีลินนั้นสร้างได้มากตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึง 2 ปีแรกของชีวิต

 

หนึ่งในสารอาหารสำคัญที่จะช่วยสร้างไมอีลินคือ สฟิงโกไมอีลิน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะพบได้มากในนมแม่ นม และผลิตภัณฑ์นม เช่น ครีม ชีส ซึ่งในนมแม่ 100 ซีซี จะมีปริมาณสารสฟิงโกไมอีลินนี้กว่า 8.28 มิลลิกรัม(1) เพราะฉะนั้นเด็กทารกจึงควรได้รับอย่างเต็มที่ เพราะนมแม่เป็นแหล่งของไขมันชั้นดี ซึ่งรวมถึงสฟิงโกไมอีลินด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าทารกที่ได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนจะมีปริมาณไมอีลินในสมองเพิ่มขึ้น และมีความสัมพันธ์กับผลการประเมินการเรียนรู้ที่ดีขึ้นอีกด้วย

 

 

นอกจากนี้ ดร.นพ.วิทยา สังขรัตน์ อาจารย์จากภาควิชารังสีวิทยาและศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (AIMC) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าในปัจจุบันสามารถตรวจวัดการทำงานของสมองได้ด้วยเครื่องสร้างภาพสนามแม่เหล็ก (MRI) ซึ่งในระหว่างทดสอบการทำงานของสมอง พบว่าถ้ามีกิจกรรมหนึ่งเกิดขึ้น สมองจะมีการทำงานเชื่อมโยงในส่วนต่างๆ หลายที่ อีกทั้งยังสามารถตรวจจับแนวเครือข่ายใยสมองและความสมบูรณ์ได้ ส่วนไมอีลินซึ่งเป็นส่วนประกอบของใยสมองก็สามารถตรวจให้เห็นและวัดได้แล้ว  

 

เมื่อสามารถศึกษาและวินิจฉัยระบบประสาทของมนุษย์ได้โดยละเอียดแล้ว พบว่าสมองของมนุษย์นั้นทำงานเป็นเครือข่าย (Brain Connection) ไม่แบ่งซ้ายขวาอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ทั้งยังสามารถพัฒนาได้อยู่ตลอดเวลา เพราะระบบประสาทมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นายแพทย์วิทยาเองได้แสดงผลของการฝึกฝนที่ตรวจได้ด้วยเครื่องสร้างภาพสนามแม่เหล็ก ดังนั้นในการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ เนื่องจากมนุษย์จะไม่สามารถรับรู้ เก่งกาจ หรือฉลาดได้ในทันที เด็กควรได้เรียนรู้ทักษะและฝึกฝน เช่น ให้เด็กๆ ได้คุ้นเคยกับสิ่งที่เขาสนใจ อาจเป็นเรื่องของดนตรี ศิลปะ กีฬา ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมให้เขาได้พัฒนาระบบประสาทและสมองได้ตั้งแต่เยาว์วัย ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคุณพยายามให้พวกเขาได้พัฒนาตัวเองและฝึกฝนในเรื่องที่พวกเขาสนใจแล้ว โภชนาการเองก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยให้มีการเสริมสร้างและการทำงานของระบบประสาทและสมองดีขึ้น อนึ่ง สฟิงโกไมอีลินเป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญในการสร้าง ‘ไมอีลินซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน นั่นคือระบบเครือข่ายใยสมองในการพัฒนาเสริมสร้างสมอง ซึ่งจะส่งผลไปยังพัฒนาการของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่โลกของเราหมุนไปอย่างรวดเร็วจนแทบตามไม่ทัน หากเด็กๆ ได้รับการพัฒนาศักยภาพของสมองให้ควบคู่สอดคล้องไปกับช่วงวัย ก็นับว่าเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ ได้เติบโตเท่าทันโลก มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรู้ความสามารถ เพื่อให้พร้อมเติบใหญ่และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมนี้อย่างแข็งแรง


#สฟิงโกไมอีลิน

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: Thakkar SK 2013(1)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising