×

TASTE: เรือนจรุง อยุธยา ร้านอาหารไทยที่ต้องจองคิวกินข้ามปี

16.12.2021
  • LOADING...
เรือนจรุง อยุธยา

HIGHLIGHTS

  • สิ่งที่ทำให้เรือนจรุงเป็นที่สนใจนอกจากเมนูอาหาร คือ วิธีการจองที่แปลกแหวกแนวกว่าร้านอื่นๆ เพราะที่ผ่านมามีทั้งให้จองทาง LINE ที่เต็มทั้งปีภายในระยะเวลา 8 วินาที ต้องเขียนจดหมายส่งไปรษณีย์แนะนำตัวเองมาจอง หรือให้เล่นเกมทายเมนูอาหารในจานเปล่าที่เสิร์ฟในเรือนจรุง ใครตอบถูกมากที่สุดและเร็วที่สุดก็จะได้รับคิวไป 
  • อาหารเป็นสูตรของทางบ้าน ‘เหมียว’ ที่เป็นชาวอยุธยา และบ้าน ‘ปุ๋ม’ ที่เป็นคนอำเภอศรีราชา สูตรอาหารจึงผสมกันระหว่างโทนเผ็ดเค็มของอยุธยา และความหวานกลมกล่อมของศรีราชา เมนูอาหารของที่นี่จึงมีรสชาติที่ครบมิติ ไม่โดดไปในทางใดทางหนึ่ง อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบที่ดีเหมาะสมกับอาหารแต่ละจาน
  • ทางร้านมีเพียง 2 โต๊ะใหญ่ และเปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ วันละ 3 รอบ ได้แก่ รอบ 11.00 น., 14.00 น. และ 18.00 น. เมื่อได้คิวแล้วต้องแจ้งจำนวนคนและอาหารที่จะสั่งล่วงหน้า แต่จะมากรุ๊ปละกี่คนก็ได้ ดังนั้น คำแนะนำจากเราคือให้จองไปก่อน เมื่อได้คิวแล้วค่อยรวมกลุ่มกันมา เพราะอาหารมาในจานที่ค่อนข้างใหญ่ หากมากันหลายคนจะได้สั่งมาลองกันหลายๆ อย่าง

จากจุดเริ่มต้นที่อยากเป็นเพียงโฮมสเตย์ให้เพื่อนฝูงมาพักค้างแรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ปัจจุบัน ‘เรือนจรุง’ ได้กลายมาเป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อว่าจองยากที่สุดในเมืองไทย หลังทำสถิติจองเต็มภายในระยะเพียง 8 วินาที จนเป็นที่มาของ ‘เรือนจรุง 8 วิ’ 

 

เรือนจรุง หรือ บ้านที่มีกลิ่นหอม เป็นร้านอาหารไทยที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวร้านโดดเด่นด้วยการดัดแปลงเอาบ้านเรือนไทยริมน้ำของ จรัส ภาคอัด หรือ ลุงเหมียว เรือนจรุง ผู้เป็นเจ้าของ มาทำเป็นร้านอาหาร โดยแรกเริ่มตั้งใจทำเป็นที่พักและเสิร์ฟอาหารง่ายๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อมีคนมากินอาหารฝีมือบ้านลุงเหมียวบ่อยครั้งเข้า เกิดติดใจในรสชาติอาหาร เลยแนะนำกันปากต่อปาก ทำให้มีคนที่ไม่รู้จักเริ่มติดต่อเข้ามา และด้วยความที่ในช่วงแรกเปิดขายแค่วันละรอบ รอบละ 1 โต๊ะเท่านั้น คนจึงยิ่งสนใจ อยากมาลองรสชาติอาหารบ้านๆ ที่ไม่ธรรมดาแห่งนี้ 

 

“เรือนจรุงเกิดขึ้นตอนที่ผมว่างงาน เมื่อก่อนทำงานสายโปรดักชัน สายทีวี พอว่างงานก็เลยมาปลูกบ้านหลังนี้ฆ่าเวลา แต่พอยิ่งมาอยู่ที่นี่นานๆ เราก็รู้สึกชอบ ประจวบกับงานที่เราไม่มีเข้ามาเลย ระหว่างทางที่สร้างเรือนหลังนี้ก็โพสต์เฟซบุ๊กตลอดว่าเราขึ้นเสาแล้ว มีหลังคาและบันไดแล้ว เพื่อนในเฟซบุ๊กเห็นการเจริญเติบโตของที่นี่ตลอด 2 ปี วันหนึ่งก็อยากจะมา เลยคิดแค่ว่าถ้าอย่างนั้นเอาบ้านหลังนี้มาทำอะไรกันดีกว่า เปิดเป็นโฮมสเตย์ให้คนมานอนพัก แล้วก็ทำอาหารให้เขากินกัน เก็บหัวละ 700-800 บาท 

 

“พอทำไปได้แค่สองสัปดาห์ มีคนมาแค่ 1-2 กลุ่ม เรารู้สึกว่าจริตของเราไม่ใช่คนที่มี Service Mind ขนาดนั้น เราไม่ได้แบบว่า เชิญครับ มานอนนะครับ เช้าเดี๋ยวต้องมาทำข้าวต้ม จริตเราไม่ใช่แบบนั้น เราไม่ได้เป็นคนบริการคนอื่น และการดูแลคนประมาณ 24 ชั่วโมง รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรา เลยให้มากินข้าวอย่างเดียวแล้วกัน กินเสร็จแค่ 2 ชั่วโมงก็กลับไป เราก็ดูแลแค่นั้น หลังจากนั้นก็ขายข้าวอย่างเดียว” ลุงเหมียวเล่าให้ฟังถึงจุดเปลี่ยนของเรือนจรุงที่กลายมาเป็นร้านอาหารอย่างเต็มตัว  

 

แต่สิ่งที่ทำให้เรือนจรุงเป็นที่สนใจ นอกจากเมนูอาหาร คือ วิธีการจองที่แปลกแหวกแนวกว่าร้านอื่นๆ เพราะที่ผ่านมามีทั้งให้จองทาง LINE ที่เต็มทั้งปีภายในระยะเวลา 8 วินาที ต้องเขียนจดหมายส่งไปรษณีย์แนะนำตัวเองมาจอง หรือให้เล่นเกมทายเมนูอาหารในจานเปล่าที่เสิร์ฟในเรือนจรุง ใครตอบถูกมากที่สุดและเร็วที่สุดก็จะได้รับคิวไป เหล่านี้คือวิธีการโปรโมตร้านที่นอกจากจะอยากกินแล้วยังไม่พอ แต่ต้องมีความพยายามร่วมด้วย ผ่านมา 4 ปี เรือนจรุงจึงเป็นร้านอาหารที่พอใครได้ฟังเรื่องราวก็อยากมาเยือนสักครั้ง ด้วยรสชาติอาหารและความน่าสนใจ บวกกับความยากในการจอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ต่อให้คิวยาวขนาดไหน แต่เรือนจรุงก็ยังเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่นักกินจำนวนไม่น้อยเฝ้ารอคอย     

   

เรือนจรุง อยุธยา

 

คอนเซปต์อาหารไทยแบบครัว ‘สอง’ แม่

อย่างที่บอกว่าจุดเริ่มต้นของเรือนจรุงเกิดจากเมนูอาหารที่ทำกินกันเองในครอบครัว เป็นสูตรของทางบ้าน ‘เหมียว’ ที่เป็นชาวอยุธยา และบ้าน ปุ๋ม-อมอร สิงหเสนี แฟนของเหมียวที่เป็นคนอำเภอศรีราชา สูตรอาหารจึงผสมกันระหว่างโทนเผ็ดเค็มของอยุธยา และความหวานกลมกล่อมของศรีราชา เมนูอาหารของที่นี่จึงมีรสชาติที่ครบมิติ ไม่โดดไปในทางใดทางหนึ่ง อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบที่ดีเหมาะสมกับอาหารแต่ละจาน

ทางร้านจึงตัดปัญหาเรื่องการกักตุนวัตถุดิบ ด้วยการให้ลูกค้าสั่งอาหารล่วงหน้าก่อนเข้ามากินที่ร้าน โดยเลือกจากเมนู 50 รายการ ไม่มีการสั่งเพิ่มเติมที่ร้าน เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อลูกค้าเข้ามากินอาหารที่นี่จะได้กินเมนูที่ตัวเองอยากลิ้มลองจริงๆ  

 

ส่วนเมนูเด่นประจำร้านที่สั่งแทบทุกโต๊ะ มีทั้งจานที่รสชาติจัดจ้านและจานที่รสค่อนข้างเบา เริ่มจาก น้ำพริกสองแม่ (900 บาท) ซึ่งเป็นน้ำพริกกะปิในถาดไม้ทรงกลม จัดแต่งด้วยผัดสด ผัดลวก ผัดชุบแป้งทอด และปลาทู มีน้ำพริก 2 ถ้วย ซึ่งเป็นน้ำพริกกะปิรสมือแม่ของลุงเหมียว รสออกไปทางเปรี้ยว เค็ม เผ็ด และอีกถ้วยเป็นสูตรของบ้านศรีราชาที่มีรสอ่อนกว่า ไม่เผ็ดมาก ถ้วยนี้จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจคนกรุงเทพฯ   

 

เรือนจรุง อยุธยาน้ำพริกสองแม่ (900 บาท)



ยำจรุง (350 บาท) ใช้ผักสวนครัวปลูกที่สวนของทางบ้าน เช่น เห็ดนางฟ้า ถั่วฝักยาว ผักบุ้งนา ดอกแคแดง ใบจิงจูฉ่าย ฯลฯ เสิร์ฟพร้อมน้ำยำสูตรทางร้านและน้ำยำต้นมะขาม แล้วแต่ว่าใครชอบรสออกหวานหรือเผ็ดจัดจ้าน 

 


เรือนจรุง อยุธยา

ยำจรุง (350 บาท) 

 

พะโล้ในตำนาน (450 บาท) เด่นที่น้ำแกงงวดเข้าที่เข้มข้น เนื้อไข่มีความแข็งเพราะน้ำแกงซึมเข้าไปในไข่ หนึ่งที่มาพร้อมไข่ไก่ 7 ใบและหมู 4 ขีด เรียกได้ว่าเป็นพะโล้ชามใหญ่เลยทีเดียว  

 

 

พะโล้ในตำนาน (450 บาท)


ปลาเห็ด (600 บาท) หรือ ทอดมัน ทางร้านใช้เนื้อปลากรายอย่างดีปริมาณครึ่งกิโลกรัมสำหรับทำทอดมัน 6 ชิ้น นำมาตำกับเครื่องแกงแล้วทอด ตัวทอดมันมีความเหนียวหนึบสู้ฟันได้รสชาติเนื้อปลา

 

 

ปาเห็ด (600 บาท)

 

แกงเลียง (450 บาท) ทางร้านเสิร์ฟแบบน้ำขลุกขลิก รสเข้มข้นค่อนข้างเผ็ดร้อนจากพริกไทยและเครื่องแกง ส่วนความข้นได้มาจากกุ้งสดและกุ้งแห้งที่ตำผสมกัน ซดน้ำแต่ละคำจึงได้กินเนื้อเข้าไปด้วย ต่างจากแกงเลียงใสๆ ที่เคยเห็นกัน

 

เรือนจรุง อยุธยาแกงเลียง (450 บาท)

 


ไข่ตุ๋น (350 บาท) จานนี้มีเบื้องหลังมาจากลุงเหมียวไปบ้านแฟนที่ศรีราชา แล้วพบว่าร้านเหล้าที่นั้นมีเมนูไข่ตุ๋นหม้อไฟทะเลทุกร้าน เลยลองปรับสูตรมาใส่ในเรือนจรุง เนื้อไข่ตั้งใจให้ไม่เนียนแต่ขอฟูๆ เห็นเป็นโพรงด้านใน รสชาติอ่อน หลายคนจึงนิยมสั่งมาดับความเผ็ดร้อนจากจานอื่นๆ ถือเป็นอีกจานที่ได้รับความนิยม 

 

  ไข่ตุ๋น (350 บาท) 

 

เนื้อผัดหน่อไม้ (500 บาท) เมนูประจำตระกูล เพราะทางบ้านปลูกหน่อไม้มาตั้งแต่สมัยยังไม่เปิดร้าน ใครไปใครมาก็มักให้ที่บ้านลุงเหมียวทำให้กินเสมอ เมื่อมาเปิดร้านจึงกลายเป็นเมนูประจำยอดนิยม รสจานนี้ไปทางเผ็ดร้อนด้วยเครื่องแกง เนื้อเหนียวเคี้ยวสนุกตัดกับความกรอบของหน่อไม้ ถูกใจคนชอบอาหารรสจัด 

 

เนื้อผัดหน่อไม้ (500 บาท)


ส่วนเมนูใหม่ประจำปี 2565 ได้แก่ ซี่โครงหมูปลาเค็ม (550 บาท) ออกไปทางอาหารจีน ด้วยการผสมเหล้าจีน น้ำมันงา ฯลฯ ใช้หมูสามส่วน ได้แก่ ซี่โครงหมูอ่อน กระดูกใบพาย และหางหมูที่นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพิ่มรสสัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว นับเป็นอีกจานที่รสไม่จัด



ซี่โครงหมูปลาเค็ม (550 บาท)


ไก่รวนปลาร้า (350 บาท) คล้ายต้มยำไก่แห้งที่ตัวน้ำใช้ปลาร้าทรงเครื่อง ใส่เนื้อไก่บ้านรวนส่วนน่อง สะโพก และปีกให้น้ำพอขลุกขลิก มีไข่อ่อน และเครื่องใน น้ำจึงออกสีขาวขุ่น รสชาติออกไปทางเค็มนำเหมาะกับการกินคู่ข้าวสวยร้อนๆ 

 

เรือนจรุง อยุธยาไก่รวนปลาร้า (350 บาท)

 

นอกจากอาหารคาวแล้ว เรือนจรุงยังมีของหวานที่ต้องสั่งล่วงหน้าอย่างตะโก้ริมทุ่ง และมะม่วงหาวมะนาวโห่ รวมถึง ข้าวต้มมัดสูตรลพบุรี (150 บาท) ใส่เผือกและกล้วย ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย
 

เรือนจรุง อยุธยาข้าวต้มมัดสูตรลพบุรี (150 บาท) 

 


ใครสนใจอยากมาลองอาหารที่เรือนจรุงดูสักครั้ง แนะนำให้คอยติดตามที่เพจเฟซบุ๊กของทางร้าน  https://www.facebook.com/ruenjarung.ayutthaya.real.chillin.house/ เพราะขั้นตอนการจองค่อนข้างซับซ้อน บวกกับข้อจำกัดอย่างทั้งร้านมีเพียง 2 โต๊ะใหญ่ และเปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ วันละ 3 รอบ ได้แก่ รอบ 11.00 น., 14.00 น. และ 18.00 น. เมื่อได้คิวแล้วต้องแจ้งจำนวนคนและอาหารที่จะสั่งล่วงหน้า แต่จะมากรุ๊ปละกี่คนก็ได้ ดังนั้นคำแนะนำจากเราคือให้จองไปก่อน เมื่อได้คิวแล้วค่อยรวมกลุ่มกันมา เพราะอาหารมาในจานที่ค่อนข้างใหญ่ หากมากันหลายคนจะได้สั่งมาลองกันหลายๆ อย่าง เพราะเรายังยืนยันอีกครั้งว่าเรือนจรุงคงไม่ใช่ร้านอาหารที่คุณจะได้มาบ่อยๆ เหมือนร้านอื่นแน่นอน 

 

เรือนจรุง
Location: 67 ถนนองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเลนหมู่ 11 ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13160
Open: ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น
Budget: 1,000 บาทขึ้นไป
Contact: https://www.facebook.com/ruenjarung.ayutthaya.real.chillin.house/
Map: 

 

 

FYI
  • เรือนจรุง เปิดขายเดลิเวอรีที่ออร์เดอร์ล่างหน้าเดือนละครั้ง สนใจเข้าไปดูเมนูอาหารและกำหนดวันเปิดได้ที่เพจของทางร้าน www.facebook.com/ruenjarung.ayutthaya.real.chillin.house/ 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising