หากการได้ขึ้นแสดงโชว์ครั้งแรก หรือเปิดตัวครั้งแรกของศิลปินเกาหลีเรียกว่าวันเดบิวต์ เราว่าการปล่อยมื้อค่ำในธีม ‘French Fine’ ของเชฟแบม-ธนโชติ ดลชลัยย์กร ก็ถือเป็นการเดบิวต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการให้กับทีมงานและร้าน Rare BKK ของเขาบนถนนนครไชยศรีเช่นกัน
เชฟแบมเล่าให้ฟังว่า เมื่อรู้ตัวว่าชอบทำอาหาร เขาก็ได้ไปเรียนทำอาหารจากโรงเรียนสอนการประกอบอาหารเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต และได้ไปฝึกงานหลังครัวของห้องอาหารในโรงแรมหลายแห่ง เป็นที่มาให้เชฟชวนเพื่อนๆ ร่วมรุ่นเดียวกันมาเริ่มทำร้านอาหารแห่งนี้ด้วยกัน ซึ่งตอนแรกอาจจะเรียกได้ว่าเป็นห้องทดลอง เพราะเชฟได้ใช้ส่วนหนึ่งของบ้านของเขาเองทำห้องครัว กั้นห้องอาหาร ทดลองทำอาหารแจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านได้ชิม พัฒนามาเรื่อยๆ จนตอนนี้ห้องทดลองที่ว่ากลายเป็นร้านอาหาร Rare BKK เต็มตัวในรูปแบบ Chef’s Table ขนาด 4 โต๊ะ รับลูกค้าทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ
ความเป็น Rare BKK เชฟอธิบายว่า เขาต้องการใช้วัตถุดิบที่หายากและพิเศษมากๆ มาปรุงอาหารในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งเมนูในตอนนี้นำเสนอออกมาในธีม ‘French Fine’ ที่หยิบเอาวัตถุดิบจากหลายๆ แหล่งมาปรุงด้วยเทคนิคครัวฝรั่งเศสที่เขาและทีมเทรนมา เล่าเรื่องราวของทั้ง 11 คอร์สผ่านทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถูกแสดงออกผ่านวัตถุดิบที่ใช้และการนำเสนอ
หลังจาก Amuse Bouche เราเริ่มด้วย Island ที่เชฟเลือกใช้ปลากะพงเป็นไส้ในทอร์เทลลินี วางเสิร์ฟบนเกาะเล็กที่ทำจากเห็ดสามชนิด ก่อนเทซุปคอนซอมเม่จากเห็ดชิตาเกะลงไป ต่อด้วย Ocean ที่เลือก Hotate จากญี่ปุ่นเป็นวัตถุดิบหลักทานกับทรัฟเฟิลซอสและโฟมจากหน่อไม้ฝรั่ง
Land เป็นคอร์สที่เสิร์ฟขนมปังโฮมเมดมาคั่นกลางก่อนเข้าจานถัดไป ซึ่งขนมปังจะเสิร์ฟมากับเนยและพาร์มาแฮมที่ทางร้านบ่มด้วยตัวเอง ตามด้วย Lake จานที่เสิร์ฟกุ้งโบตั๋นเป็นสะพานข้ามทะเลสาบที่ทำจากกะหล่ำและน้ำมันโหระพา
Rock เป็นจานหนึ่งที่น่าสนใจ เชฟเลือกใช้หอยเป๋าฮื้อ Jade Tiger นำมาปรุงกับสมุนไพรและเนยเช่นเดียวกับการทำ Escargot เขายังใช้กากน้ำตาลจากภาคใต้ที่เรียกว่าแซซากามาเป็นเครื่องปรุงด้วย เชฟบอกว่าตัวแซซากาหาค่อนข้างยากเพราะปีหนึ่งจะมีแค่ครั้งเดียว
Wild เข้าเมนคอร์ส เชฟเลือกใช้เนื้อสันคอวากิว A5 ทานกับจูลส์ที่ทำจากกระดูกและไขกระดูกวัวเคี่ยวนาน 48 ชั่วโมง ข้างๆ มีฟัวกราส์เทอรีนและถั่วพิสตาชิโอที่มาช่วยเพิ่มรสสัมผัสในคำนี้ได้ดี เมื่อทานเมนคอร์สเรียบร้อย เชฟปิดท้ายด้วยของหวานในชื่อ Forest ขนมที่ซ่อนมาในรูปร่างของเห็ดสีแดง วางบนครัมเบิลและกิ่งไม้ทำจากช็อกโกแลต และจบจริงๆ ด้วย Petit Four ช็อกโกแลต มาการอง และฟินองเซีย
นอกเหนือจากได้ชิมอาหารทั้ง 11 คอร์สแล้ว ‘French Fine’ สำหรับเราคิดว่ามันคือการทำให้เหล่านักชิมได้ทำความรู้จักกับมุมมองในการทำอาหารและไอเดียของเหล่าเชฟหลังครัว Rare BKK ทุกคน ซึ่งจริงๆ ทางร้านยังมีแท็กไลน์ว่า The Grilled & Smoke Studio ที่เป็นความชอบส่วนตัวของเชฟ และก็น่าสนใจไม่น้อยว่าเราจะมีโอกาสได้เห็นเทคนิคเหล่านี้เยอะขึ้นในเมนูถัดไปหรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามกันดูต่อไป
11 คอร์สเมนู French Fine ราคา 2,800 บาทต่อท่าน ดูรายละเอียดการจองได้ทาง https://www.facebook.com/Rarebkk
Rare BKK
Open: วันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 12.00-14.00 น. (มื้อกลางวัน), 17.00-19.00 น. และ 19.30-21.30 น. (มื้อเย็น)
Address: 258/25 ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต
Budget: 2,800 บาท
Contact: 08 1939 9949
ภาพ: Courtesy of the Restaurant
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
