×

CRC – พรีวิว 1Q66 คาดกำไรปรับตัวดีขึ้น YoY

02.05.2023
  • LOADING...
CRC 1Q66

เกิดอะไรขึ้น:

InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q66 ของ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 15 พฤษภาคม 2566s

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CRC ปรับลดลง 0.56%MoM อยู่ที่ระดับ 44.75 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 4.84%MoM อยู่ที่ระดับ 1,529.12 จุด

 

พรีวิวผลประกอบการ 1Q66:

ผลประกอบการ 1Q66 คาด CRC รายงานกำไรสุทธิที่ 1.85 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 54%YoY แต่ลดลง 44%QoQ หากไม่มีรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.85 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 68%YoY เนื่องจากยอดขายปลีกและรายได้จากการให้เช่าที่ดีขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น จะมากเกินพอชดเชยอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายที่สูงขึ้น แต่ลดลง 31%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

 

สำหรับรายการที่สำคัญใน 1Q66 มีดังนี้

 

  1. ยอดขายปลีก คาดว่าจะเติบโต 14%YoY จากการฟื้นตัวของยอดขายสาขา (SSS) และการขยายสาขา ซึ่งคาดว่า SSS (ค่าเฉลี่ยอย่างง่ายจำแนกตามประเภทธุรกิจ) จะเติบโต 12%YoY (เทียบกับเพิ่มขึ้น 11%YoY ใน 1Q65 และเพิ่มขึ้น 7.7%YoY ใน 4Q65) จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว นักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และมาตรการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ในประเทศไทยที่สามารถนำค่าซื้อสินค้าหรือบริการจำนวนไม่เกิน 40,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ SSS สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 2-3%
     
    เมื่อจำแนกตามประเทศ SSS น่าจะเติบโต 15%YoY ในประเทศไทย 30%YoY ในอิตาลี และทรงตัว YoY ในเวียดนาม เมื่อจำแนกตามกลุ่มธุรกิจ SSS น่าจะเติบโต 30% ในกลุ่มแฟชั่น 7.5% ในกลุ่มฟู้ด และ 1% ในกลุ่มฮาร์ดไลน์ ทั้งนี้ กลุ่มฮาร์ดไลน์ได้รับผลกระทบจาก SSS ที่หดตัวลง 20%YoY ของเหงียนคิม (ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในเวียดนาม) ซึ่งคิดเป็น 20% ของยอดขายกลุ่มฮาร์ดไลน์ของ CRC จากฐานสูงของปีก่อนหลังจากกลับมาเปิดร้านหลังยกเลิกข้อจำกัดเพื่อควบคุมโควิด
     
    การหยุดชะงักของยอดขายในปีนี้จากการปรับปรุงร้านและอุปสงค์ตลาดที่อ่อนแอ ในขณะที่ SSS ของ Power Buy และไทวัสดุในประเทศไทย เติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำถึงกลาง YoY

 

  1. รายได้จากการให้เช่า คาดว่าจะเติบโต 30%YoY จากการมีพื้นที่ให้เช่ามากขึ้นในศูนย์การค้าใหม่ และอัตราการเช่าพื้นที่และอัตราค่าเช่าที่ดีขึ้น

 

  1. อัตรากำไรขั้นต้น จะเพิ่มขึ้น 220bps YoY สู่ 27.4% โดยเกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้นในธุรกิจค้าปลีกสู่ 25.5% (เพิ่มขึ้น 200bps YoY) จากการมีสัดส่วนการขายที่ดีขึ้นเพราะยอดขายกลุ่มแฟชั่นที่ให้มาร์จิ้นสูงเติบโตเพิ่มขึ้นและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากทุกกลุ่ม และในธุรกิจให้เช่าสู่ 75% (เพิ่มขึ้น 300bps YoY) จากอัตราการเช่าพื้นที่และอัตราค่าเช่าที่ดีขึ้น

 

  1. ค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขาย จะอยู่ที่ 29.1% เพิ่มขึ้น 110bps YoY เพราะค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาเพิ่มขึ้น แต่ลดลง 190bps QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดลดลงเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายจากการฉลองครบรอบ 75 ปีของ Central เหมือนในไตรมาสก่อนหน้า

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

ใน 2Q66TD ประเมินได้ว่ายอดขายสาขา (SSS) จะเติบโตใกล้เคียงกับ 1Q66 ที่ระดับสูงกว่า 10%YoY (เติบโตดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์นับถึงปัจจุบัน) โดยเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ SSS คาดว่าจะเติบโต 20-25%YoY ในกลุ่มแฟชั่น และ 2-3%YoY ทั้งในกลุ่มฮาร์ดไลน์และกลุ่มฟู้ด

 

ด้วยยอดขายปลีกและรายได้จากการให้เช่าที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นจากการมีสัดส่วนการขายที่ดีขึ้นเพราะยอดขายกลุ่มแฟชั่นที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัว จึงคาดว่ากำไร 2Q66 จะเติบโต YoY แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

 

ขณะที่กำไรปกติปี 2566 คาดจะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นและมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research คงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ CRC ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF (WACC ที่ 7.1% และอัตราการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%) ที่ 52 บาทต่อหุ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising