ปลายปี 2563 ที่ผ่านมา เชฟก้อง-ก้องวุฒิ ชัยวงศ์ขจร แห่ง Locus Native Food Lab จังหวัดเชียงราย เล่าให้เราฟังว่า เขาและภรรยากำลังจะเปิดร้านน้ำผักสกัดธรรมชาติ ซึ่งด้วยความที่เป็นคนที่เชื่อในทฤษฎีอาหารเป็นยา และการรักษาโรคด้วยอาหารอยู่เป็นทุนเดิม ทำให้คิดถึงเรื่องของน้ำผักสกัดเย็น ประจวบเหมาะกับห้องแถวบนถนนสิงหไคลติดกับร้านกาแฟ Couple Cups ร้านประจำของเชฟว่างให้เช่าพอดี จึงตัดสินใจเช่าทันทีด้วยความตั้งใจที่อยากทำอะไรดีๆ ให้กับสังคม
“เครื่องนี้ดีนะ ดีมากเลย แต่ต้องรวยถึงจะกินได้” ก้องเล่าให้ฟังว่า เมื่อนำไอเดียไปปรึกษากับคุณหมอนักโภชนาการท่านหนึ่ง คุณหมอแนะนำเครื่องสกัดน้ำผักผลไม้ที่เรียกว่า Hydraulic Press Juicer ที่มีประสิทธิภาพดีแต่ราคาสูง แต่ประโยคข้างต้นของคุณหมอยิ่งเป็นจุดผลักดันให้เกิดโปรเจกต์นี้ขึ้น “สุขภาพกับเงินมันเป็นคนละเรื่อง ต่อให้ในยุคนี้มันแทบจะแยกกันไม่ขาด ผมคิดว่าแล้วทำไมเราไม่ซื้อมาใช้ อย่างน้อยคนในครอบครัวของเราก็ได้ใช้ และเมื่อใช้ในร้าน มันก็เป็นการแบ่งปันสิ่งที่ดีให้กับสังคม” เชฟก้องเสริม และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เชฟก้องและน้ำหวาน (ภรรยาของเชฟ) ได้ชวนครอบครัว Farm to Table อย่าง จอย-จิรภัสร เจียรรุ่งแสง, เจี๊ยบ-พรรณสุนันท์ พินิจพิชิตกุล และ จิ๊บ-จิราภา เจียรรุ่งแสง เข้ามาร่วมสร้างโปรเจกต์นี้ด้วยกัน ร่วมด้วย แอน-พชิรารัชต์ กิตติศรัญเกียรติ ลูกค้าประจำของเชฟก้อง อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ซึ่งเลือกใช้อาหารอย่างน้ำผักในการรักษาจนหายดี แล้วโปรเจกต์ ‘พะลัง’ ก็เกิดขึ้น
เมื่อคุณเดินเข้ามาในร้าน สิ่งแรกที่สังเกตได้เลยคือมุมเล็กๆ ที่แบ่งไว้สำหรับขายผักผลไม้จากเกษตรกรในเชียงราย เชฟก้องเล่าให้เราฟังว่า การทำน้ำผักเพื่อสุขภาพ วัตถุดิบเป็นเรื่องสำคัญ ต้องแน่ใจว่าปลูกแบบอินทรีย์และปลอดสารเคมีจริงๆ เพื่อที่ผู้ป่วยจะสามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการซื้อผลผลิตจากเกษตรกรอินทรีย์เป็นหนึ่งวิธีในการช่วยเหลือพวกเขา ทั้งนำมาใช้ในร้านและขายสด
วัตถุดิบหลักๆ ปลูกจากพื้นที่ของครอบครัว Farm to Table ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์มาอย่างยาวนาน รวมถึงเกษตรที่อยู่ในกลุ่ม PGS Organic (Participatory Guarantee Systems) หรือกลุ่มของเกษตรกรที่ต้องการปลูกและแปรรูปผักผลไม้ และผลิตภัณฑ์ด้วยระบบอินทรีย์ ความน่ารักคือในทุกๆ ตะกร้าผักคุณจะได้เห็นชื่อของเกษตรกรผู้ปลูก รวมถึงสามารถแสกน QR Code เข้าไปทำความรู้จักและดูผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้เลย
ถัดมาคือทุกก๊อกน้ำในร้านเป็น RO (Reverse Osmosis) จากเครื่องกรองน้ำที่สามารถดื่มได้ จากนั้นจะนำมาลงในบ่อโอโซน อย่างน้อย 45-60 นาที เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกบนพื้นผิว เพื่อให้แน่ใจว่าได้วัตถุดิบพร้อมใช้ที่สะอาดที่สุด
จากทางหน้าร้าน คุณจะสังเกตุเห็นสัญลักษณ์วงกลมคล้ายรูปพระอาทิตย์ จริงๆ แล้วเชฟก้องเล่าให้เราฟังว่ามันคือแครอตที่หั่นเป็นวงกลมแล้วนำมาพิมพ์ลงกระดาษให้แสดงลวดลายธรรมชาติ สำหรับที่นี่แล้ว ‘แครอต’ กลายเป็นพระเอกที่เล่าเรื่องราวกระบวนการของพะลังได้ดีที่สุด เชฟก้องเล่าว่าแครอตเป็นพืชที่ใช้ในการดีท็อกซ์ได้ดีที่สุดชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาสมดุล เมนู ‘น้ำแครอต 100%’ จึงเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ในแต่ละวัน
แครอตที่ใช้ทางร้านปลูกขึ้นบนภูชี้ฟ้าตามวิถีเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน IFOAM (International Federation of Organic Agriculture Movements) จากนั้นนำมาสกัดเป็นน้ำด้วยเครื่อง Hydraulic Press Juicer ที่ทำหน้าที่บดเคี้ยวแทนร่างกายของเรา ขั้นแรกแครอตทั้งหมดจะถูกบดเป็นชิ้นเล็ก (ตามภาพ) จากนั้นจะถูกนำไปห่อด้วยผ้าไนลอน และกดด้วยแรงดัน 8 ตันต่อตารางนิ้ว ออกมาเป็นน้ำจากแครอตสดๆ ที่ไร้กาก พร้อมดื่มให้ร่างกายนำสารอาหารและวิตามินไปใช้ได้ทันที
ทางร้านยังใช้เครื่อง Vacuum Blender หรือเครื่องปั่นน้ำผลไม้ระบบสุญญากาศมาใช้ในการทำน้ำผักผลไม้ปั่นสูตรผสม ซึ่งข้อดีของการใช้เครื่องปั่นนี้อย่างแรกคือผลไม้ไม่ดำหลังจากหั่นและโดนอากาศ เมื่อใช้วิธีการปั่นจึงยังทำให้มีไฟเบอร์ที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย ซึ่งการผสมจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบในแต่ละวัน คุณสามารถเช็กดูบนกระดานได้เลยว่ามีสูตรใดบ้างที่พร้อมเสิร์ฟ ตัวอย่างเช่นสูตร #1 ฝรั่ง, โยเกิร์ต, น้ำมะพร้าว และ #2 แครอต, ฝรั่ง, โยเกิร์ต (ราคาขวดละ 95 บาท)
เชฟก้องเสริมว่า เขาเลือกใช้สีเป็นตัวกำหนด เรียกว่าในหนึ่งวันคุณจะต้องเจอกับน้ำครบทั้ง 5 สี ทั้งสีแดง เขียว ส้มหรือเหลือง นั่นก็เพราะแต่ละชนิดมีสารอาหารที่แตกต่างกันอยู่ เช่น สีแดงที่จะมีส่วนผสมของมะเขือเทศและพริกหวานแดง ซึ่งมีไลโคตินช่วยในเรื่องของผิวพรรณ หรือสีส้มกับเหลืองที่มีเบต้าแคโรทีน จะเป็นเครื่องดื่มที่ใช้ในการดีท็อกซ์ที่ดี เป็นต้น
นอกจากผักสดที่ทางร้านใช้สำหรับทำน้ำผักสกัดแล้ว ยังมีเมนูง่ายๆ ในสไตล์ Grab & Go ที่คุณสามารถแวะมาซื้อเป็นมื้อเช้าหรือกลางวัน เช่น เมนู Wrap อย่าง Chicken Caesar Wrap สอดไส้ผักกรีนคอส ไก่ และซอสซีซาร์ หรือ Pumpkin Egg Salad Wrap กับไส้ฟักทองและไข่ห่อด้วยกันกับผักกรีนคอส (ราคาชิ้นละ 120 บาท)
สำหรับเรา ทุกวันนี้การเดินเข้าร้านอาหารสักร้านมันก้าวไปได้ไกลกว่าการหาของอร่อยกินให้อิ่มในมื้อนั้นเพียงอย่างเดียว เพราะหลายๆ ร้านได้ใช้อาหารของตัวเองส่งต่อเป็นข้อความบอกเล่าเรื่องราวหลายอย่างที่เกิดขึ้นเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นอาหารจานนั้นๆ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายทาง เช่นเดียวกับ ‘พะลัง’ ร้านน้ำผักหลังน้อยที่ส่งพลังงานดีๆ จากเกษตรกรในเชียงรายที่ตั้งใจปลูกวัตถุดิบที่ปลอดภัย ผ่านความตั้งใจของคนทำงานทุกท่าน เพื่อส่งต่อสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่สังคม
Palang: พะลัง
Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 07.30-16.00 น.
ADDRESS: 640/5 ถนนสิงหไคล ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย (ด้านหลังอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย)
Budget: 95-120 บาท
Contact: 09 0325 7006
Website: https://www.facebook.com/Palang-%E0%B8%9E%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-111837387354333
Map:
