จากร้านขายไวน์ออนไลน์ชื่อ No Bar ที่หุ้นส่วนหลักอย่าง ‘ณัฐ-ณัฐชนน วะนา’ เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งแต่เดิมไม่มีตัวร้าน แต่ด้วยกระแสของเนเชอรัลไวน์ที่กำลังได้รับความนิยม ประกอบกับความที่เป็นคนชอบดื่มผู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนรู้จักไวน์ดีๆ มาพอตัวแล้ว ทำให้ณัฐร่วมกับหุ้นส่วนอย่าง ‘อาย-พรชนก ดิบดี’ เปิด No Bar Wine Bar ขึ้นในละแวกบ้านย่านอารีย์-สนามเป้า ซึ่งพวกเขาเติบโตและคุ้นเคย เพื่อเป็นแหล่งนัดพบแลกเปลี่ยนของคนชอบดื่มไวน์เช่นเดียวกัน
The Vibe
พื้นปูนเปลือย ผนังขาว โคมไฟแสงสลัว ตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่มีรายละเอียดด้วยของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยซึ่งแสดงถึงความมีสไตล์ของหุ้นส่วนร้านทั้งสองผู้อยู่ในแวดวงสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายบรรจุกรอบ เฟอร์นิเจอร์ ต้นไม้ฟอร์มสวย บ่งบอกถึงความเป็นไวน์บาร์ด้วยขวดเปล่าที่วางเรียงรายประดับไปทั่วทั้งร้าน บรรยากาศไวบ์ดี แคชวลเป็นกันเอง ชวนให้อยากจิบไวน์นั่งคุยกับเพื่อนสนิทกันชิลๆ
The Taste
ไวน์ของทางร้านจะเน้นไปที่เนเชอรัลไวน์ซึ่งผลิตด้วยกระบวนการตามธรรมชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ไวน์กว่า 140 เลเบิลที่ขายก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตามแหล่งที่มาและความสนใจในแต่ละช่วงเวลาของเจ้าของร้าน หุ้นส่วนทั้งสองแชร์ให้เราฟังว่า ความสนุกของการดื่มเนเชอรัลไวน์นั้นอยู่ที่การไม่ปรุงแต่งและมีความเพียวตามธรรมชาติ อาศัยเพียงดินฟ้าอากาศและคาแรกเตอร์ขององุ่นที่หลากหลาย ทั้งยังมักผลิตโดยผู้ผลิตสเกลเล็กที่พิถีพิถัน ไม่ใช่ไวน์ที่ผลิตมาอย่างระบบอุตสาหกรรม จึงมีทั้งความหลากหลายให้เลือกและสนุกที่จะได้สำรวจ เปิดประสบการณ์แห่งรสชาติใหม่ๆ
ในส่วนของอาหารนั้นด้วยความที่ไวน์มีการหมุนเวียนอยู่ตลอดทุก 2 สัปดาห์ รายการอาหารเองจึงต้องหมุนเวียนไปตลอดด้วย ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ทางร้านไม่มีเมนูยืนพื้น ด้วยความที่ณัฐและอายอยากให้ร้านออกมาดูจริงใจและไม่ประดิษฐ์มากจนเกินไป อาหารของ No Bar Wine Bar จึงไม่ค่อยเน้นตามจริตสมัยนิยม แต่มีความเป็น Food Lab ที่เสิร์ฟอาหารโฮมมี่ในสไตล์ที่ทั้งสองชอบ ทั้งนี้ ที่ร้านจะไม่มีเมนูประจำ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงไหนได้วัตถุดิบดีๆ อะไรมา และอยากจะนำเสนออะไร ในแต่ละครั้งที่ลูกค้ามาเมนูที่มีอยู่จึงอาจไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้เกิดบทสนทนาระหว่างทางร้านและผู้มาใช้บริการ แต่ที่สำคัญคือต้องแพริ่งกับไวน์ที่มีอยู่ในแต่ละช่วงได้ดี ซึ่งถ้าไม่สั่งเป็นขวดเราอาจจะสั่งไวน์เป็นแก้วจากไวน์พิเศษประจำวันที่คัดสรรมาให้เลือกวันละ 5 ตัว เพื่อเอ็นจอยกับไวน์ให้หลากหลายก็ได้
ยกตัวอย่างบางจานที่เราได้ชิมในคราวนี้ เช่น Corny (150 บาท) สลัดข้าวโพดย่างในซอสพอนสึ ในนี้จะมีข้าวโพดย่างผัดเบคอน ได้ความเปรี้ยวจากทั้งมะเขือเทศและแอปเปิ้ลเขียว ซอสพอนสึกับผงโรยข้าวของญี่ปุ่น มีกลิ่นหอมสโมกกี้ กินกับไวน์ขาวหรือออเรนจ์ไวน์คือดีงาม Isaan Beef Tartare Bruschetta (230 บาท) ขนมปังบาแกตต์ปิ้ง ทากัวคาโมเลรสเบาๆ ให้มีเท็กซ์เจอร์ความครีมมี่ ตัดกับท็อปปิ้งก้อยเนื้อวัวรสแซ่บแบบอีสาน กินกับออเรนจ์ไวน์หรือไวน์แดงไลต์ๆ ก็ไปด้วยกันได้ดี ส่วนอีกจานคือ Spicy Roasted Aubergine Salad (180 บาท) ยำมะเขือเผารสเปรี้ยวสดชื่น หอมกลิ่นมะเขือเผา ใส่ไข่ต้ม โรยกุ้งแห้งป่น ทั้งสามจานเสิร์ฟมาในพอร์ชันไม่ใหญ่มาก เน้นกินเล่นเป็นกับแกล้มเบาๆ ไม่เน้นอิ่ม แต่ทั้งหมดแพริ่งกับไวน์ได้ดีหลายตัวเลยทีเดียว
Good for…
คนที่กำลังหาร้านนั่งชิลบรรยากาศเป็นกันเองคุยกับเพื่อนน่าจะชอบที่นี่ และคุณจะยิ่งรักร้านนี้มากขึ้นเป็นพิเศษหากเป็นคนที่ชอบหรือกำลังสนใจเกี่ยวกับเนเชอรัลไวน์ หากอยากลองและอยากได้ตัวเลือกของไวน์ที่หลากหลายกว่าไวน์แมสๆ ที่วางขายหรือมีให้เลือกในร้านทั่วไป ทั้งนี้ คุณสามารถสอบถามและพูดคุยกับเจ้าของร้านและพนักงานได้อย่างไม่ต้องเขินหรือกลัวแม้ว่าจะเป็นมือใหม่ เพราะพวกเขามีแพสชันและเต็มใจที่จะแชร์ความชอบ ความหลงใหล ความสนุกที่มีต่อเนเชอรัลไวน์ให้กับทุกคนผู้มาเยือน นอกจากนี้ทางร้านยังขยันจัดอีเวนต์เชิญไวน์เมกเกอร์และเปิดครัวให้เชฟมาคอลแลบเพื่อแลกเปลี่ยนให้ความรู้เรื่องไวน์ และเปิดประสบการณ์กินดื่มใหม่ๆ อีกด้วย
Open: เปิดให้บริการทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 18.00-00.00 น.
Address: 128/10 ซอยพหลโยธิน 2 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
Budget: 350-2,500 บาท (ไวน์ By Glass เริ่มต้นที่แก้วละ 320 บาท ไวน์แบบขวดเริ่มต้นที่ขวดละ 1,500 บาท ส่วนราคาอาหารนั้นขึ้นอยู่กับเมนูที่ขายในแต่ละช่วง แต่ราคาสมเหตุสมผลและคำนึงถึงมิตรภาพ)
Tel: 09 9229 7465
Facebook: No Bar Wine Bar
Map:
ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์