กลับมาอีกครั้งกับการอัปเดตเมนูใหม่และราคาปัจจุบันของ ร้านไฟน์ไดนิ่ง ทั่วกรุงเทพฯ เนื่องจากช่วงนี้ ไฟน์ไดนิ่ง หลายแห่งเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลใหม่กันแล้ว แถมยังเพิ่งผ่านงานประกาศรางวัลครั้งใหญ่ระดับเอเชียมาด้วย หลายๆ ร้านจึงกลายเป็นที่จับจ้อง จนนักอยากชิมหลายๆ คนอาจเลือกไม่ถูกว่าจะเริ่มจองโต๊ะที่ร้านไหนก่อนดี
และเพื่อช่วยให้ทุกคนเลือกง่ายขึ้น พวกเราจึงรวม ‘41 ร้านไฟน์ไดนิ่ง ทั่วกรุงเทพฯ’ มาแนะนำพร้อมราคาปัจจุบัน เผื่อว่าใครอาจเจอร้านใหม่ที่ยังไม่เคยลอง หรือมีร้านไหนน่ากลับไปหลังจากไม่ได้แวะไปชิมมานาน
ถ้าใครพร้อมแล้ว มาดูกันเลยว่า ร้านไฟน์ไดนิ่ง ทั้งหมดที่เราเลือกมา จะมีที่ไหนน่ากดจองเสียเดี๋ยวนี้บ้าง?
1. POTONG
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งไทย-จีน เจ้าของดาวมิชลิน 1 ดวง และตำแหน่งร้านเปิดใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 2023 มอบโดยมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย พร้อมกับเพิ่งมีชื่ออยู่บนลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurants 2024 ในอันดับที่ 17 นำโดยเชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ ผู้เปลี่ยนตึกเก่าร้อยปีซึ่งเคยเป็นห้างขายยาสมัยบรรพบุรุษ ให้กลายเป็นร้านอาหารบอกเล่าเรื่องราวของลูกหลานคนจีนได้อย่างน่าประทับใจ
สำหรับคอร์สเมนูใหม่ที่เสิร์ฟตอนนี้ ‘the new experience’ จะนำเสนอประสบการณ์ทั้งหมด 20+ คอร์ส ในราคา 5,500++ บาท มีวัตถุดิบน่าสนใจ เช่น ไก่ดำ สมองเป็ด และเป็ดดรายเอจอันเลื่องชื่อ
สอบถามเพิ่มเติม Restaurant.Potong
2. Resonance
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งของเชฟชาวญี่ปุ่น ชุนสุเกะ ชิโมมุระ ที่เพิ่งได้รางวัลดาวมิชลินในปีล่าสุด ที่นี่เชฟต้องการนำเสนออาหารไร้พรมแดน หรือ Boundless Cuisine การปรุงอาหารจึงใช้เทคนิคหลากหลาย ทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชีย รวมถึงการออกแบบคอร์สอาหารที่ไล่มาหลายชาติ ทำให้เราเดาทางไม่ค่อยถูกว่าจานต่อไปจะเป็นอย่างไร
ส่วนเมนูที่เสิร์ฟตอนนี้มีทั้งมื้อกลางวัน 7 คอร์ส ราคา 2,900++ บาท, 12 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท และ 14 คอร์ส ราคา 6,500++ บาท (เฉพาะวันเสาร์เท่านั้น) และมื้อเย็น 12 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท และ 14 คอร์ส ราคา 6,500++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Restaurant Resonance
3. Samrub Samrub Thai
ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่ใช้ตำราเก่าแก่ และได้รับดาวมิชลิน 1 ดวง พร้อมกับมีชื่ออยู่บนลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurants ในปีล่าสุดที่อันดับ 29 ที่นี่เลื่องลือทั้งด้านรสชาติและความดั้งเดิมแบบที่ไม่มีใครเหมือน นำโดยเชฟปริญญ์ ผลสุข เชฟรสมือดีผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารไทยจนใครต่อใครก็อยากชิมฝีมือ
สำหรับตอนนี้ร้านเสิร์ฟคอร์สเมนูชื่อ ‘สำรับชาวทะเล แด่อุรักลาโว้ยจ’ โดยจะอยู่ถึงช่วงสิ้นเดือนเมษายน ในราคา 3,900++ บาทต่อคน
สอบถามเพิ่มเติม Samrub Samrub Thai สำรับสำหรับไทย
4. Baan Tepa
ร้านอาหารไทยครีเอทีฟที่จะมาแรงมากๆ ในปีนี้ เพราะเพิ่งได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลินในปีล่าสุด พร้อมกับรางวัล Young Chef Award ที่มอบให้แก่ เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ เฮดเชฟประจำบ้านเทพาที่กลายเป็นหญิงไทยคนแรกที่คว้าดาวมิชลินสำเร็จถึง 2 ดวง
เมนูที่เสิร์ฟอยู่ในตอนนี้มีให้เลือกระหว่าง The Signatures จำนวน 6 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท และ Full Experience จำนวน 9 คอร์ส ราคา 5,500++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Baan Tepa Culinary Space
5. Gaggan Anand
นี่คือเจ้าของตำแหน่งร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทยในปีนี้ โดยร้านตั้งชื่อตามเฮดเชฟผู้เป็นเจ้าของ กากัน อนันต์ (Gaggan Anand) พ่อครัวชาวอินเดียผู้พาร้านอาหารของตัวเองไปเดบิวต์บนลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurants ตั้งแต่ปี 2013 ที่อันดับ 10 ก่อนจะค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาจนเป็นแชมป์ครองที่ 1 ติดกัน 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2015-2018
และในปีนี้ Gaggan ก็ได้กลับเข้ามาอยู่บนลิสต์อีกครั้งที่อันดับ 3 ของเอเชีย พร้อมเสิร์ฟคอร์สเมนูที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์และสะท้อนความเป็นตัวเองของเชฟผ่านอาหาร 22 จาน ในราคาสุทธิ 14,124 บาท (ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ราคาสุทธิ 15,000 บาท)
สอบถามเพิ่มเติม Gaggan Anand Restaurant
6. Gaggan at Louis Vuitton
ร้านอาหารแห่งแรกในแถบเอเชียใต้ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกที่เลือกคอลแลบกับเชฟชาวอินเดียชื่อดังอย่าง กากัน อนันต์ ให้เป็นผู้รับหน้าที่ดึงตัวตน ความสนุก และรสชาติของแบรนด์ Louis Vuitton ให้ออกมาเป็นมื้ออาหาร
สำหรับเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยมีให้เลือกคือ มื้อกลางวัน 8 คอร์ส ราคา 4,000++ บาท และมื้อเย็น 17 คอร์ส ราคา 8,000++ บาท
7. Nusara
ร้านอาหารไทยชื่อดังโดยเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่ตอนนี้ยกร้านมาปักหมุดใหม่อยู่ในย่านท่าเตียน ร้านแห่งนี้จึงมาพร้อมวิววัดโพธิ์อันสวยสะกดยามค่ำคืน เสิร์ฟคู่กับอาหารไทยหลากรส หลากสีสัน ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากคุณยายนุสรา
สำหรับเมนูปัจจุบัน ร้านเสิร์ฟอาหาร 12 คอร์ส ในราคา 4,990++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Nusara – นุสรา
8. Côte by Mauro Colagreco
ห้องอาหารฝรั่งเศสดาวมิชลินของเชฟเมาโร โคลาเกรโค หนึ่งในเชฟยอดเยี่ยมระดับโลก เจ้าของร้านอาหาร Mirazur รางวัล 3 ดาวมิชลิน ที่นี่เชฟนำกลิ่นอายอาหารฝรั่งเศสสไตล์ดินแดนริเวียรามาเสิร์ฟให้ทุกคนชิม ผ่านฝีมือของศิษย์เอก เชฟดาวิเด การาวาเกลีย เฮดเชฟประจำห้องอาหาร Côte
คอร์สเมนูปัจจุบันจะเสิร์ฟในสไตล์ Carte Blanche ที่ทุกคนจะไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าเชฟจะทำอะไรให้ชิมเช่นเดิม โดยมีให้เลือกทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ราคาเริ่มต้น 4 คอร์ส 2,250++ บาท, 7 คอร์ส 5,800++ บาท และ 9 คอร์ส 6,500++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Côte by Mauro Colagreco
9. ōre Bangkok
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ที่นำเสนอรสชาติแท้จริงของวัตถุดิบ แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกทำให้เหนือระดับด้วยการผสมผสานที่แปลกใหม่ และมีไฮไลต์คือการใช้น้ำพุใกล้น้ำตกไทรโยคในการทำอาหาร นำโดยเชฟดีมี่ (Dimitrios Moudios) ผู้บอกว่า สำหรับ Ore เขาไม่ได้ทำอาหารสัญชาติไหนเป็นพิเศษ เพราะเขาแค่อยากจับสิ่งต่างๆ ที่เขาเรียนรู้ตลอดอาชีพการเป็นเชฟมาใส่เข้าไว้ด้วยกัน
สำหรับเมนูปัจจุบัน เชฟจะเสิร์ฟอาหาร 20 คอร์ส ในราคา 3,990++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม www.instagram.com/ore.bkk
10. Gaa
ร้านอาหารอินเดีย 2 ดาวมิชลิน นำโดยเชฟการิมา อะโรรา ผู้ยกระดับทุกเมนูจากบ้านเกิดให้กลายเป็นอาหารหรูได้อย่างน่าตื่นเต้น เสิร์ฟให้นั่งชิมในบรรยากาศบ้านไม้ทรงไทยอายุ 60 ปีใจกลางสุขุมวิท หรือห้องนั่งเล่นที่ห้อมล้อมด้วยสวน
สำหรับคอร์สเมนูตอนนี้เป็นฤดูร้อน เสิร์ฟอาหาร 11 คอร์ส ในราคา 4,700++ บาท โดยมีให้เลือกทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น
สอบถามเพิ่มเติม Gaa
11. Den Kushi Flori
โอมากาเสะของเสียบไม้จากโตเกียวที่มาเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ ผู้อยู่เบื้องหลังก็คือสองเชฟเพื่อนซี้อย่าง ซาอิยุ ฮาเซกาวะ เจ้าของร้าน 2 ดาวมิชลิน DEN ที่ครองอันดับ 1 บนลิสต์ Asia’s 50 Best Restaurants 2022 และ ฮิโรยาสึ คาวาเตะ เจ้าของร้าน 2 ดาวมิชลิน Florilège ที่ครองอันดับ 3 บนลิสต์ปีเดียวกัน
สำหรับ Den Kushi Flori พวกเขาส่งเพื่อนอีกคนอย่างเชฟซูซูมุ ชิมิสึ มาเป็นผู้คุมทีม พร้อมเสิร์ฟเมนูในสไตล์ของร้านแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยตอนนี้ร้านเสิร์ฟเมนู Spring นำเสนอมื้อกลางวัน 4 คอร์ส ราคา 1,800++ บาท และ 7 คอร์ส ราคา 3,500++ บาท สำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น
สอบถามเพิ่มเติม Denkushiflori BKK
12. Inddee
ร้านอาหารอินเดียไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ที่คว้าดาวมิชลินดวงแรกมาได้อย่างรวดเร็ว นำทีมโดยเชฟชาวอินเดีย ซาชิน พูจารี ผู้เคยนำทีมครัวร้านอาหารญี่ปุ่น Wasabi ในเมืองมุมไบบ้านเกิด ทำให้อาหารอินเดียที่ร้านแห่งนี้มีกลิ่นอายอาหารญี่ปุ่นผสมอยู่บางๆ อย่างเช่นรสชาติที่สดชื่นในบางเมนู หรือความเบาที่ไม่ทำให้หนักจนเลี่ยน
ร้านเสิร์ฟเมนูทั้งหมด 7 คอร์ส ในราคา 3,200++ บาท เป็นการนำเสนออาหารอินเดียจากภูมิภาคต่างๆ และมีเมนู Add-on ให้สั่งเพิ่มได้
สอบถามเพิ่มเติม Inddee
13. Restaurant Int
ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งในรูปร่างหน้าตาอาหารฝรั่งเศส นำทีมโดยเชฟน็อค-พัทธ์อินทร์ พรหมสวัสดิ์ ผู้ต้องการโฟกัสกับการทำอาหารไทยด้วยเทคนิคสมัยใหม่ และเปลี่ยนเมนูไทยๆ ที่เราคุ้นเคยให้น่าสนุกแบบไร้กรอบ
เมนูปัจจุบันมีชื่อว่า Hometown Glory เสิร์ฟอาหาร 13 คอร์ส ในราคา 3,990++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Restaurant Int
14. TAAN
ห้องอาหารไทยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะที่นี่เปลี่ยนวัตถุดิบธรรมดาๆ ให้น่าสนใจ ดึงเมนูและรสชาติที่ทุกคนคุ้นเคยมานำเสนอใหม่ได้น่าสนุก นำโดยเชฟเทพ-มนต์เทพ กมลศิลป์ ผู้รักในการตามหาวัตถุดิบ และตั้งใจใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรท้องถิ่นหรือผู้ผลิตรายเล็กที่มีของดี
คอร์สเมนูปัจจุบันชื่อว่า ‘อยุธยา’ เสิร์ฟอาหาร 10 คอร์สให้ชิม ในราคา 3,190++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม TAAN Bangkok
15. Canvas
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่มีตัวตนโดดเด่นชัดเจนมากที่สุดแห่งหนึ่ง และนำเสนอทุกวัตถุดิบได้อย่างมีศิลปะ นำโดยเชฟไรลีย์ แซนเดอร์ส ผู้หลงใหลในการวาดรูปและทำอาหาร เขาจึงนำทั้งสองอย่างมาผสมผสานกันจนเกิดเป็นเมนูที่พวกเราจะได้ชิม
เชฟไรลีย์จะค้นหาวัตถุดิบในประเทศไทย ก่อนนำมาเปลี่ยนเป็นเมนูบนจานที่นำเสนอครบทั้งรสชาติ สัมผัส และหน้าตาที่ดูราวหลุดออกมาจากผืนผ้าใบแคนวาสที่วาดโดยเขาเอง สำหรับคอร์สเมนูใหม่ ‘Wild Things’ จะนำเสนออาหาร 15 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท และ 20 คอร์ส ราคา 6,900++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Canvas
16. Le Normandie by Alain Roux
ห้องอาหารฝรั่งเศสสุดคลาสสิกและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นำทีมโดยเชฟอลัง รูซ์ จาก Waterside Inn ประเทศอังกฤษ ห้องอาหารฝรั่งเศสที่ครองดาว 3 ดวงติดกันนานกว่า 30 ปี เมนูที่นี่เสิร์ฟทั้งแบบคอร์สและอะลาคาร์ต เป็นจานเดียวกับที่เชฟเสิร์ฟ ณ ห้องอาหารที่ประเทศอังกฤษ
เมนูปัจจุบันมีให้เลือกคือ มื้อกลางวัน 3 คอร์ส ราคา 2,950++ บาท, 4 คอร์ส ราคา 3,750++ บาท (เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์) และมื้อค่ำ 7 คอร์ส ราคา 7,500++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Le Normandie by Alain Roux
17. Wana Yook
ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งของเชฟชาลี กาเดอร์ เจ้าของ 100 มหาเศรษฐ์ ที่นำเมนูข้าวแกงไทยมายกระดับใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ก่อนเสิร์ฟให้ชิมในบรรยากาศบ้านทรงไทยโบราณย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
สำหรับคอร์สเมนูใหม่ตอนนี้จะเต็มไปด้วยรสชาติร้อนแรงของแกงใต้ นำเสนอผ่านอาหาร 9 คอร์ส ในราคา 3,850++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Wana Yook
18. Small Dinner Club
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งในคอมมูนิตี้เจริญ 43 ที่นำเสนอวัตถุดิบไทยได้อย่างแปลกใหม่ สนุก และไม่เหมือนใคร ทุกเมนูเป็นฝีมือของเชฟศรีล โรจนเมธินทร์ ผู้เคยทำงานในร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งออสเตรเลีย ก่อนจะกลับมาเปิดร้านของตัวเองที่นี่ และตอนนี้ร้านก็มีชื่ออยู่ในร้านอาหารแนะนำโดยมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ด้วย
อาหารที่เสิร์ฟจะเป็นสไตล์เชฟส์เทเบิล มีประมาณ 10-12 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Small Dinner Club
19. Elements, Inspired by Ciel Bleu
ความโดดเด่นของห้องอาหารนี้คือการผสมผสานวัตถุดิบญี่ปุ่นเข้ากับอาหารฝรั่งเศส ทำให้หลายๆ จานของ Elements มีหน้าตาเหมือนอาหารยุโรป แต่กลับชิมแล้วมีรสชาติเบา สดชื่น เป็นเอกลักษณ์
นำโดยเชฟเจอราร์ด ฮอร์คาโญ ผู้เคยทำงานกับเชฟใหญ่แห่งห้องอาหาร Ciel Bleu ร้านอาหารดาวมิชลินที่เป็นแรงบันดาลใจของ Elements สำหรับคอร์สเมนูปัจจุบัน ‘Spring’ มีให้เลือกตั้งแต่ 8 คอร์ส ราคา 6,400++ บาท, 6 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท และ 4 คอร์ส ราคา 4,100++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Elements, Inspired by Ciel Bleu
20. 80/20
ร้านอาหารไทยที่โฟกัสวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล นำทีมโดยเชฟแทฟ พุทธวงศ์ ชาว สปป.ลาว ที่เกิดในเบลเยียมและเติบโตในอังกฤษ 80/20 ในยุคของเชฟแทฟจึงเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมที่เขาคุ้นเคยเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งไทย ลาว และอังกฤษ
โดยคอร์สเมนูปัจจุบันเสิร์ฟเทสติ้งเมนูจำนวน 15 คอร์ส ราคา 4,200++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม 80/20bkk
21. KHAAN
ร้านอาหารไทยแห่งใหม่ของเชฟอ้อม ที่นำเสนอรสชาติและวัตถุดิบท้องถิ่นได้อย่างมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แถมยังน่าสนใจมากๆ ด้วย เพราะเชฟจะเปลี่ยนวัตถุดิบไปตามสิ่งที่ได้มาจากชาวประมงในแต่ละวัน รวมถึงนำเสนอรสชาติอาหารไทยที่ลึกขึ้น จนอาจเป็นสิ่งที่ทุกคนยังไม่เคยชิมจากที่ไหนมาก่อน
สำหรับเมนูปัจจุบัน เสิร์ฟอาหารไทย 11 คอร์ส ในราคา 3,850++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม KHAAN Bangkok
22. KAVEE
ร้านอาหารไทยที่นำเสนอวัตถุดิบและรสชาติได้อย่างน่าค้นหา นำโดย เชฟเต้-วรธน อุดมชโลทร ผู้สนุกกับการตามหาวัตถุดิบใหม่ๆ มาใช้เพื่อไม่ให้เหมือนใคร
สำหรับคอร์สเมนูใหม่ เชฟนำเสนอในชื่อว่า ‘The Four Elements’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ เสิร์ฟผ่านอาหาร 9 คอร์ส (14 จาน) ในราคา 3,490++ บาทต่อคน
สอบถามเพิ่มเติม KAVEE
23. IGNIV
ห้องอาหารคอนเซปต์แชริ่งจากสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งที่นี่ยังได้รางวัลมิชลิน 1 ดาวไปครองทุกปี นำทีมโดย เชฟเดวิด ฮาร์ดวิก ผู้เคยร่วมงานกับเชฟแอนเดรียส เจ้าของร้านอาหาร 3 ดาวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ IGNIV ส่วนเชฟผู้รับหน้าที่ดูแลเมนูของหวานคือ เชฟอาเน่ รีน ผู้รังสรรค์ขนมทั้งหมดในร้าน
สำหรับคอร์สเมนูปัจจุบัน ‘Spring’ จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายและวัตถุดิบของฤดูใบไม้ผลิจากแถบยุโรป นำเสนอผ่านอาหาร 20 จาน ในราคา 5,500++ บาท โดยมีให้เลือกทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น รวมถึงมีเมนูวีแกน เมนูมังสวิรัติ เมนูอะลาคาร์ต และเมนูสำหรับเด็กด้วย
สอบถามเพิ่มเติม IGNIV Bangkok
24. Sra Bua by Kiin Kiin
เชฟผู้อยู่เบื้องหลังห้องอาหารนี้คือ เฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน เชฟเจ้าของร้านอาหารไทยติดดาว Kiin Kiin ในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่นี่จะนำเสนออาหารไทยในรูปแบบใหม่ซึ่งตีความโดยเชฟเฮนริค ผสมผสานทั้งเทคนิคและการนำเสนอที่น่าตื่นเต้น รวมถึงบอกเล่าวัฒนธรรมอาหารบ้านเราผ่านรสชาติได้อย่างน่าสนุก
ตอนนี้ห้องอาหารเสิร์ฟ ‘Winter Journey’ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารไทย ญี่ปุ่น และยุโรป มีให้บริการทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ราคาเริ่มต้น 8 คอร์ส 2,900++ บาท, 10 คอร์ส 3,500++ บาท และ 16 คอร์ส 4,300++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Siam Kempinski Hotel Bangkok
25. Catalan Cuisine at Embassy Room
ห้องอาหารกาตาลันที่ได้เชฟชาวสเปนมาเป็นผู้คุมทีม ที่นี่เปิดอยู่ในพื้นที่เดียวกับ Embassy Room ห้องอาหารเช้าของโรงแรมพาร์ค ไฮแอท แต่ที่นี่จะเปลี่ยนเป็นอีกบรรยากาศ และเสิร์ฟอาหารกาตาลันไฟน์ไดนิ่งตั้งแต่มื้อกลางวัน
เชฟเฟอร์ราน ผู้รับหน้าที่เฮดเชฟ ตั้งใจนำรสชาติและเมนูโปรดจากบ้านเกิดมาเสิร์ฟให้ชิม ผ่านคอร์สเมนูที่ผสมผสานทั้งรูปแบบแชริ่งและจานของใครของมัน โดยตอนนี้เสิร์ฟเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น ในราคา 6 คอร์ส ราคา 3,800++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Embassy Room
26. The Signature
ห้องอาหารฝรั่งเศสโมเดิร์นแนว Floral Cuisine เอกลักษณ์ของที่นี่คือทุกจานจะมาพร้อมหน้าตาที่สวยงาม มีกลิ่นอายฝรั่งเศส และประดับดอกไม้กินได้ รังสรรค์โดยเชฟเธียรี่ ดราบราอู
สำหรับเมนูปัจจุบันจะมีให้เลือก 5 คอร์ส 4,500++ บาท และ 8 คอร์ส 5,200++ บาท เราอยากให้ทุกคนตั้งตารอ Surprise Egg ที่เป็นของหวานซิกเนเจอร์
สอบถามเพิ่มเติม Signature Bangkok
27. Blue by Alain Ducasse
ร้านอาหารฝรั่งเศสริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่บรรยากาศโมเดิร์น โรแมนติก และมีวิวสวยๆ ให้นั่งชมตลอดมื้อ ที่นี่เป็นอีกร้านติดดาวมิชลินที่มี เชฟอลัง ดูคาส เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเขาคือหนึ่งในเชฟฝีมือยอดเยี่ยมระดับโลกและเป็นนักล่าดาวตัวยง โดยผู้ทำหน้าที่เฮดเชฟ ณ ร้านอาหารแห่งนี้คือ เชฟวิลฟริด อ็อกเก ผู้ได้รับการปลูกปั้นโดยเชฟอลัง ดูคาส มาเองกับมือ
คอร์สเมนูที่เสิร์ฟอยู่ตอนนี้มีให้เลือกทั้งมื้อกลางวัน 5 คอร์ส 2,950++ บาท และมื้อเย็น ราคาเริ่มต้น 4 คอร์ส 3,900++ บาท, 6 คอร์ส 5,500++ บาท และ 8 คอร์ส 7,500++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Blue by Alain Ducasse
28. Coda
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งของ เชฟแท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล ผู้เติบโตมาในครอบครัวเจ้าของร้านมหาชัยซีฟู้ด (แต่ปัจจุบันส่งต่อให้คนอื่นดูแลแล้ว) เขาจึงคลุกคลีกับอาหารมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเติบโตขึ้นจึงเข้าทำงานในร้านอาหารดังมากมายเพื่อฝึกฝีมือ ก่อนจะมาเปิดร้านนี้เป็นของตัวเอง และนำรสชาติอาหารที่ตัวเองชอบมาเป็นแรงบันดาลใจ
คอร์สเมนูปัจจุบันเสิร์ฟอาหารจำนวน 8 คอร์ส ในราคา 3,450++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Coda Bangkok
29. Maison Dunand
เชฟอาโน ดูนัง นำบ้านเกิดของเขามาใส่อยู่ในร้านอาหารแห่งนี้ ตั้งแต่บรรยากาศ รสชาติ และวัตถุดิบ อาหารฝรั่งเศสที่นี่จะมีความเป็นตัวตนของเชฟชัดเจน เพราะเชฟบอกว่าเขาจะทำทุกอย่างที่ตนเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจาน การปรุง หรือรสชาติที่หลายคนคิดถึง
คอร์สเมนูใหม่ในชื่อว่า ‘Racines & Voyages’ จะมีให้เลือกทั้งมื้อกลางวัน 6 คอร์ส 2,600++ บาท และมื้อค่ำ 4 คอร์ส 3,600++ บาท, 6 คอร์ส 4,900++ บาท และ 7 คอร์ส 6,800++ บาท แล้วอย่าลืมเพิ่มประสบการณ์ด้วยรถเข็นชีส ที่เชฟนำชีสบางชนิดมาจากฝรั่งเศส
สอบถามเพิ่มเติม Maison Dunand
30. Mia
ร้านอาหารยุโรปกลิ่นอายเอเชียที่นำโดยสองเชฟคู่รัก ท็อป-พงษ์ชาญ รัสเซล และ มิเชล โก ความโดดเด่นของที่นี่คือการนำเสนอเมนูตามฤดูกาลของทวีปยุโรป แต่ใช้วัตถุดิบจากฝั่งเอเชีย ทำให้รสชาติและสัมผัสในแต่ละจานมีเอกลักษณ์น่าสนใจ อีกทั้ง ในที่สุดพวกเขาก็ได้รางวัล 1 ดาวมิชลินแล้วในปีที่ผ่านมา
คอร์สเมนูปัจจุบันเป็นฤดูหนาว มื้อกลางวันมีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 2,250++ บาท ส่วนมื้อค่ำ 5 คอร์ส 3,850++ บาท และ 8 คอร์ส 4,850++ บาท พร้อมกับมีคอร์สเมนูมังสวิรัติและวีแกนด้วย
สอบถามเพิ่มเติม Mia restaurant
31. JHOL
ร้านอาหารอินเดียตอนใต้ที่เราเชื่อว่าหลายคนมาลองแล้วต้องติดใจ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความจัดจ้าน เข้มข้น และยกระดับทุกเมนูให้น่ากินจนอาจลืมภาพอาหารอินเดียแบบเดิมๆ เชฟเจ้าของคือ ฮาริ นายัค เชฟชื่อดังจากอินเดียที่มีร้านอาหารอีกหลายแห่งทั่วโลก
สำหรับที่นี่จะมีให้เลือกทั้งอะลาคาร์ตหรือเทสติ้งเมนู หากใครมาลองครั้งแรกหรือไม่รู้จะสั่งอะไรดี เราแนะนำให้ลองเทสติ้งเมนู 1,999++ บาท ในคอร์สจะคัดเฉพาะเมนูเด็ดๆ มาให้แล้ว มีอาหารประมาณ 14 อย่าง
สอบถามเพิ่มเติม JHOL
32. CLARA
ร้านอาหารอิตาเลียนบรรยากาศโรแมนติกในย่านสาทร ที่ราวกับพาเราไปนั่งอยู่ในแกลเลอรี อีกทั้งที่นี่ยังเคยติดอันดับ 50 Best Italian Restaurants in the World เมื่อปี 2022 ด้วย นำโดยเชฟคริสเตียน มาร์เตน่า และ คลาร่า เดล คอร์โซ มาร์เตน่า ผู้เป็นภรรยาและที่มาของชื่อร้าน
คอร์สเมนูปัจจุบันมีให้เลือกตั้งแต่ 4 คอร์ส ราคา 2,680++ บาท, 7 คอร์ส 3,680++ บาท (หลังวันที่ 2 เมษายน 2567 เป็นต้นไป จะเปลี่ยนเป็นเมนูฤดูใบไม้ผลิ) และ 9 คอร์สซิกเนเจอร์ รวมจานเด็ดของเชฟคริสเตียน ราคา 4,880++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม CLARA
33. North Restaurant
ร้านอาหารเหนือไฟน์ไดนิ่งที่ทำถึงทั้งรสชาติและหน้าตา เสน่ห์ของที่นี่คือการนำวัตถุดิบภาคเหนือ อาหารเหนือ และรสชาติของคนท้องถิ่นมายกระดับได้อย่างน่าสนใจ ทันสมัย และเข้าใจง่าย เสิร์ฟในบรรยากาศบ้านสไตล์ล้านนาที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ใจกลางย่านสุขุมวิท
คอร์สเมนูปัจจุบันเสิร์ฟทั้งหมด 8 คอร์ส ในราคา 3,288++ บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม North Restaurant
34. Villa Frantzén
ร้านอาหารสัญชาติสวีเดนที่มาพร้อมบรรยากาศอบอุ่น และครัวแบบเปิดในบ้านหลังใหญ่ ผู้อยู่เบื้องหลังร้านแห่งนี้คือ เชฟบยอร์น ฟรันต์เซน (Björn Frantzén) เจ้าของร้านอาหาร Frantzén ดีกรี 3 ดาวมิชลินในสวีเดน แต่สำหรับที่นี่เชฟต้องการเสิร์ฟอาหารนอร์ดิกให้ทุกคนรู้จัก จึงเสิร์ฟอาหารในรูปแบบแชริ่งให้กินด้วยกัน อีกทั้งทุกคนยังสามารถเลือกเมนูในแต่ละคอร์สเองได้ด้วย
เมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลหรือวัตถุดิบ ปัจจุบันเสิร์ฟอาหารจำนวน 6 คอร์ส ในราคา 4,200++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Villa Frantzén
35. Haoma
ร้านอาหารนีโอ-อินเดียนดีกรีดาวมิชลิน 1 ดวง พ่วงด้วยดาวสีเขียวรักษ์โลก นำโดยเชฟดีแพนเกอร์ โคสร่า หรือเชฟดีเค ชาวอินเดียผู้ตั้งใจนำเสนอวัฒนธรรมอาหารอินเดียให้คนทั่วไปได้รู้จัก ผ่านอาหารสไตล์เทสติ้งเมนูระดับไฟน์ไดนิ่ง โดยมีสวนผักและสมุนไพรปลูกเองหลังร้านเป็นอีกวัตถุดิบภูมิใจนำเสนอ
เมนูปัจจุบันมีให้เลือกทั้งคอร์สเมนูปกติ และสำหรับคนกินมังสวิรัติ โดยราคา 10 คอร์ส 3,500++ บาท และ 15 คอร์ส 4,700++ บาท และมื้อกลางวันเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 6 คอร์ส 2,590++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Haoma
36. VILAS
ร้านอาหารไทยแห่งใหม่ล่าสุดของเชฟปริญญ์ ผลสุข ที่เปรียบร้านแห่งนี้เป็นโลกคู่ขนานของสำรับสำหรับไทย เพราะวิลาศนำเสนออาหารไทยแบบผสมผสานเข้ากับชาติอื่นๆ จนเกิดเป็นเมนูที่แปลกใหม่ ทว่ายังคงมีกลิ่นอายความเป็นไทย
สำหรับคอร์สเมนูปัจจุบัน ร้านเสิร์ฟอาหาร 9 คอร์ส ในราคา 3,500++ บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม VILAS วิลาศ
37. Saawaan
ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่นำเสนอวัตถุดิบในประเทศ ผ่านคอร์สเมนูที่ชูเทคนิคการทำอาหารแบบไทยๆ นำโดย เชฟเอิร์ธ-ศริตวรรธน์ วันวิชิตกูร ผู้รับหน้าที่รังสรรค์อาหารคาว และเชฟเปเปอร์-อริสรา จงพาณิชกุล เพสทรีเชฟฝีมือดีผู้รังสรรค์ทุกเมนูของหวาน
คอร์สเมนูใหม่ที่เสิร์ฟตอนนี้เชฟนำอาหารไทยๆ มาปรับโฉมใหม่ให้จัดจ้าน สวยงาม และรสชาติน่าสนใจเช่นเดิม โดยราคาปัจจุบัน 8 คอร์ส ราคา 2,790++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Saawaan
38. Savelberg
ร้านอาหารฝรั่งเศส 1 ดาวมิชลินโดย เชฟเฮงค์ ซาเวลเบิร์ก (Henk Savelberg) ผู้ทำอาหารสไตล์ฝรั่งเศสทันสมัย ผสมกลิ่นอายดัตช์ที่เป็นบ้านเกิด
สำหรับเมนูปัจจุบัน Savelberg Experience มีให้เลือกตั้งแต่เมนูซิกเนเจอร์ 7 คอร์ส ราคา 5,800++ บาท และ 5 คอร์ส ราคา 3,900++ บาท
สอบถามเพิ่มเติม Savelberg Thailand
39. J’AIME by Jean-Michel Lorain
ร้านอาหารฝรั่งเศสคลาสสิกที่มีเชฟฌอง-มิเชล โลรองต์ (Jean-Michel Lorain) อีกหนึ่งเชฟ 3 ดาวมิชลินระดับตำนานเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยเขาส่งศิษย์เอกอย่างเชฟอเมริโก้ เซสติ (Amerigo Sesti) มาเป็นเฮดเชฟประจำครัว J’AIME เพื่อนำเสนอรสชาติสไตล์ฝรั่งเศสที่เข้ากับสมัย และไม่เข้าถึงยากจนเกินไป
เมื่อมาที่นี่ทุกคนจะเลือกเซ็ตเมนูได้ 3 แบบ คือ Picnic Lunch จำนวน 4 คอร์ส 1,700++ บาท, Memories Menu จำนวน 7 คอร์ส 2,900++ บาท และ Wonders Menu จำนวน 10 คอร์ส 3,500++ บาท ในแต่ละเซ็ตมีเมนคอร์ส เช่น เป็ดบาร์บารี วากิวสเต๊ก นกพิราบ
สอบถามเพิ่มเติม J’AIME by Jean-Michel Lorain
40. Wang Hinghoi
ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งโดย เชฟนิค-ณัฏฐพล ภวไพบูลย์ เจ้าของและเฮดเชฟของวังหิ่งห้อย ผู้กลับมาเปิดประตูพร้อมเสิร์ฟเมนูที่โชว์ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใจกลางเมืองหลวง ทุกเมนูอาหารจะเสิร์ฟให้ชิมพร้อมฝูงหิ่งห้อยใจกลางร้านที่สว่างไสวและโรแมนติกสุดๆ
ตอนนี้ร้านเสิร์ฟคอร์สเมนูชื่อ มณี มีนา จำนวน 10 คอร์ส ราคา 2,990++ บาท ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเซ็ตเมนูใหม่ในเดือนเมษายนนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Wang Hinghoi
41. Santiaga
ร้านอาหารเม็กซิกันที่สนุกสนานและเพลิดเพลินที่สุด ทุกเมนูจะทำให้คุณหลงรักอาหารเม็กซิกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะทั้งสีสัน หน้าตา และรสชาติ บอกเลยว่าทุกอย่างจะทำให้คุณอยากกลับมากินอีกซ้ำๆ นำโดยเชฟบิลลี่ เจ้าของ Billy’s Smokehouse ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้าน Santiaga
คอร์สเมนูปัจจุบันชื่อว่า Una Vuelta Por El Sur นำเสนออาหาร 8 คอร์ส ในราคา 3,500++ บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Santiaga Mexican Cuisine
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
