มาเช็กสุขภาพกันหน่อยดีกว่า ใครที่เคยเจอกับอาการมือชา อาจเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับโรคปลายประสาทอักเสบได้
อาการมือชาอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ท่าทางที่ไม่ดี การเคลื่อนไหวซ้ำๆ หรือโรคประจำตัว มีหลายขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันอาการชาที่มือ และบรรเทาอาการได้ นี่คือวิธีที่จะช่วยให้คุณรักษามือให้แข็งแรงและปราศจากความเจ็บปวด
ปรับท่าทำงานให้เหมาะสม
ท่าทางที่ไม่ดีสามารถกดทับเส้นประสาทและทำให้มือชาได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ ให้แน่ใจว่าคุณนั่งหรือยืนตัวตรง โดยให้ไหล่ไปด้านหลัง และคออยู่ในตำแหน่งที่เป็นกลาง หลีกเลี่ยงการนั่งหลังค่อมโต๊ะหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน และหยุดพักเพื่อยืดคอ ไหล่ และแขนบ่อยๆ
มีเบาะรองข้อมือตอนทำงาน
เบาะรองข้อมือเป็นอุปกรณ์บุนวมแบบนุ่มที่วางอยู่ด้านหน้าแป้นพิมพ์หรือเมาส์ของคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับข้อมือและลดความเมื่อยล้าระหว่างการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ประโยชน์ของการใช้เบาะรองข้อมือคือลดความเกร็งที่ข้อมือและกล้ามเนื้อแขน และป้องกันความรู้สึกไม่สบายและความเจ็บปวดได้
เลือกขนาดเมาส์ที่เหมาะสมในการใช้งาน
ขนาดของเมาส์ที่ใช้ทำงานควรเหมาะสมกับขนาดของมือ ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป จะช่วยลดความรู้สึกไม่สบายและความเมื่อยล้าระหว่างการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
หยุดพักบ่อยๆ
หากคุณใช้เวลามากในการทำงานซ้ำๆ เช่น พิมพ์ดีด ทำงานบ้าน แพ็กของส่งลูกค้า หรือเล่นเครื่องดนตรี ให้หยุดพักบ่อยๆ เพื่อยืดเหยียดมือและข้อมือ จะช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและป้องกันการกดทับเส้นประสาท พยายามหยุดพักทุกๆ 30-60 นาที และใช้เวลานั้นยืดเหยียด เดินไปรอบๆ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
บริหารยืดกล้ามเนื้อและข้อมือบ่อยๆ
การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และป้องกันการกดทับเส้นประสาท พยายามรวมกิจกรรมที่ใช้มือและข้อมือของคุณ เช่น โยคะ พิลาทีส หรือการยกน้ำหนัก การออกกำลังกายแบบยืดและเสริมสร้างความแข็งแรงสามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ
ไปพบแพทย์
หากคุณมีอาการชาที่มืออย่างต่อเนื่องหรือรุนแรงให้ไปพบแพทย์ ภาวะทางการแพทย์ เช่น โรคคาร์ปัลทันเนล (ประสาทถูกกดผ่านข้อมือ) ความเสียหายของเส้นประสาท หรือโรคข้ออักเสบ อาจทำให้มือชาและจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ แพทย์สามารถช่วยวินิจฉัยสาเหตุของอาการของคุณ และแนะนำการรักษาที่เหมาะสม