เคมัล คิลิกดาโรกลู (Kemal Kilicdaroglu) ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีตุรกีจากพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นตัวเต็งและคู่แข่งหลักของประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ (14 พฤษภาคม) กล่าวหารัสเซียว่าทำการแทรกแซงการเลือกตั้งภายในประเทศ ก่อนที่จะมีการลงคะแนน
โดยคิลิกดาโรกลู ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน CHP ระบุว่ามีแฮกเกอร์ต่างชาติที่ได้รับการว่าจ้างจากคู่แข่งของเขา กำลังเตรียมใช้ Deepfake ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสร้างสื่อสังเคราะห์เพื่อปลอมแปลงลักษณะบุคคล ในการสร้างคลิปวิดีโอและเสียงปลอม เพื่อมุ่งทำลายชื่อเสียงของฝ่ายค้านก่อนการเลือกตั้ง
“เพื่อนชาวรัสเซียที่รัก คุณอยู่เบื้องหลังการตัดต่อ การสมรู้ร่วมคิด เนื้อหาปลอมจาก Deepfake และเทปที่ถูกเปิดโปงในประเทศนี้” เขากล่าว
ขณะที่เมื่อวานนี้ (12 พฤษภาคม) คิลิกดาโรกลูเปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ยืนยันว่าพรรคของเขามีหลักฐานที่แสดงถึงความรับผิดชอบของรัสเซียในการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ที่ถูกปลอมแปลงด้วย Deepfake
นอกจากนี้เขายังทวีตข้อความเตือนเป็นภาษาตุรกีและรัสเซียว่า “ถ้าหากคุณต้องการมิตรภาพของเราหลังวันที่ 15 พฤษภาคม ให้หยุดยุ่งกับตุรกีเสีย”
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อกล่าวหาดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก มูฮาร์เรม อินซ์ (Muharrem İnce) หนึ่งในผู้สมัครชิงประธานาธิบดีจากพรรคโฮมแลนด์ (Homeland Party) ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขัน หลังจากตกเป็นเป้าหมายของการให้ร้ายและบิดเบือนทางออนไลน์
ทางด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน ได้แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือแทรกแซงในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของตุรกี
“เราปฏิเสธถ้อยแถลงดังกล่าวอย่างยิ่ง เราประกาศอย่างเป็นทางการว่าไม่มีการพูดคุยถึงการแทรกแซงใดๆ หากมีใครให้ข้อมูลดังกล่าวแก่คิลิกดาโรกลู พวกเขาคือคนโกหก” เปสคอฟกล่าว พร้อมทั้งเสริมว่ารัสเซียนั้นให้ความสำคัญอย่างมากกับรัฐบาลตุรกี
“ตุรกีมีความรับผิดชอบสูง มีอำนาจอธิปไตย และมีจุดยืนอย่างรอบรู้ เกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลกทั้งหมดที่เราเผชิญ”
ที่ผ่านมา รัสเซียและตุรกียังคงรักษาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นท่ามกลางสถานการณ์สงครามที่รัสเซียบุกยูเครน โดยแอร์โดอันทำหน้าที่เป็นตัวกลางหลายครั้งในการพูดคุยทั้งกับมอสโกและเคียฟ
ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาตุรกีที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ
โดยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนล่าสุด ชี้ว่าคิลิกดาโรกลูมีคะแนนนิยมนำเป็นอันดับ 1 ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นไปได้ที่เขาอาจโค่นเก้าอี้ของแอร์โดอัน ที่อยู่ในอำนาจผู้นำ ทั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีมายาวนานถึง 20 ปี
ภาพ: Burak Kara / Getty Images
อ้างอิง:
